ทลาย‘บาร์เกย์’พิษณุโลกผงะเจอพระ | คมชัดลึก

             เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 พ.ย.2557  ที่กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 อ.เมือง จ.พิษณุโลก พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บังคับการกองพลทหารราบที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก นายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก สาธารณะสุขจังหวัดพิษณุโลกและเจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบสังคม ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากตรวจค้นร้านกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 ร้านอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลนครพิษณุโลก และพื้นที่ ต.วัดจันทร์ อ.เมืองพิษณุโลก ในการจัดระเบียบสังคม ตามกฎอัยการศึก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

             พร้อมทั้งเพื่อเป็นการปราบปรามขบวนการค้าประเวณี หลังจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่จับกุมเด็กผู้ชายจำนวน 3 ราย ที่รับจ้างขายบริการทางเพศ ที่บริเวณสวนชมน่าน ถ.พุทธบูชา อ.เมือง จ.พิษณุโลก อีกทั้งมีการเชิญชวนซื้อขายบริการทางเพศผ่านเฟซบุ๊กกันอย่างเปิดเผย และล่าสุดมีการจัดโปรโมชั่นขายบริการทางเพศฉลองเทศกาลลอยกระทง

             ผลจากการปฏิบัติหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ค้าประเวณี จำนวน 6 ราย และกำลังรวมพยานหลักฐานเตรียมดำเนินคดีอีกจำนวน 31 ราย พร้อมกับยึดแผ่นซีดีลามกได้จำนวน 1,430 แผ่น ถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น หนังสือโป๊ จำนวนมาก และยาไอซ์  จำนวน 7.32 กรัม เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง

             นอกจากนี้เ จ้าหน้าที่ยังขยายผลไปจับกุมพระสงฆ์ ที่มีส่วนร่วมซื้อขายบริการทางเพศเด็กผู้ชายที่วัดพื้นที่ใน ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก โดยได้รับข้อมูลจากเด็กชายขายบริการทางเพศ จนติดตามไปจับกุมได้คากุฏิ จำนวน 2 รูป และทำการจับสึกทันที ทราบชื่อคือนายวราวัชร์  อินดี อายุ 34 ปี นายสุรเชษฐ เหี้ยงแก้ว อายุ 31 ปี  ซึ่งทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อขายบริการทางเพศเด็กชายจริง และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดของพระสงฆ์วัดดังกล่าว มีปัสสาวะสีม่วง 1 ราย คือ นายธีระ  สมพงษ์สวัสดิ์ อายุ 27 ปี จึงแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

             ด้านพล.ต.นพพร  เรือนจันทร์ ผู้บังคับการกองพลทหารราบที่ 4 กล่าวว่า หลังชุดจัดระเบียบสังคม ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก มีการค้าประเวณีกันอย่างโจ่งครึม โดยเฉพาะสปาแอบแฝงการขายบริการทางเพศสำหรับผู้ชาย ซึ่งหลังจากจับกุมตัวเยาวชนได้ ก็สามารถขยายผลกับร้านที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวน 5 แห่ง และสามารถจับกุมตัวผู้มาซื้อบริการทางเพศและเจ้าของร้านได้ในที่สุด

             นอกจากนี้ยังพบว่าร้านค้าบางแห่ง ยังแอบใช้เฟซบุ๊กเชิญชวนผู้ชายมาซื้อบริการทางเพศ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทงก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษ โดยผู้ขายบริการทางเพศผู้ชายนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชน ส่งผลให้ทางชุดจัดระเบียบสังคมต้องเร่งดำเนินการกวาดล้าง และดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดโดยเร็วที่สุด