
เงินทองต้องรู้ : เสื่อมหรือสำเร็จ
17 ต.ค. 2557
เงินทองต้องรู้ : เสื่อมหรือสำเร็จ : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล [email protected]
เพราะมีเหตุให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เลยมีเวลาเดินสำรวจโรงพยาบาล ซึ่งจริงๆ ก็คุ้นเคยกันมานานเกือบ 20 ปีแล้ว นับตั้งแต่ฝากผีฝากไข้กับหมอที่นี่เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2540
การเปลี่ยนแปลงดูเหมือนจะเป็นนิรันดร์จริงๆ ไม่ว่าจะคน สถานที่ ระบบหรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีในการรักษา
เดินผ่านตู้หนังสือที่ถูกนำมาตั้งหลบมุมไว้บริเวณโถงโรงพยาบาล มีหนังสือเล่มเล็กๆ เป็นหนังสือใหม่ ไม่ใช่หนังสือใช้แล้วหรือหนังสือบริจาควางเรียงอยู่ในชั้นหลายเล่ม ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็ไม่มีใครแวะเวียนมาหยิบจับ เดินเข้าไปดูใกล้ๆ จึงเห็นว่า ทั้งหมดล้วนเป็นหนังสือธรรมะว่าด้วยเรื่องต่างๆ ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับโรงพยาบาล ที่มนุษย์พึงปลงให้ตกว่า ชีวิตก็แค่นี้แหละ มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ มีดับไป และทุกจังหวะของชีวิตก็มักจะรวมศูนย์อยู่ที่โรงพยาบาลนี่แหละ
หนังสือเหล่านี้จัดทำโดย “กองทุนคลังธรรมทาน” ซึ่งพิมพ์เพื่อแจกจ่ายเป็นทานแก่ผู้สนใจ บนชั้นบนสุดของตู้หนังสือมีกล่องรับบริจาค ที่เปิดรับตามกำลังของแต่ละคน จุดเด่นของหนังสือเหล่านี้นอกจากจะคัด “ธรรมะ” และหลักคำสั่งสอนในทางธรรม ที่น่าสนใจมารวมกันแล้ว หนังสือแต่ละเล่มยังเป็นเล่มเล็กๆ และจำนวนหน้าก็บางพอ จะทำให้คนอยากหยิบจับมากกว่าหนังสือธรรมะเล่มโตๆ
มี 2 เล่มที่หยิบติดมือมา (พร้อมกับทำบุญตามกำลัง) และอ่านจบในเวลาไม่นานนัก นั่นคือ “ธรรมนูญชีวิต ฉบับสำหรับชาวบ้าน” โดยพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) และ “ยิ่งให้ ยิ่งได้” โดยพระพรหมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ)
อ่านแล้ว อดเก็บมาฝากไม่ได้ (สำหรับใครที่อ่านแล้ว ก็ถือว่าซ้ำอีกทีแล้วกัน) แต่พอจะฝาก ก็ต้องเริ่มนึกว่า จากสกู๊ปเงินทอง เปลี่ยนเป็นวันอาทิตย์คิดเรื่องเงิน จนเปลี่ยนเป็นเงินทองต้องรู้ ในวันนี้ ผ่านระยะเวลามานานทั้งพื้นที่ในการเขียน คนเขียนและเรื่องที่จะเขียน ก็คงเป็นเหตุผลสำคัญและไม่น่าแปลกใจที่ยิ่งเขียนก็ยิ่งปลง ยิ่งเขียนก็ยิ่งวาง
หลังจากอ่านเล่มแรก คือ “ธรรมนูญชีวิต ฉบับสำหรับชาวบ้าน” โดยพระพรหมคุณาภรณ์ มี 2 เรื่องที่ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ เพราะเป็น 2 เรื่องที่อยู่ต่างขั้ว สำหรับมนุษย์ที่ต้องการละจาก “ทางเสื่อม” และแสวงหา “ความสำเร็จ”
ขั้วแรก ว่าด้วยวินัยชาวพุทธ หมวดที่ 1 เรื่องการวางฐานชีวิตให้มั่น ด้วยกฎข้อที่ 1 คือ เว้นชั่ว 14 ประการ กฎข้อที่ 2 คือ เตรียมทุนชีวิต 2 ด้านและกฎข้อที่ 3 คือ รักษาความสัมพันธ์ 6 ทิศ
ในกฎข้อที่ 1 เว้น 14 ประการนี่แหละ ที่มี “ช่องทางเสื่อมทรัพย์อับชีวิต” ซ่อนอยู่ถึง 6 ประการ นั่นคือ ไม่เสพติดสุรายาเมา ไม่เอาแต่เที่ยวไม่รู้เวลา ไม่จ้องหาแต่รายการบันเทิง ไม่เหลิงไปหาการพนัน ไม่พัวพันมั่วสุมมิตรชั่ว และไม่มั่วจมอยู่ในความเกียจคร้าน ทั้งหลายเหล่านี้รวมกันนั่นคือ “การเว้นอบายมุข”
ส่วนขั้วที่สอง เป็นเรื่องของ “คนกับชีวิต” ว่าด้วยชีวิตที่ก้าวหน้าและสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่า ใครก็อยากมี ใครก็อยากเจอ แต่จะทำอย่างไรจึงจะก้าวหน้าและสำเร็จ ในหนังสือเล่มนี้บอกถึงหลักพึงปฏิบัติไว้ 3 หลัก นั่นคือ หลักความเจริญ หลักความสำเร็จ และหลักเผล็ดโพธิญาณ
