ข่าว

ฆาตกรต่อเนื่องมีดีอะไรจึงหลงรัก

ฆาตกรต่อเนื่องมีดีอะไรจึงหลงรัก

22 พ.ย. 2557

เวิลด์วาไรตี้ : ฆาตกรต่อเนื่องมีดีอะไรจึงหลงรัก : โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

� � � � � � � ��แอฟตัน เอเลน เบอร์ตัน สาวน้อยตาคมผมน้ำตาลเข้ม เริ่มติดต่อกับชาร์ลส์ แมนสัน ฆาตกรชื่อกระฉ่อนโลกครั้งแรกขณะที่เธออายุ 17 ปี หลังจากประทับใจงานเขียนด้านสิ่งแวดล้อมของเขาที่เพื่อนคนหนึ่งนำมาให้อ่าน
� � � � � � � ��9 ปีต่อมา เธอกำลังจะแต่งงานกับแมนสัน ผู้บงการฆ่าสุดอำมหิต 7 ศพรวมถึงดาราสาวที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน ชารอน เทท เมื่อ 46 ปีก่อน หลังจากทั้งคู่ได้รับใบอนุญาตแต่งงานเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
� � � � � � � ��กว่าที่แมนสันจะมีสิทธิยื่นคำร้องขอไต่สวนปล่อยตัวก่อนกำหนดโดยคุมประพฤติครั้งต่อไป จะต้องรออีก 13 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ก็จะอายุ 93 ปีพอดี นอกจากนี้ ว่าที่สามีวัยไม้ใกล้ฝั่งยังไม่ได้รับสิทธิ์การเยี่ยมเพื่อใช้ชีวิตคู่
� � � � � � � ��ถึงอย่างนั้น สาววัย 26 ปีที่มีอีกชื่อว่า สตาร์ เชื่อว่า นี่เป็นการตัดสินใจถูกต้อง เพราะการแต่งงานจะทำให้เธอกลายเป็นญาติใกล้ชิดและเข้าถึงข้อมูลที่มีแต่ญาติเท่านั้นที่จะได้รับ ซึ่งจำเป็นสำหรับการต่อสู้เพื่อให้แมนสันพ้นผิด
� � � � � � � ��เบอร์ตัน กล่าวว่า เธอรักเขา ฉันอยู่เพื่อเขา เหตุผลทั้งหมดก็มีเท่านี้ ไม่รู้จะพูดอะไรอีก
� � � � � � � ��ไม่ว่าเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมอันน่าฉงนของเบอร์ตัน จะเป็นความเพ้อฝันทางเพศ ความนับถือตัวเองต่ำหรือลุ่มหลงคลั่งไคล้ ที่แน่ๆ เบอร์ตันไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่หลงเสน่ห์บุรุษเพศอันตรายหลังกรงขัง ทั้งฆาตกร หรือผู้ร้ายข่มขืน
� � � � � � � ��ประเมินกันว่า มีผู้หญิงประมาณ 100 คนในอังกฤษที่เข้าไปพัวพันทางอารมณ์กับนักโทษชายในแดนประหารสหรัฐ โดยสองฝ่ายมักพบเจอกันผ่านการรณรงค์ต่อต้านโทษประหาร และเบอร์ตันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่ยอมรับกันว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้น มากพอจนผุดเว็บไซต์อย่างนักโทษเรือนจำออนไลน์ (Prison Inmates Online) หรือเว็บ "พบนักโทษ" (Meet-An-Inmate)
� � � � � � � ��อาการหลงเสน่ห์นักฆ่าอย่าง อานเดอร์ส เบห์ริง เบรวิค มือสังหารหมู่ 77 ศพ ในนอร์เวย์เมื่อปี 2555 ริชาร์ด รามิเรซ ฆาตกรและผู้ร้ามข่มขืนต่อเนื่องในสหรัฐ และ ชาร์ลส์ แมนสัน มีศัพท์ทางการที่เรียกว่า ไฮบริสโทฟิลเลีย หรือที่รู้จักอีกชื่อ "บอนนี แอนด์ ไคลด์ ซินโดรม"
� � � � � � � ��หนึ่งในตัวอย่างอันโด่งดังที่สุดของไฮบริสโทฟิลเลีย คือผู้หญิงจำนวนไม่น้อยตกหลุมรัก "เทด บันดี้" ฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกัน ผู้ร้ายข่มขืนและเป็นพวกชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ ผู้สารภาพฆาตกรรมเหยื่อ 30 คนใน 7 รัฐของสหรัฐ ช่วงปี 2514-2522
� � � � � � � ��บันดี้ หน้าตาหล่อเหลาและวาจาคมคาย ได้รับจดหมายรักหลายร้อยฉบับขณะอยู่ในคุก และพวกเธอเหล่านั้นก็แห่มาให้กำลังใจกันแน่นขนัดในห้องพิจารณาคดี
� � � � � � � ��ดร.ไมเคิล เดรย์ตัน นักจิตวิทยา บอกกับ ไอบีที ไทมส์ ยูเค ว่าธรรมชาติมนุษย์ การเข้าไปมีความสัมพันธ์กับใครโดยทั่วไป เหตุผลเดียวกันคือเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ผู้หญิงบางคนที่เข้าไปพัวพันกับอาชญากรเหล่านี้ บ้างสงสารอยากช่วยชีวิต บ้างก็หลงกับดราม่า บางคนอาจรู้สึกเหงาและอ่อนแอจนถูกดึงเข้าสู่ความสัมพันธ์หายนะได้ง่ายๆ
� � � � � � � ��อาชญากรที่มีกิตติศัพท์เรื่องมีความสัมพันธ์รักๆ ใคร่ๆ ขณะอยู่ในคุก ไม่ใช่ทุกคนถูกจัดเป็นพวกไซโคพาธ หรือโรคจิต
� � � � � � � ��ในทางการแพทย์ ไซโคพาธ เป็นความผิดปกติทางบุคลิก ที่มีคุณลักษณะเฉพาะคือพฤติกรรมต่อต้านสังคมการขาดความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น และไม่มีความสำนึกผิด พวกเขามีความสัมพันธ์เพื่อให้ความต้องการของตนเองได้รับการตอบสนองเช่นกัน แต่ความต้องการของพวกเขาแตกต่างจากอีกฝ่ายหนึ่ง
� � � � � � � ��เมื่อพวกไซโคพาธ ขาดความสามารถในการเข้าใจอีกฝ่าย จึงไม่มีแนวโน้มที่จะตกหลุมรัก แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างมากคือ เกม ที่ดูเหมือนน่าสนุก เดรย์ตันกล่าวว่า จากที่เคยได้พบคนโรคจิตสองสามคน พวกเขาเฉลียวฉลาดและมีเสน่ห์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเก่งในสิ่งที่ทำและจับความอ่อนแอของคนอื่นได้ไว
� � � � � � � ��พวกเขาเพลิดเพลินกับการปั่นหัวและเล่นกับคน และเพื่อนทางจดหมายเปิดโอกาสให้อาชญากรโรคจิต ได้เล่นเกมลักษณะนั้น
� � � � � � � ��ด้าน เชลา ไอเซนเบิร์ก ผู้เขียนหนังสือ "สตรีผู้หลงรักชายผู้ฆ่า" ได้สัมภาษณ์ผู้หญิงจากหลากสาขาอาชีพ ตั้งแต่เลขานุการจนถึงทนายความเพื่อสำรวจว่า ทำไมพวกเธอจึงคบหาอาชญากรต้องโทษ พบว่าลักษณะร่วมของพวกเธอคือ มีปูมหลังจากสัมพันธภาพที่มีปัญหา ตั้งแต่วัยเด็ก หรือกับคู่ครอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้ชายเหล่านั้น แต่ละคนเกิดสำนึกของบรรลุเป้าหมาย
� � � � � � � ��ไอเซนเบิร์ก กล่าวว่า การที่พวกเธอพยายามต่อสู้เพื่อล้มหรือลดทอนคำตัดสินลงโทษประหารของใครบางคน ความรู้สึกที่ว่าเป็นคนที่จัดการได้ จะรู้สึกว่ากลายเป็นคนที่มีความสำคัญและมีพลังอิทธิพล ผู้หญิงบางคนยิ่งในวัยต้นของชีวิตด้วยแล้ว ไม่เคยได้อยู่ในสถานะแห่งพลังอำนาจนั้น
� � � � � � � ��ขณะผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขบางคนเปรียบเทียบความลุ่มหลงในฆาตกร ว่าเป็นรูปแบบสุดโต่งของความคลั่ง
� � � � � � � ��นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้หญิงที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรต้องโทษหลายคนบอกว่าไม่ได้แสวงหาความโรแมนติก แรกเริ่มเดิมทีต้องการยื่นมือช่วยเท่านั้น แต่ก็มีบ้างที่ถูกดึงดูดด้วยเรื่องราวดั่งละครและการได้รับความสนใจ ที่จะมาพร้อมกับการคบหาฆาตกรต่อเนื่องหรือผู้ร้ายข่มขืน
� � � � � � � ��นักจิตวิทยากล่าวว่า การคบหาคนที่ต้องโทษคดีอาชญากรรม อาทิ ฆาตกรรมและข่มขืน อาจยกระดับสถานะของปัจเจกบุคคลได้ พวกเธออาจกระโดดเกาะชื่อเสียง หากอาชญากรตอบกลับแม้ในลักษณะหาประโยชน์ ก็อาจกลายเป็นความผูกพันทางอารมณ์ได้ง่ายๆ ต่อให้ไม่ได้มีเจตนานั้นตั้งแต่แรกก็ตาม
� � � � � � � ��สำหรับกรณีของสตาร์ หลังจากเริ่มมีความรู้สึกจริงจังกับแมนสัน เธอย้ายบ้านจากอิลลินอยมายังเมืองคอร์โคราน เมืองเล็กๆ ทางตอนกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย อันเป็นที่ตั้งของเรือนจำคอร์โครานที่แมนสันชดใช้กรรมอยู่ในนั้น
� � � � � � � ��สาวน้อยพูดคุยกับแมนสันทางโทรศัพท์เกือบทุกวัน และไปเยี่ยมเยือนไม่ได้ขาดเกือบทุกสุดสัปดาห์
� � � � � � � ��การสัมผัสแตะต้องทางกายค่อนข้างจำกัด ระหว่างไปเยี่ยม เบอร์ตันกับแมนสัน ที่มีวัยห่างกัน 54 ปี ทำได้เพียงกอดกันในตอนต้นและก่อนลา
� � � � � � � ��ยามไม่ได้เจอกัน สตาร์มักวาดรูปและดูแลเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ของแมนสัน รวมถึง MansonDirect.com
� � � � � � � ��เป้าหมายของเธอคือ พยายามหาทางให้แมนสันได้รับอิสรภาพ เพราะเชื่อว่าคนรักวัย 80 เป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฆาตกรรมอำมหิต
----------------------------------------
(ภาพ : AFP)