ข่าว

ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (ตอน 1)

ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (ตอน 1)

12 ต.ค. 2557

ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (ตอน 1) : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม

 
                          แม้ตำรวจจะจับกุมและแจ้งข้อหาดำเนินคดี นายโซ และนายวิน สองแรงงานชาวพม่า ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าข่มขืน 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เหตุเกิดที่เกาะเต่า สถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อของ จ.สุราษฎร์ธานี โดยอ้างวัตถุพยานที่พบในจุดเกิดเหตุ รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะดีเอ็นเอที่พบบนศพ และภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง เป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้มัดตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน แต่สังคมก็ยังคลางแคลงใจ มีการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจชุดคลี่คลายคดีอย่างต่อเนื่อง
 
                          แม้คดีดังกล่าวจะเกิดมานานนับเดือน และตำรวจจับคนร้ายมาได้กว่าครึ่งเดือนแต่ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ยังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "CSI LA" ซึ่งนอกจากจะโพสต์ข้อความต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับคดีแล้วถึงกับมีการโพสต์เชิญชวนให้แฟนเพจบริจาคเงินโดยอ้างเพื่อระดมทุนไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการติดตามคดีนี้เป็นการเฉพาะ แม้เพจนี้จะถูกตั้งคำถามจากผู้ที่มีความเห็นต่างว่า หลายความคิดเห็นที่นำมาโพสต์เกิดจากการจินตนาการที่ปั้นแต่งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์แอบแฝงบางอย่าง 
 
                          บางรายถึงกับออกมาโจมตีกล่าวหาแอดมินของหน้าเพจนี้ เป็นกลุ่มบุคคลที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองบางกลุ่มที่มีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือของตำรวจ ซึ่งหากข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง เป็นเรื่องที่น่าคิดในมุมของภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรตำรวจ
 
                          เพราะจำนวนผู้ติดตามเพจ CSI LA ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่มีความเชื่อในมุมมองที่แอดมินพยายามชี้นำ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เหตุใดผู้คนเหล่านั้นจึงไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของตำรวจไทย
 
                          คดีนี้เริ่มเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 15 กันยายน พนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิต ที่บริเวณโขดหินชายหาดทรายรี (หาด จปร.) หมู่ 1 ต.เกาะเต่า จึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ตายเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน สภาพศพเปลือยกาย มีร่องรอยถูกทำร้ายด้วยของแข็งที่ศีรษะหลายแผล บริเวณที่เกิดเหตุ พบคราบเลือด เครื่องแต่งกายของผู้ตาย และวัตถุพยานอื่นๆ 
 
                          จุดพบศพห่างจากโรงแรมโอเชี่ยลวิลล์ไปตามแนวชายหาด 69 เมตร โดยศพผู้ชายห่างจากศพผู้หญิง 5 เมตร ที่บริเวณกองเสื้อผ้าซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ตายทั้ง 2 คน มีรอยลากจากกองเสื้อผ้าไปยังจุดพบศพ   
โดยศพผู้หญิงมีรอยถูกลากในแนวขนานกับน้ำทะเลออกห่างจากกองเสื้อผ้าไป 15 เมตร ขณะที่ศพผู้ชายมีรอยลากในแนวทะแยงลงไปในทะเลห่างจากกองเสื้อผ้า 12 เมตร
 
                          ตำรวจตรวจพบเอกสารเป็นหนังสือเดินทางระบุตัวตนผู้ตายผู้หญิงคือ น.ส.ฮันนา วิคตอเรีย ชาวอังกฤษ ขณะที่ผู้ชายคือนายเดวิด วิลเลียม ชาวอังกฤษ เช่นกัน ทั้งสองศพมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ โดยผู้หญิงพบร่องรอยถูกข่มขืน
 
 
 
ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (ตอน 1)
 
 
 
                          ศพทั้งสองหลังผ่านกระบวนการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ ได้ถูกส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยมี พ.ต.อ.ภวัต ประทีปวิศรุต รอง ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา เป็นแพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ ซึ่งได้แถลงผลการผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายทั้ง 2 คน พร้อมกับการแถลงทางคดี ซึ่งมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ศพ น.ส.ฮันนา ถูกส่งมายังสถาบันนิติเวชวิทยาในสภาพกึ่งเปลือย เปื้อนทราย พบคราบเลือด สภาพศพเริ่มเน่า ไม่ผ่านการรักษา มีบาดแผลรุนแรงที่ศีรษะและใบหน้า จากของเเข็งไม่มีคม พบการถูกทำร้ายทางเพศ ผลตรวจทางพิษวิทยาไม่พบสารเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาทในปัสสาวะและเลือด ไม่พบสารพิษจากอาหารในกระเพาะอาหาร ผลตรวจทางชีวเคมีพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น 2 คน ที่บริเวณหน้าอกขวา พบอสุจิบุคคลอื่น 1 คน ในช่องคลอด พบอสุจิและดีเอ็นเอของบุคคลอื่น 2 คน ในทวารหนัก สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมาจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากของแข็งไม่มีคมกระทบกระแทกอย่างรุนแรง
 
