ข่าว

ชุมชนบ้านหงษ์ตัวอย่างรักษ์น้ำกำจัดวัชพืช-สร้างแหล่งอาหาร

ชุมชนบ้านหงษ์ตัวอย่างรักษ์น้ำกำจัดวัชพืช-สร้างแหล่งอาหาร

20 ต.ค. 2557

ชาวบ้านริมน้ำเมืองสุพรรณ ปลุกจิตสำนึกรักษ์คลอง นำภูมิปัญญาท้องถิ่นแก้ปัญหาผักตบชวาเต็มลำน้ำ ปลูกพืชน้ำกินได้เป็นแนวรั้ว ใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์น้ำ สร้างแหล่งอาหาร

 
              บ้านหงษ์ หมู่ 8 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เป็นชุมชนริมน้ำ 100 หลังคาเรือน อยู่ติดคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน เชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ที่ผ่านมาประสบปัญหาลำคลองมีวัชพืช ผักตบชวาหนาแน่น เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรทางเรือที่ชาวบ้านใช้อยู่เป็นประจำ นานวันเข้าเมื่อมีปริมาณมากขึ้นก็ทำให้น้ำเน่าเสียมีกลิ่น สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ลดน้อยลง ชาวชุมชนจึงคิดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน
 
              นายสมเกียรติ ปานอุทัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านหงษ์ เปิดเผยว่า จากเดิมที่เกิดปัญหาน้ำสกปรก ผักตบชวาหนาแน่น จึงประชุมลูกบ้านเพื่อหาทางแก้ปัญหา และในที่สุดได้ร่วมกันจัดทำโครงการ "รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสุขภาพชุมชน” โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทั้งการให้คำแนะนำและสนับสนุนด้านทุนดำเนินกิจกรรม ร่วมกับโรงพยาบาลบางปลาม้า เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทั้งทางบกและทางน้ำ มุ่งหวังให้เกิดพื้นที่ที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพของคนในชุมชน เกิดแหล่งอาหารที่ปลอดภัยมั่นคง และสร้างความสามัคคีในชุมชนอีกด้วย
 
              ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ เล่าว่า สภาพหมู่บ้านแต่เดิมไม่มีถนนเข้าถึง ต้องสัญจรทางเรือ โดยใช้คลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ทุกปีจะมีผักตบชวาลอยมาและเติบโตหนาแน่น ต้องใช้วิธีดันให้ไหลออกไปตามทางน้ำ แต่เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น และต้องเสียค่าใช้จ่ายทุกครั้ง จึงประยุกต์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อลดพื้นที่ของผักตบชวา คือการปักไม้ไผ่ สร้างรั้วกั้นให้มีร่องน้ำสำหรับสัญจร พร้อมนำพืชชนิดอื่น เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด สายบัว กระจับ มาปลูกเป็นแนวกันชน ไม่ให้ผักตบชวารุกล้ำเข้ามาได้ ทำให้มีพื้นที่สำหรับวางกระชังเลี้ยงปลาอีกด้วย
 
              “เราช่วยกันดันผักตบชวาที่ขึ้นเต็มคลองทุกปี แต่ก็ทำได้แค่ชั่วคราวเดี๋ยวก็กลับมาอีก บางหมู่บ้านเขาสู้ไม่ไหวก็ใช้วิธีการฉีดยาให้มันเน่า แต่ก็จะทำให้มีสารเคมีลงไปในน้ำ น้ำก็เสีย เลยมาคิดเอาภูมิปัญญาโบราณของบ้านเรา ทำโครงการขึ้นมา ร่วมกันปักรั้วให้เป็นแนว ริมตลิ่งก็ลงผักที่กินได้ เหลือก็เก็บขาย และยังเป็นที่อยู่ของกุ้งหอยปูปลา เป็นแหล่งอาหารของชุมชนไปด้วย” ผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าว
 
              ผู้ใหญ่สมเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากปักรั้วกั้นวัชพืชที่ปิดกั้นทางสัญจรแล้ว ยังร่วมกับชาวบ้านปรับภูมิทัศน์หลังหมู่บ้านให้เป็นที่ออกกำลังกาย สร้างโรงสีชุมชน โรงผลิตไบโอดีเซล ให้ความรู้เรื่องการกำจัดขยะในชุมชน การคัดแยกขยะ แบ่งกลุ่มกันดูแลเป็นคุ้ม และชักชวนเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความรักความหวงแหนและความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นชุมชนที่พึ่งพาตนเองได้ และมีสภาพแวดล้อมที่ดี เป็นตัวอย่างให้ชุมชนริมน้ำอื่นๆ นำไปประยุกต์แก้ปัญหาโดยไม่ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา