
กัปตันจอห์นปรุงรสอร่อยเป็นรางวัลชีวิต
13 พ.ย. 2557
ขอเวลานอก : บุกครัว กัปตันจอห์น ปรุงรสอร่อยเป็นรางวัลชีวิต : เรื่อง ณุวภา ฉัตรวรฤทธิ์ /ภาพ สุกล เกิดในมงคล
ในหนึ่งวันเมื่อทุกคนเต็มที่กับการทำงานไปแล้วก็ต้องมีเวลาพักผ่อนมอบเวลาดีๆ ให้กับชีวิต ด้วยกิจกรรมที่ตัวเองชอบสักหนึ่งอย่างเพื่อคืนความสมดุลให้กับชีวิตกันบ้าง เฉกเช่นชีวิตเบื้องหลังของนักบินหนุ่มรุ่นใหม่ จอห์น ภมรมนตรี แห่งสายการบินนกแอร์ ที่แม้ได้ทำงานที่ชอบ แต่ก็ไม่ได้สบายกว่าใครแน่นอน เพราะมีสถานการณ์ให้ต้องคิดหาทางออกและแบกรับความรับผิดชอบมากมายไว้อยู่ทุกเที่ยวบิน ไม่แปลกที่ทุกวันนี้เมื่อเท้าแตะถึงพื้นเมื่อไหร่กัปตันรุ่นใหม่คนนี้จะรีบสรรหาอาหารอร่อยๆ มาให้ตัวเองได้ลิ้มลองทันที เพื่อเป็นรางวัลเล็กน้อยๆ ให้กับการทำงานที่ผ่านไปได้ด้วยดีในทุกวัน
“บางวันเวลามีไฟล์ทบินเช้าตอนเช้าผมต้องตื่นตอนเช้ามืด จะทำแซนวิชประกบแฮม ผัก เชดด้าชีส เอาไปทานที่สนามบินด้วย ส่วนเมนูอื่นๆ ก็ทำแต่ไม่ทุกวันครับถ้ามีเวลา หรือเวลามาที่นี่เป็นบ้านคุณอา ท่านก็ชอบชวนทำอาหาร จัดปาร์ตี้ก็จะลงมือทำอาหารเองหมด สูตรอาหารผมไม่ค่อยมีส่วนมากก็ทำไปก่อนแล้วปรุงนั้นนี่ไปเรื่อย ไม่อร่อยก็ลองใหม่จนได้รสที่เราชอบไปเอง อย่างเมนูวันนี้ก็ได้ความรู้จากการไปฝึกบินที่โรงเรียนการบินในประเทศแคนาดา อยู่เป็นบ้านพักกับเพื่อนแล้วชอบทำสเต๊กกินกันมาก แต่ช่วงหน้าหนาวผมไม่สามารถออกมาบาร์บีคิวหน้าบ้านได้ ก็หาวิธีกันจนได้เทคนิคตั้งไฟกระทะไว้นานหน่อยจนร้อนจัดจริงๆ แล้วใส่เนื้อลงไปพลิกด้านละ 1 นาที ก็จะได้เนื้อแบบมีเดียมแลร์ยังชุ่มๆ และมีเนื้อแดงอยู่เป็นแบบที่ผมชอบมาก” กัปตันจอห์นเล่าถึงความชอบและเผยสูตรสเต็กในวันนี้
คุยไปด้วยเตรียมวัตถุดิบไปด้วยทั้งผัดสลัด กระเทียม ใบโรสแมรี่ เนย ซอสบัลซามิก และเนื้อที่ถูกเตรียมด้วยการใช้ส้อมเจาะให้ทั่ว แล้วโรยเกลือพริกไทยไปนิดหน่อยเท่านั้น แป๊บเดียวก็พร้อมเริ่มต้นจากการทำสลัดล้างผักและปรุงน้ำสลัดจากซอสบัลซามิกให้ได้รสเปรี้ยวนำหวานตามนิดหน่อย ระหว่างนั้นก็ตั้งไฟให้กระทะให้ร้อนจัด ได้ที่ใส่เนยวางเนื้อลงไปรอ 1 นาที เมื่อพลิกกลับหนุ่มจอห์นก็รีบนำกระเทียมและใบโรสแมรี่มาแตะให้ทั่วๆ เมื่อเนื้อมีความร้อนจัดจะดูดกลิ่นหอมๆ ของเครื่องเทศไปเองโดยไม่ต้องนำลงไปใส่ในกระทะด้วย เมื่อสุกดีแล้วก็นำพักใส่จานธรรมดาก่อน รอให้เนื้อคายน้ำในตัวออกมา
