ตรวจโรงชำแหละสุนัข7จุดท่าแร่ | คมชัดลึก

 

                  21 ต.ค.57 เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.ธวัชชัย หาญนที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พ.ต.อ.ฐากูรสมบัติ สวงโท ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร พ.ต.ท.อาทิตย์ วนสินธิ์ สวป.สภ.เมืองสกลนคร หัวหน้าสถานีตำรวจ สภ.ย่อตำบลท่าแร่ สนธิกำลังทหารค่ายกฤษสีวะรา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร กว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายใน หมู่ที่ 5 บ้านท่าแร่ เขตตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร และอีก 2 จุดในเขตอำเภอโพนนาแก้ว จ.สกลนคร

 

                  สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายมีการเข้าดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมาย ลักลอบค้าสุนัข และเปิดโรงชำแหละเนื้อสุนัขในพื้นที่ตำบลท่าแร่อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดได้ 1 รายและปิดโรงชำแหละสุนัขไป 1 แห่งภายหลังลักลอบชำแหละเนื้อสุนัขพร้อมตรวจยึดทำลายของกลางทั้งเนื้อสุนัขสด หนังสุนัข และซากสุนัขจำกว่า 1,000 กิโลกรัมในช่วงที่ผ่านมา

 

                  กระทั้งในครั้งนี้ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบตามจุดที่คาดว่าได้มีการลักลอบชำแหละเนื้อสุนัข โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งทีมออกทั้งหมด 5 ชุดเข้าตรวจสอบตามจุดเป้าหมายซึ่งในจุดแรกเข้าตรวจสอบบ้านไม้ชั้นเดียวไม่มีเลขที่ หมู่ 5 กลางหมู่บ้านท่าแร่ซึ่งก่อนหน้าเคยเป็นแหล่งพักสุนัขขนาดใหญ่แต่ไม่พบการกระทำผิดหรือสุนัขแต่อย่างใดมีสภาพบ้านปิดล็อคไม่มีคนพักอาศัย จุดที่ 2 เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 5 บ้านท่าแร่ ตำบลท่าแร่ มีนางสุมารี ขำคำ อายุ 54 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน โดยมีสภาพบ้านปูนชั้นเดียวมีสภาพเป็นกรงพักสุนัขในสภาพเก่าและมีการดัดแปลงเพื่อใช้เลี้ยงเป็ดไก่ในเล้า ไม่พบร่องลอยหรือพื้นที่ใช้ชำแหละเนื้อสุนัขแต่อย่างใด เจ้าหน้าจึงทำการตรวจสอบโดยทั่วบริเวณและได้สอบถามนางสุมารี ขำคำ ว่ายังมีการดำเนินการค้าสุนัขอยู่หรือไม่ โดยนางสุมารียืนยันว่าตนเลิกค้าสุนัขนานกว่า 2 ปีแล้ว เนื่องจากถูกจับและดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงได้เปลี่ยมมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูและเลี้ยงกบแทน เพื่อใช้ขายนำเงินมาดำรงชีวิตแทนการค้าสุนัขที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจึงแยกย้ายไปยังอีกจุด

 

                  ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าแร่ ซึ่งอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้าน มีสภาพบ้านปูนชั้นเดียวอยู่กลางป่า และมีโรงเรือนเลี้ยงไก่ที่กำลังก่อสร้าง  เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการชำแหละและเผาทำลายซากสุนัข ใกล้ๆกันด้านหลังโรงเรือนเลี้ยงไก่ พบถังบรรจุน้ำแข็งขนาดใหญ่ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการเปิดดูพบถุงพลาสติกสีขาว ภายในบรรจุเนื้อสุนัขแช่เย็นไว้ จำนวนทั้งสิ้น 20 ถุง ถุงละประมาณ 10 -15 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้นกว่า 200 กิโลกรัม

 

                  โดยมีนายเอกชัย อำจุฬา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร โดยแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของเนื้อสุนัขจำนวนดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนนายเอกชัย อำจุฬา ว่าได้ลักลอบชำแหละสุนัขในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งนายเอกชัยสารภาพว่าได้สั่งเนื้อสุนัขจำนวนดังกล่าวมาจากพื้นที่ชำแหละ จากอ.นาแก จ.นครพนม เพื่อมาจำหน่ายในพื้นที่ ซึ่งซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งจะสั่งมาเพื่อขายปลีกย่อยทั้งสดและทำเนื้อแดดเดียว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักลอบค้าสัตว์ (สุนัข)โดยไม่ได้รับ อนุญาติ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาดในสัตว์ พ.ศ.2499 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในส่วนซากสุนัขได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.เมือง จ.สกลนคร เข้ามาจัดเก็บซากสุนัขทั้งหมดและนำไปทำลายโดยวิธีการฝังดิน ที่บ่อขยะเทศบาลนครสกลนคร บ้านคำผักแผว อ.เมือง จ.สกลนคร จ.สกลนครและเข้าทำการฉีดพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อโรคโดยรอบบริเวณ

 

                  พ.ต.อ.ธวัชชัย หาญนที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร กล่าวว่าจากการเข้าดำเนินการตรวจสอบ จากการสั่งการโดย พล.ต.ต.พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผบก.ภ.จว.สกลนคร ที่กำชับให้กวาดล้างผู้กระทำผิดลักลอบชำแหละและค้าเนื้อสุนัขในพื้นที่ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพร้อมกันในพื้นที่ตำบลท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร ทั้ง 5 จุด และในพื้นที่อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร อีก 2 จุด พบการกระทำผิดกฎหมายเพียง 1 จุดที่ยังมีการลักลอบค้าเนื้อสุนัข ซึ่งก็ได้ทำการตรวจยึดไว้และทำลายต่อไป โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนพื้นที่ที่ใช้ลักลอบชำแหละ เบื้องต้นไม่พบการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ในส่วนที่เคยเข้าจับกุมในพื้นที่โรงชำแหละก่อนหน้าก็ได้ปิดและทำการรื้อถอนไปแล้ว อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เข้ามาควบคุมตรวจสอบอย่างเข้มงวดหากพบมีการกระทำผิดต้องเข้าดำเนินการทันที ไม่ให้มีการลักลอบในพื้นที่โดยเฉพาเขตตำบลท่าแร่ ขณะนี้ยืนยันว่าพื้นที่โรงชำแหละเนื้อสุนัขไม่เหลือแล้วในเขตรับผิดชอบ

 

 

 

 

-------------------------------------

 

 

 

(ภาพแฟ้มข่าว)