
ฮ.ตกทหารดับ9นายความสูญเสียที่ซ้ำรอยกองทัพ
ฮ.ตกทหารดับ9นาย ความสูญเสียที่ซ้ำรอยกองทัพ : 10ข่าวเด่นปี2557
"เฮลิคอปเตอร์" เบลล์ 212 ของกองทัพบก ตกบริเวณกลางทุ่งนาบ้านดอกบัว หมู่ 11 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ในรอบปี 2557 ของกองทัพไทย ที่ต้องสูญเสียบุคลากรอันทรงคุณค่า "พล.ต.ทรงพล ทองจีน" รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ รวม 9 นาย นับเป็นการจากไปอย่างสมเกียรติของทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่จนลมหายใจสุดท้าย
หลังเกิดเหตุมีการเผยแพร่ภาพการรับประทานอาหารกลางวันที่ มณฑลทหารบกที่ 32 จ.ลำปาง และภาพการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ ระหว่างตรวจราชการของหน่วยในสายงานส่งบำรุง ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จ.พะเยา ซึ่งนับเป็นภารกิจสุดท้าย ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้น
การปฏิบัติภารกิจในวันเกิดเหตุ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. นักบินได้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นสู่น่านฟ้าจากฐานปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก เพื่อนำ พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ ไปตรวจราชการที่ จ.ลำปาง โดยไปถึงที่หมายในเวลาประมาณ 10.00 น. หลังจากนั้นภารกิจต่างๆ ก็เริ่มขึ้น และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางออกไป จ.พะเยา
ต่อมาเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ลำเดิมก็ยกตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อนำ พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 และคณะ ไปตรวจราชการต่อที่ ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จ.พะเยา โดยถึงที่หมายในเวลาประมาณ 15.00 น. จากนั้น พล.ต.ทรงพล ทองจีน และคณะ ได้ตรวจราชการของหน่วยในสายงานส่งบำรุง
ตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าที่เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจ เครื่องยนต์ทำงานปกติ โดยที่ไม่มีสัญญาณความผิดปกติของเครื่องยนต์แต่อย่างใด
จนกระทั่งเวลา 17.20 น.นักบินก็ได้เวลานำเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นสู่น่านฟ้าอีกครั้ง เพื่อนำผู้บังคับบัญชามุ่งหน้าไปปฏิบัติภารกิจต่อที่ จ.เชียงราย แต่การยกตัวขึ้นของเฮลิคอปเตอร์ในครั้งนี้ กลายเป็นครั้งสุดท้าย
ภายหลังจากเฮลิคอปเตอร์ยกตัวขึ้นสู่น่านฟ้าได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น ก็เกิดเหตุระทึก ! เฮลิคอปเตอร์ร่วงลงสู่พื้นดิน บริเวณกลางทุ่งนาบ้านดอกบัว หมู่ 11 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ก่อนระเบิดดังสนั่น พร้อมกับเปลวไฟลุก ทำให้ พล.ต.ทรงพล ทองจีน และคณะ รวม 9 นาย เสียชีวิตทั้งหมด ท่ามกลางความตื่นตระหนกตกใจของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างรีบวิ่งเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ด้วยความหวังว่า จะมีผู้รอดชีวิต จะได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้เฮลิคอปเตอร์ได้ด้วยเป็นเพราะความร้อนจากเปลวไฟที่ลุกท่วมเครื่องบินกระจายไปทั่วบริเวณ
สำหรับนายทหารทั้ง 9 นาย ที่เสียชีวิต ได้แก่ พล.ต.ทรงพล ทองจีน รองแม่ทัพภาคที่ 3 (รอง มทภ.3) พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ รอง ผอ.กกบ.ทภ.3 พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง ฝยย.ทภ.3 พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข ผช.นายทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง ทภ.3 จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ ชรก.ผยย.ทภ.3 พ.ท.มานิต สุรเสนา นักบิน ร.อ.วรพงษ์ ช่างสลัก นักบิน จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงศ์ ช่างเครื่อง และ จ.ส.อ.อภิรุณ แสนดอนดู่ ช่างเครื่อง
การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนายทหารทั้ง 9 นาย กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิกำลังพล การมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิ ได้แก่ เงินค่าทดแทน เงินบำเหน็จตกทอด เงินสินไหมทดแทนจากการประกันชีวิตของกองทัพบก เงินบำรุงขวัญจากหน่วยงานต่างๆ เงินสงเคราะห์ฌาปนกิจ เป็นต้น โดยได้รับประมาณ 2-6 ล้านบาท ตามสิทธิของแต่ละบุคคล
พร้อมกันนี้กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น และขอพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษให้แก่ผู้เสียชีวิต
โดย พล.ต.ทรงพล ทองจีน พ.อ.กิตติ สุวรรณเจริญ พ.อ.ยุทธพงษ์ เพื่อนฝูง พ.ท.วุฒิศักดิ์ สุนทรสุข และพ.ท.มานิต สุระเสนา ทั้ง 5 คนจะได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นเป็น "พลเอก"