“เมนูแรกๆ ที่ทำคือเอาหมูมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วให้คุณแม่ (นัยนา ภมรมนตรี) ช่วยทอดครับ จากนั้นที่บ้านก็มีทำสปาเกตตี ทำสเต๊กทานกันบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง แต่มาเริ่มทำอาหารจริงจังก็ตอนผมเรียนต่างประเทศ ก่อนไปเพื่อนจะบอกให้ตุนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปเยอะๆ แต่ผมเป็นคนทานอาหารฝรั่งได้ กินง่ายอยู่ง่าย ก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอกไม่เอาอะไรไปเลยครับ ปรากฏว่า ที่โรงเรียนเขาก็จัดอาหารมาให้ซ้ำกันทุกวัน เป็นปลา กับเนื้อไก่งวง จนทานไป 4-5 เดือน ไม่ไหวแล้วครับ วันหนึ่งก็ลองเอาไก่ที่เขาเอามาให้มาล้างน้ำออกหมดเอามาปรุงใหม่ทานกัน ก็ยังไม่โอเคเริ่มต้องเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตหาพริกแกงมานั่งอ่านวิธีทำข้างกล่อง นั่งลองทำกันมาจนกินได้ พออาหารไทยเริ่มลงตัว อาหารยุโรปและอื่นๆ ก็ตามมา ให้ลองทำกินกันสนุกดีครับ” ระหว่างตกแต่งจาน หนุ่มนักบินวัย 25 ปี ลูกชายที่เดินทางในเส้นทางด้านการบินตามคุณพ่อยุทธ และคุณปู่โยธิน ภมรมนตรี ก็เล่าถึงประสบการณ์ดีๆ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นานให้ฟัง
ส่วนเรื่องความสุขจากอาชีพนักบิน กัปตันจอห์นบอกว่าแม้จะเห็นคุณปู่และคุณพ่อเป็นนักบินมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยมีใครบังคับให้ทำตามเพียงแต่โตมากับความรู้สึกความผูกพันกับเครื่องบินมากกว่า “พาสปอร์ตเล่มแรกของผมตรงลายเซ็นเป็นนิ้วโป้งเท้าเล็กๆ ของผมเลยครับ คุณพ่อพาไปเที่ยวตลอดเลยรู้สึกผูกพันกับเครื่องบินมาก ผมตั้งใจว่าโตขึ้นอยากจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง แต่ก็ลังเลว่าจะเป็นนักบินด้วยดีไหม คุณพ่อก็บอกว่าไม่ได้บังคับเลยว่าจะต้องเป็นเหมือนท่านนะอะไรที่ชอบทำให้เต็มที่ไปเลย ผมเลยเลือกเรียนหลักสูตรนักบินพาณิชย์ ของสถาบันการบินมหาวิทยาลัยรังสิตเรียน 4 ปี เป็นนักบินได้เลย เผื่อมาบินจริงๆ แล้วเราไม่ชอบก็ยังมีเวลาเรียนด้านธุรกิจต่อไปทำอย่างอื่นได้ แต่พอเริ่มเรียนเข้าเรื่องของการบินจริงๆ ผมก็รู้สึกชอบมากเลยนะ นั่งเรียนหน้าสุดตลอด เรียน 4 ปี ขาดเรียนไม่เกิน 8 ครั้ง ครับ จาก ม.ปลาย ผมเอาแต่เล่นดนตรีไม่โอเคเรื่องเรียนเลย(ยิ้ม) ยิ่งพอมาเรียนขับเครื่องบินจริงๆ ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก พอมีใบอนุญาตขับเครื่องบินมาแล้วเราก็บินเองคนเดียวได้ ช่วงนั้นเป็นการเก็บเที่ยวบินที่สนุกที่สุดนะ ผมลากแผนที่เลยว่าวันนี้ไปดูภูเขาน้ำแข็ง แวะมาดูซากเรือ มาเติมน้ำมันสนามบินนี้ แล้วไปนู้นนี่ต่อก่อนกลับมาที่โรงเรียน คิดแพลนเอง ส่งไฟล์ทแพลนเอง จากตอนเรียนเราก็เครียดนะครับ แต่คุณพ่อจะบอกว่าช่วงที่เราได้ฝึกบินนี่แหละจะมีความสุขมากๆ ซึ่งก็จริง ตอนนี้เป็นกัปตันตั้งแต่ ปี 2011 สิ้นปีนี้ก็ 3 ปีแล้ว ผมชอบนะ ไม่เคยเบื่อเลย เป็นงานที่ต้องมีความรับผิดชอบเยอะมาก ทุกไฟล์ทจะคิดเยอะ มีสถานการณ์ให้แก้ไขทุกวัน แต่ถามว่าอาชีพนี้ให้ประสบการณ์เราคุ้มมั้ยผมว่าคุ้มนะ ทุกวันนี้ถ้าไม่บินผมก็ยังนึกไม่ออกว่าอยากทำอะไร“ นักบินแอร์ไลน์เล่าย้อนถึงการค้นพบตัวเองในอาชีพนักบิน
เมื่อนำสเต๊กหั่นใส่จานเสร็จก็พร้อมชิม สีสันได้เนื้อแดงๆ ตรงกลางสมใจกัปตัน ที่สำคัญกลิ่มหอมโชยไม่คาวเนื้อสักนิด สำหรับวันนี้เจ้าตัวบอกว่าหน้าตาอาหารเป็นที่ถูกใจ แต่ก็หัวเราะว่ารสชาติต่างจากเมื่อก่อนไปนิดหน่อย คงเพราะได้กลับมาทำอีกครั้งก็ตื่นเต้นหนักมือไปหน่อย จากนั้นก็ชักชวนคนรอบตัวมาลองชิมแชร์ความอร่อยไปถ้วนหน้า บอกอีกว่าหลังจากทานเนื้อหนักๆ แล้วต้องไปออกกำลังกายสักหน่อย ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพที่ดีเป็นหลักจะได้กับสภาพอากาศบนเครื่องบินที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ถ้าร่างกายเราไม่แข็งแรงก็ป่วยเอาง่ายๆ เหมือนกัน
“วันว่างจริงๆ ก็เน้นออกกำลังกาย ถ่ายรูป แล้วก็หมดไปกับการกินเยอะมากครับ คือตั้งแต่เด็กคุณพ่อจะพาไปกินดี กินอร่อย กินอิ่มไว้ก่อน พวกเสื้อผ้าของใช้ดีๆ ท่านจะบอกว่ามีก็ได้แต่ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเท่าได้กินอาหารดีๆ ตอนเด็กผมอยากได้เสื้อเล่นบาสฯ เพราะตอนนั้นเราเข้าทีมโรงเรียนได้ เสื้อก็ตัวละ 800 บาท ผมลองไปขอเงินพ่อบอกว่าอยากได้เสื้อตัวละ 500 บาท บอกไปเท่านี้เพราะตั้งใจว่าอีก 300 ผมจะออกเอง ท่านบอกกลับมาเลยครับว่าซื้อทำไมเสื้อตัวละ 500 บาท ตัวละ 200 ใส่ไม่เป็นหรือไง (หัวเราะ) แต่กลับกันเวลาคุณพ่อพาครอบครัวไปกินข้าวท่านจะเลือกแต่ร้านดีๆ แล้วจะไม่ดูราคาเลย ไม่ถามว่าสั่งไปเท่าไหร่อยากกินอะไรให้เราสั่งไปเลย กินให้อร่อย ให้อิ่ม ผมก็ได้พ่อมาจากตรงนี้อีก เวลาเราทำงานเหนื่อยๆ บินมาทั้งอาทิตย์ พอวันหยุดผมจะออกไปหาร้านอร่อยทานไม่ก็ซื้อของดีๆ มาทำเองกินเอง จัดเต็มไปเลยครับเป็นการตอบแทนร่างกายของตัวเราเอง” กัปตันจอห์นให้เหตุผลของการชอบกินดี ทิ้งท้าย