ข่าว

ตร.บุกชิงตัวประกันซิดนีย์ดับ3รวมคนร้าย

ตร.บุกชิงตัวประกันซิดนีย์ดับ3รวมคนร้าย

16 ธ.ค. 2557

วิกฤตตัวประกัน 16 ชั่วโมง ในออสเตรเลีย ยุติลงเมื่อตำรวจตัดสินใจบุกดวลปืนกับคนร้าย มีผู้เสียชีวิตรวม 3 คน

 
 
          ตำรวจออสเตรเลียพร้อมอาวุธหนัก ตัดสินใจบุกเข้าไปในร้านลินด์ ช็อคโกแล็ต คาเฟ่ ในย่านมาร์ตินเพลซ ในนครซิดนีย์ เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ เพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกคนร้ายควบคุมตัวไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ภายใต้ปฏิบัติการที่รวดเร็วเพื่อยุติวิกฤตการณ์ที่ยืดเยื้อนาน 16 ชั่วโมง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน รวมทั้งคนร้าย
 
          แม้ว่าตำรวจจะยังไม่ได้ระบุตัวคนร้ายที่ลงมือเพียงลำพัง แต่แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า เขาคือ นายมัน ฮารอน โมนิส วัย 50 ปี ผู้อพยพชาวอิหร่าน ที่อ้างตนว่า เป็นชี้คอาหรับ และเคยส่งจดหมายมีข้อความดูหมิ่นเกลียดชังไปให้ครอบครัวของทหารออสเตรเลีย ที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถาน และยังถูกตั้งข้อหาเมื่อปีที่แล้วว่า สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรมภรรยาเก่าของเขา และอยู่ระหว่างได้ประกันตัว
 
          นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอ็บบอตต์ กล่าวว่า คนร้ายเป็นที่รู้จักดีในหมู่เจ้าหน้าที่ทางการออสเตรเลีย เขามีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงมานาน หลงใหลอยู่กับความรุนแรงและสภาพจิตใจไม่มั่นคง เขาใช้สัญลักษณ์ของ "ลัทธิความตายของ IS" ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ออสเตรเลียนั้นเปราะบางต่อสิ่งที่เรียกว่า "ความรุนแรงที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง"  นอกจากนี้ คนร้ายยังมีประวัติก่อคดีประทุษร้ายทางเพศหลายสิบคดี ในระหว่างที่แอบอ้างตัวว่าเป็นผู้เยียวยาทางจิตวิญญาณด้วย
 
          ในระหว่างที่คนร้ายควบคุมตัวประกันไว้ในร้านลินด์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเซ็นทรัล บิสสิเนสส์ ดิสทริคต์หรือ CBD ตัวประกันได้ถูกบังคับให้ผลัดกันชูธงสีดำ มีตัวหนังสือเป็นภาษาอารบิคสีขาว ที่เรียกว่า"ชาฮาดะห์" ที่มีความหมายว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ และมูฮัมหมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะห์" ซึ่งจุดชนวนความหวาดกลัวว่า กลุ่มญีฮัดได้เปิดฉากโจมตีใจกลางนครใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย
 
          แต่เมื่อเวลา 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีตัวประกันอย่างน้อย 6 คน สามารถหลบหนีออกมาได้ หลังจากมีเสียงปืนดังขึ้นภายในร้าน ตำรวจพร้อมอาวุธหนักได้บุกเข้าไปในร้านทันที ตามด้วยเสียงปืนและระเบิดแสง ดังกึกก้องออกจากอาคาร โดยมีตัวประกันส่วนหนึ่งวิ่งกรูกันออกมาด้วยความหวาดกลัว แอนดรูว์ ชิปิโอเน ผู้บัญชาการตำรวจนิวเซาท์เวลส์ แถลงว่า ได้รับโทรศัทพ์แจ้งจากหน่วยตำรวจสื่อสาร ชี้แจงสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจบุกเข้าไปยังอาคารโดยปราศจากการแจ้ง
เตือนใดๆ ว่า เพราะมีตัวประกันเสียชีวิต ถ้าไม่บุกเข้าไปก็อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ 
 
          ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ตัวประกันที่เสียชีวิต 2 คน เป็นเพราะถูกคนร้ายสังหาร หรือ ถูกลูกหลงในขณะที่เจ้าหน้าที่ยิงต่อสู้กับคนร้าย ขณะที่สื่อมวลชนรายงานว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ ทอรี่ จอห์นสัน ผู้จัดการร้านวัย 34 ปี ที่เสียชีวิตในระหว่างพยายามแย่งปืนจากคนร้าย เพื่อปกป้องตัวประกันคนอื่น เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ และอีกคนหนึ่งคือ แคทริน่า ดอว์สัน คุณแม่ลูก 3 และทนายความ วัย 38 ปี ถูกประกาศว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน รวมทั้งตำรวจ 1 นาย ที่ถูกกระสุนลูกปรายเข้าที่ใบหน้า และผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกยิงที่ขา
 
          หน่วยเก็บกู้ระเบิดได้เข้าไปค้นหาระเบิดภายในร้าน แต่ไม่พบแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่ตกเป็นตัวประกันในเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้ มีทั้งหมด 17 คน รวมทั้งอีก 5 คน ที่หนีออกไปได้ก่อนเมื่อวันจันทร์ 
 
          ตำรวจยังคงปิดล้อมบริเวณรอบร้านลินด์ คนที่เดินผ่านไป-มา รวมถึงคนทำงาน ต่างนำดอกไม้ไปวางเพื่อไว้อาลัยใต้เทปกั้นของตำรวจ ธงชาติทั่วนครซิดนีย์ถูกลดลงครึ่งเสา บรรดาผู้นำโลกต่างพากันแสดงความวิตกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งนายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ที่เพิ่งเผชิญเหตุการณ์ที่คนร้ายที่ต้องสงสัยว่า ฝักใฝ่ญีฮัด บุกโจมตีอาคารรัฐสภา เมื่อเดือนตุลาคม 
 
          สื่อมวลชน รายงานว่า นายโมนิส มีประวัติเคยกระทำผิดเมื่อปี 2555 ฐานส่งข้อความข่มขู่และดูหมิ่นครอบครัวของทหาร 8 นาย ที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถาน เพื่อประท้วงที่ออสเตรเลียเข้าไปพัวพันกับสงครามในอัฟกานิสถาน และยังถูกตั้งข้อหามากกว่า 40 ข้อหา ในคดีประทุษร้ายทางเพศด้วย 
 
          ด้านเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐได้รับแจ้งจากทางการออสเตรเลียว่า ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า คนร้ายเกี่ยวกับข้องกับองค์กรก่อการร้ายใดๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงก็เตือนว่า การป้องกันการโจมตีของคนร้ายที่ลงมือเพียงลำพังเป็นเรื่องที่ยาก  เจนส์ เดวิด โอห์ลิน อาจารย์นิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยคอร์เนล ให้ความเห็นที่นิวยอร์กว่า เรากำลังเข้าสู่เฟสใหม่ของลัทธิก่อการร้ายที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม และยากที่เอาชนะยิ่งกว่าอัล ไกดาเสียอีก 
 
          ออสเตรเลีย ได้ชื่อว่าเป็นพันธมิตรของสหรัฐ และขยายปฏิบัติการต่อสู้กับกลุ่ม IS ในอิรักและซีเรีย ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูง เนื่องจากเกรงว่า พวกที่เดินทางไปร่วมรบกับ IS ในตะวันออกกลาง หรือผู้สนับสนุน จะก่อเหตุบนแผ่นดินออสเตรเลียส่วนเหตุร้ายล่าสุด ได้ส่งผลให้มีการอพยพในบริเวณอาคารใกล้เคียง และส่งคลื่อนความตื่นตระหนกไปทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนหวาดกลัวการฉลองเทศกาลคริสต์มาส เพราะวิตกด้านความปลอดภัย