                          "นายเดวิด สภาพศพที่ส่งมาสภาพเปลือย เริ่มเน่า ไม่ผ่านการรักษา บาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะและใบหน้า จากของแข็งไม่มีคม เข้ากันได้กับวัตถุของกลางในคดี ไม่พบการถูกทำร้ายทางเพศ การตรวจภายในพบน้ำในช่องอก 2 ข้าง ปอดพองลมบวมน้ำเต็มช่องออก ผลตรวจทางพิษวิทยาไม่พบสารเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาทในปัสสาวะและเลือด ไม่พบสารพิษจากอาหารในกระเพาะอาหาร ผลตรวจทางเคมีไม่พบอสุจิในทวารหนัก สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมาจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากของแข็งไม่มีคมกระทบกระแทกอย่างรุนแรงร่วมกับการจมน้ำทะเล" พ.ต.อ.ภวัต แถลงผลการผ่าพิสูจน์ศพ 
 
                          ในอุ้งมือของ น.ส.ฮันนา ยังพบเส้นขนสีทอง ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วพบว่าเส้นขนดังกล่าวมีลักษณะการกัดสีผม ขณะที่ดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยที่พบบนศพ น.ส.ฮันนา มีการส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตรวจสอบ ได้รับการยืนยันว่า ดีเอ็นเอดังกล่าวเป็นของชาวเอเชีย
 
                          ขณะที่การเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยมี พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่งกำกับดูแลงานด้านพิสูจน์หลักฐาน (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) ลงพื้นที่ไปอำนวยการทำงานของทีมพิสูจน์หลักฐานด้วยตนเอง
 
                          ตำรวจตรวจพบห่างจากจุดพบศพออกมาตามแนวชายหาด 65 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณขอนไม้ริมหาด พบหลักฐานสำคัญทางคดีคือจอบขุดดินด้ามไม้เปื้อนคราบเลือด ถุงบรรจุข้าวสารสีแดง ถุงยางอนามัย 1 ชิ้นมีคราบเลือดติดอยู่ รอยเท้า รองเท้าแตะ และยังพบก้นบุหรี่ตกอยู่ 3 มวน มวนแรกสีขาวมีลิปสติกติดอยู่ ส่วนอีก 2 มวนเป็นสีแดง ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานเหล่านี้ไว้ตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์
 
 
 
ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (ตอน 1)
 
 
 
                          จอบที่พบมีคราบเลือดเปื้อนอยู่โดยเฉพาะบริเวณสันขอบรอยต่อระหว่างด้ามกับตัวจอบซึ่งเป็นโลหะ เช่นเดียวกับถุงบรรจุข้าวสาร และถุงยางอนามัย ซึ่งวัตถุพยานเหล่านี้ถูกส่งตรวจหาดีเอ็นเอจากคราบเลือดที่เปื้อนอยู่ โดยพบว่าดีเอ็นเอที่พบจากคราบเลือดที่เปื้อนศพตรงกันกับของนายเดวิด และ น.ส.ฮันนา แต่ดีเอ็นเอของ น.ส.ฮันนา มีสัดส่วนที่มากกว่า และเมื่อนำไปเทียบกับลักษณะบาดแผลที่พบบนศพปรากฏว่าร่องรอยเข้ากันได้ ตำรวจจึงเชื่อว่าจอบที่พบเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้สังหารผู้ตายทั้งสองคน
 
                          ส่วนคราบเลือดที่พบเปื้อนถุงบรรจุข้าวสาร เป็นเพราะคนร้ายนำถุงบรรจุข้าวสารใบนี้มาคลุมจอบไว้หลังจากก่อเหตุ ขณะที่การตรวจสอบถุงยางอนามัยภายในไม่พบดีเอ็นเอของใคร โดยมีลักษณะเปื้อนไปด้วยทราย ส่วนภายนอกมีคราบเลือดซึ่งเมื่อตรวจหาดีเอ็นเอแล้วพบว่าตรงกันกับของ น.ส.ฮันนา 
 
                          ตำรวจสันนิษฐานว่า ถุงยางที่พบอาจเป็นถุงยางเก่าที่ไม่เกี่ยวข้องทางคดี โดยอาจตกอยู่ในบริเวณนั้นก่อนจะเกิดการฆาตกรรมในกรณีนี้ก็อาจเป็นได้ ส่วนคราบเลือดที่ตรวจพบดีเอ็นเอของ น.ส.ฮันนา อาจเกิดจากหยดเลือดจากจอบกระเด็นใส่ ระหว่างที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ 
 
                          ขณะที่ก้นบุหรี่ที่พบในจุดดังกล่าว 3 อัน มีการส่งตรวจสอบหาดีเอ็นเอ เช่นกัน พบว่า อันแรกเป็นบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร สีขาว ไม่พบดีเอ็นเอ มีเพียงคราบลิปสติกสีแดงติดอยู่ อันที่ 2 เป็นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มแดง พบดีเอ็นเอ 1 คน และอันที่ 3 เป็นบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มแดง พบดีเอ็นเอของ 2 คน ทับซ้อนกันอยู่ โดย 1 ใน 2 คนนั้นตรงกันกับที่พบในร่างของ น.ส.ฮันนา  
 
                          นอกจากวัตถุพยานที่พบในจุดเกิดเหตุ ดีเอ็นเอที่พบบนตัวศพแล้ว อะไรคือหลักฐานที่นำมาสู่การจับกุม 2 แรงงานชาวพม่า ติดตามต่อตอนหน้า
 
 
 
 
 
 
---------------------------
 
(ไขคดี...ฆ่าข่มขืนบนเกาะเต่า (ตอน 1) : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)