
'นัดดา วิยกาญจน์'แจ้งความข้างบ้านทุบสร้างใหม่ได้รับผลกระทบ
11 ธ.ค. 2557
"นัดดา วิยกาญจน์"โร่แจ้งความข้างบ้านทุบสร้างหลังใหม่ได้รับผลกระทบนาน 2 ปี
วันที่ 11 ธ.ค.57 เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.บางเขน นางนัดดา วิยกาญจน์ อายุ 63 ปี นักร้องรุ่นเดอะเจ้าของผลงานเพลงเป็นที่นิยมอย่างเพลงเสน่หา ลมหวน ม่านบังตา มีดอกไม้มาฝาก และเพลงฉันไม่แคร์ พร้อมด้วย นางนิตยา วิยกาญจน์ อายุ 85 ปี มารดา อยู่หมู่บ้านชัยพฤกษ์ เลขที่ 7/352 ซ.รามอินทรา 55 ถ.วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับ ร.ต.ท.จักรพงศ์ แสงศร พนักงานสอบสวนสน.บางเขน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากข้างบ้านทุบบ้านและสร้างใหม่ต่อเติมบ้านจนทำให้บ้านของตนได้รับความเสียหาย
นางนัดดา เปิดเผยว่า เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี 55 กระทั่งถึงทุกวันนี้ ซึ่งขณะที่ตนอยู่ที่บ้านพักอาศัยพร้อมคนในครอบครัว ได้มีการทุบและก่อสร้างบ้านที่อยู่ข้างบ้านตน โดยเริ่มจากทุบบ้านเก่าจากนั้นได้เริ่มการก่อสร้างใหม่ โดยการตอกเสาเข็ม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่บ้านข้างเคียงทำการก่อสร้าง ทำให้บ้านของตนได้รับความเสียหาย เช่น รั้วบ้านพัง กำแพงบ้านร้าว พื้นบ้านทรุดจากการก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังมีปุ่นละออง เสียงดังรบกวน ตั้งแต่เช้าจนบิดาป่วยเป็นโรคปอด เนื่องจากฝุ่นละออง ทำให้ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้ ต้องเข้าไปพักที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนมารดาซึ่งมีอายุมากแล้ว ก็มีอาการเจ็บป่วย ไม่สามารถจะใช้ชีวิตตามปกติได้ เนื่องจากทุกวันจะมีฝุ่นละอองปลิวเข้ามาในบ้าน
นางนัดดา กล่าวต่อว่า ต่อมาตนได้ไปร้องเรียนที่เขตบางเขนจึงได้มีการพบเจอกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขในเรื่องการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝุ่นละอองที่ไม่มีการปิดพื้นที่การก่อสร้าง และการซ่อมแซมตัวบ้านของตนที่ได้รับความเสียหาย และเมื่อได้ติดต่อไปหาเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวกลับได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่า เจ็บป่วยบ้าง ไม่ว่างบ้าง และขาดการติดต่อไป ทำให้ทุกวันนี้ตนได้รับความเดือดร้อน และไม่สามารถที่จะพักอาศัยได้ จนต้องพาครอบครัวไปพักที่โรงแรม และต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายในการดูแลบิดา และที่มาวันนี้ไม่ต้องดำเนินคดีใดๆ เพียงแต่ต้องการเรียกร้องเพื่อนบ้านหลังดังกล่าวให้มาเยียวยา ดูแลผลกระทบจากการก่อสร้างที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นางนัดดา ได้นำบิลรายการค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นการซ่อมแซมบ้าน และค่าใช้จ่ายในการดูแลบิดาที่เข้าพักที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 500,000 บาท รวมถึงค่าชดเชยคุณภาพชีวิตที่ไม่สามารถที่จะตีมูลค่าได้ และต้องการให้ทางเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาพูดคุยกับตนเท่านั้นหลังจากที่เป็นข่าว