หลักความเจริญ มีอยู่ 4 ข้อ นั่นคือ เลือกอยู่ถิ่นที่เหมาะ หมายถึงเลือกหาถิ่นที่อยู่ หรือแหล่งเล่าเรียนดำเนินชีวิตที่ดี มีบุคคลและสิ่งแวดล้อมที่อำนวยแก่การศึกษา พัฒนาชีวิต เสาะเสวนาคนดี คือ รู้จักเสวนาคบหา หรือร่วมหมู่กับบุคคลผู้รู้ ผู้ทรงคุณ และผู้ที่จะเกื้อกูลแก่การแสวงหาความรู้ ตั้งตนให้ถูกวิถี หมายถึงดำรงตนอยู่ในธรรมและทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ตั้งเป้าหมายชีวิตและการงานให้ดีงามแน่ชัด สุดท้าย คือ มีทุนดีได้เตรียมไว้ ทุนดีส่วนหนึ่ง คือ ความมีสติปัญญา ความถนัดและร่างกายดี ซึ่งเป็นพื้นที่มีมาแต่เดิม และอีกส่วนหนึ่ง คือ การศึกษาหาความรู้ เสริมสร้างคุณสมบัติ พัฒนาฝึกฝน เตรียมให้พร้อมไว้ก่อน เมื่อมีงาน ก็สามารถจัดทำสร้างความสำเร็จและก้าวสู่ความเจริญยิ่งขึ้นไปได้
ส่วนหลักความสำเร็จ หรืออิทธิบาท 4 ประการ ประกอบด้วย มีใจรัก (ฉันทะ) คือ พอใจจะทำสิ่งนั้น และทำด้วยใจรัก ต้องการทำให้สำเร็จอย่างดี ไม่ใช่สักแต่ว่าทำพอให้เสร็จ หรือเพียงเพราะอยากได้รางวัลหรือผลกำไร พากเพียรทำ (วิริยะ) คือ ขยันหมั่นประกอบ หมั่นกระทำสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระ ไม่ทอดทิ้ง ไม่ท้อถอย ก้าวไปข้างหน้าจนกว่าจะสำเร็จ เอาจิตฝักใฝ่ (จิตตะ) คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอย ใช้ความคิดในเรื่องนั้นบ่อยเสมอๆ ทำงานนั้นอย่างอุทิศตัวอุทิศใจ และ ใช้ปัญญาสอบสวน (วิมังสา) คือ หมั่นใช้ปัญญาพิจารณาใคร่ครวญตรวจตราหาเหตุผล และตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนเกินเลยบกพร่องขัดข้อง รู้จักทดลอง วางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง เพื่อจัดการและดำเนินงานให้ได้ผลดีมีการพัฒนายิ่งขึ้นไป
สุดท้าย คือ หลักเผล็ดโพธิญาณ นั่นคือ ไม่สันโดษในกุศลธรรม คือ ไม่รู้อิ่ม ไม่รู้พอในการสร้างสรรค์ความดีและสิ่งที่ดี และ บำเพ็ญเพียรไม่ระย่อ คือ เพียรพยายาม ก้าวหน้าเรื่อยไป ไม่ยอมถอยหลัง ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมท้อถอยต่ออุปสรรคและความเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก
ที่หยิบยกมาจาก “ธรรมนูญชีวิต ฉบับสำหรับชาวบ้าน” คู่มือดำเนินชีวิต สู่ความก้าวหน้า เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น เพราะหลักคิด หลักปฏิบัติตามหลักธรรมให้ชีวิตประสบความสำเร็จนั้นยังมีอยู่อีกมาก สุดแต่ใครจะหยิบตรงไหนมาใช้งาน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ถ้าเราออกห่างจากอบายมุข ก็เท่ากับปิดช่องทางเสื่อมทรัพย์ไปแล้ว ที่เหลือก็เติมความสำเร็จและความก้าวหน้าให้ทรัพย์อย่างถูกต้อง ถูกวิถีทางต่อไป
ระยะทางระหว่าง “ความเสื่อม” กับ “ความสำเร็จ” ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนวางระยะจนชิดสนิทเพียงแค่เดินก้าวข้ามผ่าน ความสำเร็จที่คิดว่า ใช่ ก็กลายเป็นภาพลวง เพราะแค่ถอยกลับเพียงก้าวเดียวก็กลายเป็นเสื่อมแล้ว ขณะที่บางคนทิ้งระยะไว้คนละขั้ว ใช้ความเพียรในการก้าวผ่านจากความเสื่อม เพื่อเดินเข้าหาความสำเร็จ ความเสื่อมที่อยู่เบื้องหลังก็ถูกทิ้งร้างให้ห่างไกลออกไปทุกที
----------------------------
(เงินทองต้องรู้ : เสื่อมหรือสำเร็จ : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล [email protected])