ข่าว

ภาพวงจรปิดมัดหนุ่มมะกันมือขโมยชิ้นส่วนมนุษย์

ภาพวงจรปิดมัดหนุ่มมะกันมือขโมยชิ้นส่วนมนุษย์

17 พ.ย. 2557

เผย 5 ชิ้นส่วนมนุษย์เตรียมส่งไปอเมริกา หายจากพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์รพ.ศิริราช คณบดีเผยฝรั่งต้องสงสัยเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมื่อ 1 เดือนก่อน ภาพวงจรปิดมัดหนุ่มมะกันขโมย

            ความคืบหน้ากรณี นายไรอัน เอ็ดเวิร์ด แม็คเฟอร์สัน ชาวสหรัฐอเมริกา และเพื่อน นำชิ้นส่วนมนุษย์ประกอบด้วย ศีรษะท่อนบน ฝ่าเท้า และแผ่นหนังลงอักขระเลขยันต์ บรรจุใส่กล่องพัสดุเพื่อส่งไปให้ นายยูจีน จอห์นสัน ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ถูกเจ้าหน้าที่บริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตั้งอยู่ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ตรวจพบก่อน เมื่อเวลา 21.10 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น
    
            ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกับภัณฑารักษ์พบว่า 5 ชิ้นส่วนมนุษย์ที่เตรียมส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ ชั้น 2 ตึกอดุลยเดชวิกรม โรงพยาบาลศิริราช โดย 3 ชิ้น เป็นของที่นำมาแสดงจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ และอีก 2 ชิ้น นำมาจากภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
    
            "จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง 1 เดือน พบว่า ฝรั่งที่ปรากฏเป็นผู้ส่งชิ้นส่วนมนุษย์นั้น เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ แต่ไม่เห็นว่ามีการขโมยหรือหยิบชิ้นส่วนที่มีการจัดแสดงออกไปจากพิพิธภัณฑ์ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติมว่า มีการหยิบใส่เป้ออกไป หรือมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่หรือไม่" ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว
    
            ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้นิติกรของโรงพยาบาลศิริราชเข้าแจ้งความของหายที่ สน.บางกอกน้อยแล้ว จากนี้ไปคงต้องมีการปรับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ที่โรงพยาบาลศิริราชไม่ได้แจ้งความของหายก่อนหน้านี้ เนื่องจากที่โรงพยาบาลมีพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์หลายแห่ง และมีการจัดแสดงจากหลายภาควิชา
    
            ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช เพื่อเก็บพยานวัตถุและพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและหาผู้กระทำความผิด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เปิดเผยข้อมูล
    
            ทั้งนี้ ที่โรงพยาบาลศิริราชมีพิพิธภัณฑ์ 2 แห่ง คือ พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยเดิม และพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช ตั้งอยู่ชั้น 2 ตึกอดุลยเดชวิกรม โดยแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ 1.พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส 2.พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นสาเหตุการตายผิดธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งที่แพย์ต้องค้นหา เพื่อเป็นหลักฐานทางคดี ภายในพิพิธภัณฑ์จึงรวบรวมวัตถุพยานหลายชนิดที่ตัดสินคดีแล้ว เช่น คดีนวลฉวี อวัยวะที่ถูกแทง ถูกยิง รวมทั้งเครื่องมือชันสูตรศพ เทคโนโลยีการสืบค้นเอกลักษณ์บุคคลจากมหันตภัยสึนามิ และที่โด่งดังที่สุดคือ "ซีอุย" ฆาตกรที่กินหัวใจและตับเด็กที่เป็นเหยื่อ 3.พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา
    
            4.พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน ในส่วนนี้จะจัดแสดงอวัยวะทุกส่วนของมนุษย์ อาทิ อวัยวะรับความรู้สึกพิเศษ เช่น หู ตา จมูก ลิ้น อวัยวะภายในทุกระบบ พัฒนาการของตัวอ่อนจนเป็นทารก แม้กระทั่งกล้ามเนื้อเล็กที่สุดที่มีขนาดเท่าขนตา ร่างกายภาคตัดขวางทั้งร่าง รวมถึงมีการจัดแสดงโครงกระดูกของบุคคลสำคัญ เป็นต้น และ 5.พิพิธภัณฑ์และห้องปฏิบัติการเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ สุด แสงวิเชียร
    
