รวบ!‘ทหารกำมะลอ’แต่งเต็มยศนั่งจิบเบียร์ริมถนน | คมชัดลึก

 

 

          วันที่ 27 พ.ย.57  พ.ต.ท.คงศักดิ์ ปานน้อย รอง ผกก.สส.สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งจากพลเมืองดีเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 26 พ.ย. ว่ามีบุคคลต้องสงสัยแต่งกายชุดทหารเต็มยศ พกปืนนั่งดื่มเบียร์ในร้านอาหารไม่มีชื่อ หน้าสนามฟุตซอลถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.ศิริชาติ จันทร์พรมมา สว.สส.สน.ภาษีเจริญ และเจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.ป.พัน.9 

 

          ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง พบชายแต่งกายชุดฝึกลายพรางยศ จ่าสิบเอก สวมเสื้อกั๊กลายพราง ติดปีกคุณวุฒิหลักสูตรสำคัญทั้งจู่โจม และกระโดดร่ม คาดเข็มขัดสนามประกอบอาวุธปืนบีบีกันเลียนแบบขนาด 11 มม. นั่งจิบเบียร์อยู่ภายในร้านในสภาพเมามาย ชุดจับกุมจึงขออนุญาตตรวจค้นปรากฏว่า ชายดังกล่าวเกิดอาการตกใจหน้าถอดสีและยอมรับสารภาพว่า ไม่ใช้ทหารประจำการแต่อย่างใด เบื้องต้นจึงถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ ทราบชื่อ นายเฉลิมชัย เอี่ยมสงวน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/1 ซอยเพชรเกษม 39/1 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. หลังถูกสั่งให้ถอดเครื่องแบบทั้งหมดและตรวจค้นตามร่างกาย พบบัตรประจำตัวพลทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม แต่ปลดประจำการมาตั้งแต่ พ.ศ.2544 แล้วจึงตรวจยึดไว้เพื่อรอประสานกับต้นสังกัดดังกล่าวว่าเป็นบัตรจริงหรือไม่ 

 

          จากการสอบสวนนายเฉลิมชัย ให้การในสภาพเมามายว่า ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานขับรถ บจก.วัฒนาสุข อินเตอร์เนชั่นแนล ย่านป้อมปราบศัตรูพ่าย และขอยอมรับผิดที่ถือวิสาสะแต่งเครื่องแบบเต็มยศไปนั่งดื่มเบียร์จริง เพราะตนรักทหารมาก ที่ผ่านมาเคยสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ แต่สอบไม่ติด พอได้เป็นทหารเกณฑ์ก็รู้สึกภาคภูมิใจ แต่เสียดายที่ปลดประจำการตั้งแต่ปี 2544 ส่วนชุดที่ใช้แต่งกับอาวุธปืนเป็นของพรรคพวกให้มาเลยไปติดเครื่องหมายเหล่าทหารราบ และปักเป็นชื่อที่หน้าอกเป็นชื่อตัวเองเอาไว้ใส่เล่นๆ โดยไม่มีเจตนาจะไปข่มขู่ แสวงหาผลประโยชน์ หรือเบ่งกร่างเพื่อกินเหล้าฟรีแต่อย่างใด ที่ผ่านมาตนเคยแต่งชุดนี้มานั่งกินเบียร์ที่ร้านมาแล้วครั้งหนึ่ง และจ่ายเงินค่าเบียร์และค่าอาหารให้เจ้าของร้านไปตามระบบ 

 

          ด้าน พ.ต.ต.ศิริชาติ กล่าวว่า การกระทำของนายเฉลิมชัย ถือว่าขัดต่อระเบียบปฏิบัติของทหารด้วยการแต่งกายเข้าไปดื่มสุราดื่มสุราภายในร้าน ที่สำคัญแม้จะเคยรับราชการเป็นพลทหารมาก่อนจริงๆ แต่ตอนนี้ปลดประจำการแล้ว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา สวมเครื่องแบบหรือเครื่องประดับ เครื่องหมาย เครื่องแบบทหาร โดยไม่มีสิทธิจะแต่งได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ ดำเนินการต่อไป ซึ่งข้อหานี้ช่วงปกติต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงประกาศกฎอัยการศึกก็น่าจะมีการเพิ่มโทษตามระเบียบ คสช.ต่อไป