
ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (2)
19 ต.ค. 2557
ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (2) : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม

คราบเลือดที่เปื้อนอยู่บนจอบ ถูกนำไปผ่านกระบวนการตรวจดีเอ็นเอ พบว่ามีดีเอ็นเอตรงกันกับ น.ส.ฮันนา วิคตอเรีย และนายเดวิด วิลเลียม สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ในสัดส่วนของ น.ส.ฮันนา มีมากกว่า และเมื่อนำไปเทียบเคียงกับบาดแผลที่พบบนศพผู้ตาย ซึ่งพบว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม เนื่องจากบาดแผลไม่เรียบและกระดูกแตก ซึ่งปรากฏว่าบาดแผลเข้ากันได้กับจอบด้ามนี้ จึงเชื่อว่าจอบดังกล่าวน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ลงมือสังหารเหยื่อทั้ง 2 คน
ก้นบุหรี่ที่พบ 3 อัน อันแรกพบว่าเป็นบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร สีขาว ไม่พบดีเอ็นเอ มีเพียงคราบลิปสติกสีแดงติดอยู่ อันที่ 2 เป็นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มแดง พบดีเอ็นเอ 1 คน และอันที่ 3 เป็นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มแดง พบดีเอ็นเอของ 2 คน ทับซ้อนกันอยู่ โดย 1 ใน 2 คนนั้นตรงกันกับที่พบในร่างของ น.ส.ฮันนา
โดยในร่างของ น.ส.ฮันนา นอกจากบาดแผลกระแทกอย่างรุนแรงกับของแข็งไม่มีคมที่บริเวณศีรษะและใบหน้า ยังพบร่องรอยถูกคุกคามทางเพศ ในตัวไม่พบสารเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาท และไม่พบสารพิษจากอาหารในกระเพาะอาหารแต่อย่างใด
บริเวณหน้าอกขวาของ น.ส.ฮันนา พบคราบสารคัดหลั่ง เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบดีเอ็นเอบุคคลอื่น 2 คน ขณะที่ในช่องคลอดพบอสุจิของชาย 1 คน ตรวจดีเอ็นเอเทียบเคียงแล้วตรงกันกับดีเอ็นเอ 1 ใน 2 ที่พบบนหน้าอกขวา ขณะที่ในทวารหนักพบอสุจิของชาย 2 คน เทียบเคียงแล้วพบว่า 1 ใน 2 พบตรงกันกับที่พบบริเวณหน้าอกขวาและในช่องคลอด ขณะที่อีก 1 ตรงกันกับดีเอ็นเอที่พบบนหน้าอกขวา

จากหลักฐานดีเอ็นเอที่พบบนร่างของ น.ส.ฮันนา บ่งชี้ได้ว่า เธอถูกชาย 2 คนล่วงละเมิดทางเพศ และ 1 ใน 2 นั้นพบว่าเป็นบุคคลเดียวกันที่ทิ้งก้นบุหรี่ไว้ในจุดที่พบจอบ เนื่องจากตรวจดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ทั้ง 3 มวนแล้ว พบว่าหนึ่งในนั้นมีดีเอ็นเอตรงกันกับดีเอ็นเอที่พบในร่างของ น.ส.ฮันนา
ส่วนศพนายเดวิดมีบาดแผลจากการกระแทกอย่างรุนแรงจากของแข็งไม่มีคมที่ศีรษะและใบหน้า เมื่อเทียบกับจอบที่พบในจุดเกิดเหตุแล้ว พบว่าร่องรอยเข้ากันได้ โดยไม่พบการถูกทำร้ายทางเพศ ในช่องอก 2 ข้างพบน้ำ ปอดพองลมบวมน้ำเต็มช่องอก แต่ไม่พบสารเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาทในปัสสาวะและเลือด ในทวารหนักไม่พบอสุจิหรือดีเอ็นเอบุคคลอื่น สาเหตุการตายมาจากถูกทำร้ายอย่างรุนแรงด้วยของแข็งไม่มีคมที่ศีรษะร่วมกับการจมน้ำทะเล
การสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คน เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะเต่าตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน โดยมาเจอกันที่โอเชี่ยนวิว บังกะโล ซึ่งเป็นที่พักของบุคคลทั้งสอง โดยที่พักแห่งนี้ห่างจากจุดพบศพประมาณ 69 เมตร ต่อมาคืนวันที่ 14 กันยายน ผู้ตายทั้ง 2 คน พร้อมกลุ่มเพื่อนได้ไปชมการถ่ายสดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ต กับทีมสวอนซี ที่ช็อปเปอร์บาร์ จากนั้นเพื่อนผู้ตายขอตัวกลับห้องพัก ส่วนผู้ตายไปเที่ยวต่อที่เอซีบาร์ จนกระทั่งมาพบเป็นศพในเช้าวันรุ่งขึ้น
ตำรวจได้เชิญตัวกลุ่มเพื่อนของผู้ตายมาให้ข้อมูล โดยในจำนวนนั้นมี นายคริสโตเฟอร์ อลันแวร์ ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นเพื่อนของนายเดวิด รวมอยู่ด้วย และพบคราบเลือดเปื้อนเสื้อผ้า และตามร่างกายมีบาดแผลลักษณะคล้ายแผลที่เกิดจากไฟลวก ซึ่งนายคริสโตเฟอร์อ้างว่า บาดแผลดังกล่าวเกิดจากอุบัติเหตุไฟลวกระหว่างร่วมสังสรรค์งาน "ฟูลมูนปาร์ตี้" ซึ่งก่อนหน้านี้เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลแห่งหนึ่ง
หลังการสอบถามนายคริสโตเฟอร์ ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้เดินทางไปพบแพทย์ในสถานพยาบาลที่ชาวอังกฤษรายนี้อ้างถึง ซึ่งได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่า นายคริสโตเฟอร์เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกไฟลวกอย่างที่ให้การต่อตำรวจจริง

อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ขอความร่วมมือนายคริสโตเฟอร์ในการจัดเก็บดีเอ็นเอ เพื่อนำไปตรวจเทียบกับดีเอ็นเอที่พบบนศพ น.ส.ฮันนา และวัตถุพยานอื่นที่พบในละแวกที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าดีเอ็นเอของชาวอังกฤษรายนี้ไม่ตรงกันกับดีเอ็นเอที่พบจากวัตถุพยาน รวมถึงดีเอ็นเอที่พบจากร่างของผู้ตายด้วย
ตำรวจจึงปล่อยตัวชาวอังกฤษรายนี้ให้เดินทางออกนอกประเทศตามความประสงค์ และต่อมาในสังคมโซเชียลรวมถึงสื่อมวลชนหลักหลายแขนง ได้ตั้งปมสงสัยเกี่ยวกับชาวต่างชาติรายนี้ โดยเฉพาะปมการตรวจสอบพบคราบเลือดเปื้อนเสื้อผ้า ตำรวจจึงส่งผลการตรวจสอบดีเอ็นเอไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตรวจสอบ ซึ่งได้รับการยืนยันว่า ดีเอ็นเอที่พบบนร่างของ น.ส.ฮันนา และวัตถุพยานอื่น ที่จะนำไปสู่ตัวคนร้ายเป็นของชาวเอเชีย ข้อสงสัยในตัวของนายคริสโตเฟอร์ จึงถูกให้น้ำหนักลดน้อยลง

ตำรวจระดมกำลังชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลลงไปสนับสนุนการทำงานของชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจจากพิสูจน์หลักฐานกลาง มีการสอบปากคำพยานในละแวกที่เกิดเหตุหลายๆ ปาก โดยเบาะแสสำคัญที่ได้คือ มีการยืนยันสอดคล้องกันจากบุคคลที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นจำนวนหนึ่งว่า ในห้วงเวลาเกิดเหตุพบเห็นชายจำนวนหนึ่งล้อมวงเล่นกีตาร์และร้องเพลงด้วยภาษาต่างประเทศอยู่ตรงบริเวณขอนไม้ตรงจุดที่พบก้นบุหรี่ และวัตถุพยานอื่นๆ
เบาะแสดังกล่าวกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การล่าตัวคนร้ายจำกัดวงให้แคบขึ้น โดยเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษครั้งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับบุคคลกลุ่มนี้ เพราะไม่มีเบาะแสอื่นยืนยันได้ว่า ในห้วงเวลาเกิดเหตุจะมีคนกลุ่มอื่นเข้าไปในพื้นที่...อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเชื่อเช่นนั้น...ติดตามต่อตอนหน้า
-----------------------------
(ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (2) : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)