ข่าว

'หมอประเวศ'แนะสร้างสังคมสันติสุข

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'หมอประเวศ' แนะสร้างสังคมสันติสุข เชื่อพลังพลเมืองชี้ขาดอนาคตของประเทศ

 
              11 ธ.ค.57 เมื่อเวลา 09.45 น.ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ สถาบันพระปกเกล้า ได้จัดเสวนา เรื่อง" สานเสวนา สานใจประชา สู่การปฏิรูปประเทศ "โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงทัศนะ และข้อเสนอแนะสู่การปฏิรูปประเทศอย่างมีส่วนร่วม โดย นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธานหลักสูตรการเสริมสร้างสังคมสันติสุข สถาบันพระปกเกล้า กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"การเสริมสร้างสังคมสันติสุขในสังคมไทย" ตอนหนึ่งว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นความพยายามครั้งใหญ่ของคนไทยที่จะสร้างสิ่งสูงสุดคือสังคม สันติสุข เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันและต้องการตรงกัน หากไปต้องการเริ่มต้นในสิ่งที่ต่ำกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง หรือเศรษฐกิจ คนก็จะทะเลาะกันอีกได้ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องสันติสุขไม่มีใครทะเลาะกัน ดังนั้นเรื่องการปรองดองต้องเริ่มจากสิ่งที่คนเห็นตรงกันคือต้องการให้สังคมไทยอยู่เย็นเป็นสุขและยั่งยืน โดยสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยต้องติดอยู่ในภาวะวิกฤตินั้น เกิดจากความขัดแย้งระหว่างสังคมที่มีจิตเล็กกับขนาดสังคมที่มีจิตขนาดใหญ่ เป็นจิตที่มองแคบและแยกส่วน จึงจำเป็นต้องสร้างโลกทัศน์และจิตสำนึกใหม่รวมทั้งสร้างวิถีคิดใหม่เพื่อให้สังคมไทยสันติสุข
 
              นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า หลายทศวรรษที่ผ่านมาสังคมไทยพยายามดิ้นรนหาวิธีการที่จะสร้างสังคมสันติสุข ขณะนี้เรารู้แล้วว่าปัจจัยใดบ้างที่จะสร้างสังคมสันติสุขได้นั้นมีด้วยกันหลายประการ คือ
 
              1.ถ้าชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งจะเกิดสังคมสันติสุข ซึ่งขณะนี้มีตัวอย่างชุมชนเข้มแข็งทยอยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการทำให้ชุมชนเกิดความสันติสุขง่ายกว่าสังคมขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อมที่คำนึงถึงการอยู่ร่วมกัน ซึ่งแตกต่างกับสังคมขนาดใหญ่ที่อยู่กับอำนาจ มายาคติ และความฉ้อฉล ดังนั้นหัวใจสำคัญอยู่ที่การปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ ที่ผ่านมาเรารวมศูนย์อำนาจมากเกิน ทำให้เกิดความขัดแย้งกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงของชายแดนภาคใต้ ดังนั้นหัวใจของการปฏิรูปคือการคืนอำนาจให้ประชาชนปกครองตัวเอง ให้ชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัดจัดการตัวเอง
 
              2. ต้องสร้างสัมมาชีพ เพราะจะเป็นปัจจัยของการสร้างความร่มเย็นเป็นสุข ทำให้ความชั่ว ปัญหาการลักขโมยหายไป เนื่องจากทุกคนมีอาชีพ แต่การพัฒนาที่ผ่านมาเราพัฒนาแบบทำลายเศรษฐกิจชาวบ้าน ทำให้ชาวนา ชาวไร่ ยากจนขึ้น หากทำให้ทุกท้องถิ่นมีสัมมาชีพแบบทั่วถึงก็จะทำให้ทุกคนมีเกียรติ มีรายได้ ความรุนแรงก็จะน้อยลง
 
              3. ต้องปฏิรูประบบการศึกษา เนื่องจากอดีตที่ผ่านมาเป็นการศึกษาที่ผิด จัดระบบแบบสิบปากว่า ท่องจำ ทำให้เป็นการศึกษาแบบศูนย์เปล่า ดังนั้น ต้องปฏิรูปการศึกษาให้เชื่อมโยงกับการพัฒนาทุกรูปแบบเพื่อให้การศึกษาเป็นพลังของการสร้างสังคมสันติสุข
 
              4. การสร้างสัมพันธภาพเชิงอำนาจ ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นสังคมทางดิ่ง การเมือง ศีลธรรม ไม่ดี จึงจำเป็นต้องปรับให้เป็นสังคมทางราบ ทำให้ประชาชนมีความเสมอภาค เป็นสังคมที่เข้มแข็ง มีความเป็นพลเมืองสูง รวมทั้งจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการเพื่อกระจายอำนาจไปยังส่วนต่าง ๆ เพราะหากไม่กระจายอำนาจก็จะเป็นการกินรวบเพื่อให้ได้อำนาจทั้งประเทศ หากกระจายอำนาจอย่างทั่วถึงก็จะไม่เป็นแรงจูงใจให้คนอยากได้อำนาจ  ส่วนเรื่องความยุติธรรมและความเป็นธรรมนั้น หากประเทศมีความเป็นธรรมคนก็จะรักกัน หากไม่เป็นธรรมคนก็จะไม่รักกัน ดังนั้นต้องปฏิรูปจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรมกระจายไปทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม
 
              นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังมีการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ มีการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขึ้นมาพิจารณากฎหมาย ตั้งสภาปฏิรูปประเทศแห่งชาติ (สปช.) เพื่อทำการปฏิรูปและชักชวนคนไทยมาร่วมปฎิรูปประเทศ ซึ่งเป็นความพยายามครั้งใหญ่ของคนไทย ก่อนหน้านี้ตนเคยพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าหลายปี ว่า ทุกฝ่ายจะหันมาช่วยกันปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ทำนายไว้ เพราะประเทศถึงทางตัน จนทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันหาทางออก โดยกระบวนการปฏิรูปคือ กระบวนการสร้างสังคมสันติสุข อย่าไปดูเฉพาะการปฏิรูปการเมืองเพียงอย่างเดียวมันไม่สำเร็จต้องทำหลายเรื่องควบคู่ไปพร้อมกัน แม้สปช.มีอายุทำงานเพียง 1 ปี แต่การปฏิรูปประเทศไทยมีอายุยาวนานถึง 10-20 ปี สปช.จะทำได้เพียงสร้างรัฐธรรรมนูญและกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการปฏิรูปไว้เท่านั้น แต่กระบวนการปฏิรูปต้องขับเคลื่อนไปอีกยาวนาน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรทำคือการสร้างเครือข่ายพลเมืองในการขับเคลื่อนประเทศไทย โดยคณะกรรมาธิการชุดต่างๆและผู้นำชุมชนจะต้องร่วมมือกัน เพราะเชื่อว่าพลังพลเมืองจะเป็นปัจจัยชี้ขาดอนาคตของประเทศ
 
 
 
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