            ส่วนค่าเข้าชมทั้ง 2 พิพิธภัณฑ์นั้น เด็กอายุไม่เกิน 18 ปี บัตรเดียวเที่ยว 1 พิพิธภัณฑ์ ราคา 25 บาท บัตรเดียวเที่ยว 2 พิพิธภัณฑ์ ราคา 50 บาท ผู้ใหญ่คนไทย อายุ 18 ขึ้นไป บัตรเดียวเที่ยว 1 พิพิธภัณฑ์ ราคา 80 บาท บัตรเดียว 2 พิพิธภัณฑ์ ราคา 150 บาท สำหรับชาวต่างชาติ บัตรเดียวเที่ยว 1 พิพิธภัณฑ์ ราคา 200 บาท บัตรเดียว 2 พิพิธภัณฑ์ ราคา 300 บาท โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. เว้นวันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์
    
            เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ที่ สน.บางโพงพาง พล.ต.อ.ดร.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร, พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พ.ต.ท.จตุรงค์ ทองพันเลิศกุล สว.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 2 ต่างประเทศ พร้อมด้วย ผศ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ และผอ.ชันสูตรพลิกศพ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันแถลงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว
    
            พ.ต.ท.จตุรงค์ เปิดเผยว่า ได้มีการประสานงานเรื่องดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ให้ช่วยตรวจสอบหาจุดหมายปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกาว่าเป็นที่ใด มีจุดประสงค์เพื่ออะไร หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
    
            พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องสงสัย 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ นายไรอัน เอ็ดเวิร์ด แม็คเฟอร์สัน ได้เดินทางออกจากประเทศไทยแล้วเมื่อเช้าวันนี้ (17 พ.ย.) โดยเดินทางออกไปทางด่านคลองลึก จ.สระแก้ว

            ต่อมาเวลา 15.00 น.นางบรรจง เขียวชอุ่ม เจ้าหน้าที่ดูแลตึกกายวิภาค และน.ส.ทัศนีย์ แสงครุฑ รปภ.ประจำตึกอดุลยเดชวิกรม พร้อมนิติกรประจำ รพ.ศิริราช ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท. ณปภัช ชัยมูล พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางกอกน้อย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยชิ้นส่วน อวัยวะมนุษย์จำนวน 5 ชิ้น ออกจากพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ ตึกอดุลยเดชวิกรม ภายในโรงพยาบาลศิริราช พร้อมนำภาพวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพชายต้องสงสัยเป็นชาวต่างชาติ 2 คน เข้าชมพิพิธภัณฑ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่ามา ก่อนชิ้นส่วนมนุษย์ทั้ง 5 ชิ้นจะหายไป

            พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ พร้อมสอบปากคำเจ้าหน้าที่ประจำพิพิธภัณฑ์ รวม 3 คนอย่างละเอียด    พ.ต.ท.ณปภัช กล่าวว่า จากการสอบปากคำนางบรรจง และ น.ส.ทัศนีย์ ต่างให้การตรงกันว่า นายไรอัน เอ็ดเวิร์ด แม็คเฟอร์สัน อายุ 31 ปี และนายแดเนียล เจมอน แทนเนอร์ อายุ 33 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา นั้นได้เดินทางมายังที่ รพ.ศิริราช จริง เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหากับชาวต่างชาติทั้ง 2 คน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบพยานหลักฐาน    

            ด้าน พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย กล่าวว่า จาการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าที่ตึกอดุลยเดชวิกรม มีชิ้นส่วนมนุษย์หายไป 3 ชิ้น คือ แผ่นหนัง 2 ชิ้น และหัวใจ ส่วนที่ตึกกายวิภาคได้หายไป 2 ชิ้น คือส่วนใบหน้าของเด็ก เท้าเด็ก พร้อมกันนี้ยังได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุระบุว่า มีคนเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คน หนึ่งในนั้นคือ นายไรอัน เอ็ดเวิร์ด แม็คเฟอร์สัน อายุ 31 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา ได้ลงชื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิริราช จากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังทาง รพ.ศิริราช เพื่อนำภาพกล้องวงจรปิด มาทำการตรวจความชัดเจนอีกครั้ง