สำหรับ ร.อ.วรพงศ์ ช่างสลัก ได้รับพระราชทานยศเป็น "พันเอก" จ.ส.อ.อนันต์ ชมเชียงคำ ได้รับพระราชทานยศเป็น "พลโท" จ.ส.อ.อภิรุณ แสนดอนดู่ ได้รับพระราชทานยศเป็น “พลตรี” และ จ.ส.อ.สมภพ มาลัยวงศ์ ได้รับพระราชทานยศเป็น "พันโท"
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต่างเร่งกู้ซากเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวอย่างหนัก และสำเร็จเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พร้อมกับนำชิ้นส่วนทั้งหมดที่เก็บกู้เคลื่อนย้ายไปยังศูนย์การบินทหารบก ลพบุรี เพื่อตรวจสอบพร้อมกับหาสาเหตุอย่างละเอียด
อุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะเกิดขึ้นครั้งใด นั่นหมายถึงความสูญเสียที่จะตามมา ดังนั้น การใช้ยานพาหนะต่างๆ อย่าง รถยนต์ เรือ เครื่องบิน ล้วนแล้วแต่จะต้องหมั่นดูแลรักษา สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า เฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ 212 ที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ เป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นเก่า มีโอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุสูง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น นักบินก็ไม่อยากให้เกิด ช่างเครื่องก็ตรวจเครื่องยนต์สม่ำเสมออยู่แล้ว ดังนั้น ต้องตรวจสอบสาเหตุว่าเกิดเพราะอะไร
"ประเด็นที่บอกว่าเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 เป็นรุ่นเก่าก็ยอมรับ แต่ทุกประเทศก็ใช้รุ่นนี้ และยังมีที่เก่ายิ่งกว่านั้นคือ รุ่นเอชยูเอชดี ซึ่งเป็น ฮ.ท.1 อายุ 30-40 ปี ก็ยังบินได้อยู่ โดยเราซ่อมแซมและเปลี่ยนเครื่องยนต์ต่างๆ ให้ใช้การได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังจัดหาเครื่องและมีแผนในการจัดหา แต่เมื่อมีงบประมาณที่จำกัด ไม่ได้งบก็ต้องใช้ของเก่าไปเรื่อยๆ เพื่อเอามาทดแทน ฮ.ท.1 ก่อน จากนั้นจึงจะหามาแทนรุ่นเบลล์ 212 ซึ่งรุ่นนี้ดีกว่า ฮ.ท.1 ก็ยังตก ทุกอย่างมีโอกาสได้เมื่อเท้าพ้นพื้น" นายกฯ กล่าว
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวยอมรับเช่นเดียวกันว่า เป็นเครื่องรุ่นเก่าจริง กองทัพบกใช้งานมานานแล้ว และมีประจำการกว่า 40 เครื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ทุกเครื่องที่ประจำการ ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นอย่างดี
"เฮลิคอปเตอร์ของเราจะเก่าหรือไม่เก่า ก็มีการปรนนิบัติบำรุงรักษาเป็นอย่างดี และเราดำเนินการทุกขั้นตอน เครื่องยนต์รับรองไม่มีเก่า เราจะเปลี่ยนเครื่องยนต์และอะไหล่ตามวงรอบตลอด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง” พล.อ.ประวิตร กล่าว
เหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของกองทัพบกที่ต้องสูญเสียทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่า ไปถึง 9 นาย เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพิ่งเกิดขึ้น
ย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2554 แทบจะไม่น่าเชื่อว่า จะเกิดอุบัติเฮลิคอปเตอร์ ร่วงซ้ำถึง 3 ครั้ง ในห้วงเวลาห่างกันไม่กี่วันในเดือนเดียวกัน ทหารและพลเรือนเสียชีวิต 17 นาย
เริ่มจากวันที่ 16 กรกฎาคม เฮลิคอปเตอร์ รุ่น "ฮิวอี้" ตกขณะปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้บุกรุกป่าไม้บริเวณตะเข็บชายแดนไทย-พม่า มีผู้เสียชีวิต 5 นาย หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน เฮลิคอปเตอร์ รุ่น "แบล็กฮอว์ก" นำโดย พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 ประสบอุบัติเหตุซ้ำอีกขณะนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นค้นหาเฮลิคอปเตอร์ลำแรก มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 นาย
สุดท้าย วันที่ 24 กรกฎาคม ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ รุ่น "เบลล์ 212" เดินทางไปลำเลียงศพทหารที่เสียชีวิตกลับมาบำเพ็ญกุศลก็ได้เกิดอุบัติเหตุตกลงกลางป่า ส่งผลให้ทหารเสียชีวิตอีก 3 นาย บาดเจ็บ 1 นาย
เหตุการณ์ในปี พ.ศ.2554 ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ทำให้เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 3 ลำร่วงลงสู่พื้นน่าจะมาจากเรื่องของ สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการบิน
เหตุโศกนาฏกรรม เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ที่ จ.พะเยา ยังต้องติดตามและรอฟังคำชี้แจงจากกองทัพบกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใดแน่ เพราะวันดังกล่าว สภาพอากาศไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบินแต่อย่างใด
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้ง ทุกคนต่างภาวนาขอให้เป็นครั้งสุด และหวังว่า นับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป จะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ...