ข่าว

เลือกซื้อ "ลิ้นจี่" (2)

เลือกซื้อ "ลิ้นจี่" (2)

06 ก.ค. 2552

คราวที่แล้วได้เล่าให้ฟังไปบางส่วนแล้วเกี่ยวกับวิธีเลือกซื้อลิ้นจี่ ถึงแม้ว่าอาจช้าไปหน่อยสำหรับปีนี้ แต่ก็เผื่อไว้ปีหน้าจะได้เลือกซื้อได้เก่งขึ้น เหตุที่ต้องเขียนเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เพราะว่าปัจจุบันผู้บริโภคทั้งหลายถูกหลอก ไม่ว่าจะโดยความตั้งใจหรือ

 ผลที่ตามมาคือต่อไปคนซื้อทั้งหลายก็จะเข็ดกับการเลือกซื้อลิ้นจี่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ความต้องการของสินค้าลดลงในขณะที่ยังผลิตได้เท่าเดิมหรือมากขึ้น ราคาก็ย่อมตกลงมา การมาร้องขอให้รัฐบาลช่วยหรือขอร้องให้ประชาชนหันมาบริโภคมากขึ้นก็คงไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ตราบใดที่ยังไม่มีความจริงใจในการรักษาคุณภาพเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ 

 เรื่องของเรื่องก็คือลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ ซึ่งมีขนาดผลใหญ่โตจนเห็นได้ชัด และเป็นจุดขายที่สำคัญที่สุดของลิ้นจี่พันธุ์นี้ แต่มีข้อเสียว่าเมล็ดโตมากเช่นกัน และเนื้อค่อนข้างแฉะไปหน่อยเนื่องจากมีน้ำมาก ในขณะที่ลิ้นจี่พันธุ์กิมเจ็งมีผลเล็กกว่า แต่ว่าเนื้อแห้งและเมล็ดเล็กมาก และที่สำคัญที่สุดคือมีกลิ่นหอมแบบกลิ่นดอกกุหลาบ เรียกได้ว่าถ้าลองรับประทานครั้งแรกจะได้กลิ่นหอมที่ชัดเจนมาก และเป็นจุดเด่นของลิ้นจี่พันธุ์นี้ มีคนบอกว่าลิ้นจี่กิมเจ็งแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือแบบแรกมีหนามแหลมเห็นได้ชัด กับอีกแบบหนึ่งผิวจะเรียบเนียนกว่า ซึ่งดูไปแล้วเหมือนกับพันธุ์จักรพรรดิไม่มีผิด แต่ว่าขนาดจะเล็กกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงอยู่ตรงนี้เอง เพราะว่าลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิที่เห็นว่ามีขนาดผลโตนั้น ก็ไม่ได้โตเหมือนกันทุกลูก

 คำถามก็คือ แล้วพวกลูกเล็กๆ หายไปไหน เพราะถ้าแยกออกมาขายต่างหากก็จะได้ราคาต่ำมาก เพราะว่าจุดเด่นของพันธุ์จักรพรรดิอยู่ที่ขนาดผล คราวนี้ก็เลยมีการนำเอาลิ้นจี่จักรพรรดิตกเกรดที่มีขนาดผลเล็กมาปนกับกิมเจ็ง หรือหนักไปกว่านั้นคือมาหลอกขายในนามของลิ้นจี่กิมเจ็ง ซึ่งหากใครดูไม่ออกก็หมายความว่าถูกหลอกให้ซื้อลิ้นจี่จักรพรรดิตกเกรดในราคาเท่ากับกิมเจ็ง ซึ่งปกติจะมีราคาสูงเทียบเท่าหรือมากกว่าพันธุ์จักรพรรดิผลใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริโภคได้ไปก็คือลิ้นจี่จักรพรรดิลูกเล็ก แต่เมล็ดโตและไม่มีกลิ่นหอมแบบกิมเจ็ง ในราคาสูงกว่าปกติ

 หากจะถามว่าจะโทษใคร ระหว่างคนขายปลายทางหรือคนปลูกลิ้นจี่ หรือพ่อค้าขายส่ง เท่าที่ทราบเบื้องต้นคือคนขายมักจะไม่รู้เพราะว่าข้างกล่องลิ้นจี่ที่ส่งมาจากเชียงราย ก็ตีตราไว้ว่าเป็นกิมเจ็ง เมื่อเปิดดูตอนบนกล่องก็เห็นว่าใช่ แต่พอคุ้ยไปข้างในกลายเป็นจักรพรรดิลูกเล็กอยู่เต็มกล่อง คนขายบางคนก็ยังแยกไม่ออก หรือถึงแม้จะดูออก แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากบอกขายว่าเป็นกิมเจ็งตามที่เขียนไว้ข้างกล่อง แต่คนที่จะเข็ดอย่างมากก็คือผู้บริโภค และแน่นอนว่าปีต่อไป คงเกิดปัญหาเรื่องราคาแน่นอน ดังนั้นปัญหานี้จึงอยู่ที่ผู้ปลูกหรือผู้บรรจุกล่องที่ขาดความจริงใจ และหากปล่อยไว้ต่อไปก็คงต้องรับผลกรรมที่ได้สร้างไว้อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น การมาเรียกร้องให้ผู้บริโภคช่วยกันซื้อผลไม้ไทยที่ด้อยคุณภาพ หรือผลักดันให้รัฐเข้ามาช่วยก็คงจะไม่ได้ผลอีกต่อไป

 ความแตกต่างระหว่างลิ้นจี่จักรพรรดิและกิมเจ็งคือที่ขั้วผล และลักษณะผล หากสังเกตให้ดีพันธุ์กิมเจ็งจะค่อนข้างกลม ไหล่ผลทั้งสองข้างค่อนข้างเสมอกัน ดังนั้นก้านผลจึงพุ่งตรงจากกลางผล ต่างจากพันธุ์จักพรรดิที่ผลมีลักษณะเบี้ยวไปด้านหนึ่ง คือไหล่ผลไม่เท่ากัน และก้านผลจึงมีลักษณะทะแยงหรือเอียงทำมุมกับตัวผล หากดูเท่านี้ก็น่าจะป้องกันการถูกหลอกได้ระดับหนึ่ง แต่ว่าปัญหาไม่น่าจะอยู่ที่ว่าผู้บริโภคต้องมาเลือกดูเอาเอง แต่น่าจะอยู่ที่ความจริงใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากกว่าครับ

รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