
'ประวิตร'ปัด'อักษรา'ดอดพบอดีตผอ.ข่าวกรองมาเลเซีย
12 ธ.ค. 2557
"พล.อ.ประวิตร" นั่งหัวโต๊ะประชุมสภาความมั่นคง ปฏิเสธข่าว "พล.อ.อักษรา" ดอดพบอดีตผอ.ข่าวกรองมาเลเซีย
วันที่ 12 ธ.ค.57 เมื่อเวลา 14.00น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)เข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าคณะของ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย ได้ไปพบกับ ดาโต๊ะ สรี อาหมัด ซัมซามิน ฮาชิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองมาเลเซีย ทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยสันติสุขและคณะว่า ไม่เป็นความจริง หยุดยิงเรื่องอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เราไม่ได้คุยให้หยุดยิง แต่เราคุยสันติสุข ทำอย่างไรให้เกิดสันติสุขขึ้น เพราะมันไม่ใช่การรบกัน แต่เป็นการพูดคุยเพื่อปกป้องคนดี ให้คนดีมีอาชีพ เราจะไปรบกับใคร เขาก็ไม่มีกองกำลัง มันเกี่ยวข้องกับความไม่เข้าใจกัน เรามาพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
เมื่อถามว่า ความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่มี ใจเย็นๆ อย่างไรก็ตามจะเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่ม ใครอยากคุยก็เข้ามาคุยเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายฮัดซัน ตอยิบ ยังเป็นหัวหน้าพูดคุยฝ่ายบีอาร์เอ็น อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร มันเป็นเรื่องของคณะพูดคุย ซึ่งคณะพูดคุยยังไม่รู้เลยว่าเป็นใครบ้าง
"ประวิตร"เลี่ยงตอบประเด็นข้อเสนอนิรโทษกรรม ลั่นไม่ได้เกรงอะไรทั้งสิ้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงข้อเสนอการนิรโทษกรรมว่า เป็นเรื่องของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ที่มีการพูดกัน ซึ่งคิดได้หมด แต่ยังไม่ตกผลึก ตนยังไม่รู้เรื่องอะไร ต้องให้เขาคิดกันไปก่อน อะไรก็ยังไม่จบ ต้องให้ผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 200 คน ก็มี 200 ความคิด แต่จะทำอย่างไรให้พูดไปแล้วตกผลึกเป็นความคิดอันเดียวกันและให้ประชาชนรับรู้ ขณะนี้ก็ต้องให้สปช.คิดกันไปก่อน
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่เมื่อมีประเด็นนิรโทษกรรมเกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกรงอะไรเลย ไม่เกรงอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ชัดเจน รัฐบาลทำทุกอย่างอย่างชัดเจน
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ประชาชนสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ ตอนนี้ยังเรียบร้อยดี ทุกคนก็ทราบกัน รัฐบาลต้องการให้ทุกคนมีความสุข เกิดความสงบเรียบร้อย ทำทุกอย่างเพื่อให้ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของตนที่ดูแลเรื่องความมั่นคง ซึ่งตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว
ส่วนการประเมินสถานการณ์ความมั่นคงในช่วงเทศกาลปีใหม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า มีการดูแลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลให้เรียบร้อยทั้งประเทศ ดูแลชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชน ส่วนกระทรวงกลาโหมได้เตรียมของขวัญปีใหม่ไว้ให้ประชาชนโดยเป็นการเปิดให้ประชาชนมาท่องเที่ยวให้หน่วยทหารฟรี อย่างไรก็ตามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุว่าต้องการให้แต่ละกระทรวงมีอะไรที่จะทำให้ประชาชนได้ ก็ถือเป็นของขวัญ อะไรที่ทำให้ประชาชามีความสุข เราก็ทำทุกอย่าง
เมื่อถามว่าช่วงปีใหม่หน่วยงานด้านความมั่นคงจะมีการดูแลพื้นที่ไหนเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ดูแลทุกพื้นที่ พิเศษทุกพื้นที่ เป็นหน้าที่ของผู้กำกับทุกพื้นที่ ตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยต้องดูแลทุกพื้นที่ ขณะเดียวกันประชาชนก็ต้องช่วยกันดูแลด้วย
เมื่อถามว่า การแถลงผลงานรัฐบาลในวันที่ 25 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่วนตัวพอใจในผลงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ แต่ตนเองพอใจ เพราะทำเต็มที่แล้ว ถ้าผู้สื่อข่าวไม่พอใจก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อดหลับอดนอนทำเต็มที่แล้ว
"ประวิตร-ปณิธาน"ผสานเสียงยันไม่มีคุกลับในไทย
พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันกรณีรายงานของคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสหรัฐระบุว่าซีไอเอใช้ประเทศไทยเป็นคุกลับทรมานนักโทษอเมริกาว่า "ไม่มีครับ ไม่มีคุกลับ ในเมืองไทยไม่มีคุกลับ เขาตอบกันทุกคนแล้ว ถามจัง ไม่เคยมีด้วย"
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องส่งหนังสือชี้แจงไปยังซีไอเอหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครเขียนตนยังไม่รู้เลย ส่วนผลกระทบที่สหรัฐฯแจ้งเตือนนั้น เรามีความพร้อมอยู่แล้ว เราเตรียมการไว้แล้ว ทุกที่เราก็ดูแลความสงบให้กับประชาชน
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตร) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เรื่องดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐได้มีการสอบสวนสำนักงานข่าวกรองกลางมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นการปรับการทำงานและมีผลกระทบต่อประเทศพันธมิตร และในรายงานดังกล่าวนั้นอาจจะมีการเปิดเผยไม่ครบถ้วน ซึ่งดูแล้วรัฐบาลสหรัฐฯปัจจุบันกำลังจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะในรูปแบบเดิมมีการต่อต้านกันมาก ไม่ว่าจะประชาชนสหรัฐฯเองและต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าสหรัฐฯมีการใช้ประเทศต่างๆ เป็นสถานที่สอบสวนนักโทษจริงใช่หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายงานฉบับเต็ม ซึ่งมี 20 ประเด็นที่คณะกรรมาธิการข่าวกรองของสหรัฐฯได้ตั้งข้อสังเกตแต่ไม่ได้เกี่ยวกับประเทศไทย แม้เราจะมีพันธะสัญญาด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯอยู่แล้วก็ตาม และทุกรัฐบาลของไทยก็ไม่มีนโยบายให้สหรัฐฯเข้ามาใช้พื้นที่ในประเทศสำหรับใช้ในการสอบสวนผู้ต้องหา แม้แต่รัฐบาลสหรัฐฯมาขอใช้ฐานทัพเราก็ยังปฏิเสธ ส่วนในแง่ของการต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งได้ร่วมกับหลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯด้วยมีการคัดกรองค่อนข้างดี เมื่อจับตัวคนร้ายได้ก็จะส่งออกนอกประเทศด้วยเวลาที่รวดเร็ว เราไม่มีนโยบายกักกันนักโทษต่างชาติไว้ในประเทศเป็นเวลานาน
เมื่อถามว่าเราต้องชี้แจงกับต่างชาติเพื่อให้เกิดความเข้าใจเพิ่มเติมหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า คิดว่าต่างชาติทราบและเข้าใจอยู่แล้ว แต่เพื่อความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น กระทรวงต่างประเทศก็จะรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้มีการประชุมเพื่อปรับแผนการแจ้งเตือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาขึ้นก็จะปฏิบัติตามแผนที่วางไว้