ข่าว

วันไหนรายอฮัจญี?...ปีนี้ยังสับสน

วันไหนรายอฮัจญี?...ปีนี้ยังสับสน

04 ต.ค. 2557

วันไหนรายอฮัจญี?...ปีนี้ยังสับสน

             บรรยากาศที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้กำลังเต็มไปด้วยความสับสนว่า "วันรายอฮัจญี" หรือ "วันตรุษอีฎิ้ลอัดฮา" ซึ่งเป็นวันที่มุสลิมทั่วโลกจะร่วมกันเฉลิมฉลองการเชือดสัตว์พลีทาน หรือ "กุรบาน" และตรงกับวันที่มุสลิมอีกจำนวนนับล้านคนไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น เป็นวันไหนกันแน่


             เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่า สภาตุลาการซาอุดีอาระเบียประกาศกำหนดวันที่ 1 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ (เดือนที่มีการประกอบพิธีฮัจญ์) ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2557 ให้วันอาเราะฟะฮ์ ตรงกับวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 และวันอีฎิ้ลอัดฮา ตรงกับวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 ซึ่งมุสลิมทั่วโลกต้องยึดตามประกาศนี้

             ทว่า สำนักจุฬาราชมนตรีกลับออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง กำหนดวันอีฎิ้ลอัดฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) 1435 ความว่า จุฬาราชมนตรีได้มีบัญชาให้ประกาศกำหนดวันอีฎิ้ลอัดฮา ประจำปี ฮ.ศ.1435 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2557 จึงขอประกาศให้พี่น้องมุสลิมทั่วประเทศได้ปฏิบัติศาสนกิจในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

             ประกาศฉบับนี้ออกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2557 ลงนามโดย ผศ.ดร.อับดุลเลาะ หนุ่มสุข ผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ในฐานะผู้รับสนองบัญชา

             อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าประกาศนี้ไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้นำศาสนาบางส่วนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น จ.นราธิวาส ได้ประกาศมติของคณะกรรมการมัสยิดประจำจังหวัดนราธิวาส ให้ละหมาดอีฎิ้ลอัดฮาในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 (ตรงกับที่ซาอุฯ ประกาศ) เป็นต้น

             ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ การกำหนดวันต่างๆ ดังกล่าวจะไปผูกกับหลักศาสนาและคำสอนขององค์อัลลอฮ์ โดยเฉพาะการถือศีลอด และการเชือดสัตว์พลี (กุรบาน) ซึ่งผู้กระทำจักได้บุญ หรือลบล้างบาป ฉะนั้นหากกำหนดวันไม่ตรงกัน ย่อมเกิดความสับสนว่าควรประกอบศาสนกิจในวันไหนกันแน่


ความสำคัญของวันอาเราะฟะฮ์?

             ข้อมูลจากเทปบันทึกการบรรยายพิเศษเรื่อง "ความสำคัญของ 10 วันแรกเดือนซุลฮิจญะฮ์" โดย เชคริฎอ อะหมัด สมะดี สรุปความตอนหนึ่งได้ว่า 10 วันแรกในเดือนซุลฮิจญะฮ์เป็นโอกาสสำหรับผู้ที่พลาดโอกาสไม่ได้ถือศีลอดในเดือนเชาวาล (เดือนรอมฎอน) ที่ผ่านมา สามารถแก้ตัวได้โดยการถือศีลอดในช่วง 10 วันในเดือนซุลฮิจญะฮ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันอาเราะฟะฮ์ ที่ความประเสริฐของมันสามารถลบล้างบาปและความผิดพลาดทั้ง 1 ปีที่ผ่านมาและ 1 ปีที่ตามหลัง 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์จึงมีความสำคัญมาก และเปิดโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณงามความดีให้มีน้ำหนักมากขึ้น


จุดเด่นของ 10 วันแรกของเดือนซุลฮิจญะฮ์มีดังนี้

             1.พระองค์อัลลอฮ์ ทรงสาบานไว้ในอัลกุรอาน... 2.วันที่ 9 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ เป็นวันวุกูฟของบรรดาผู้ที่ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ที่ทุ่งอาเราะฟะฮ์ ซึ่งเป็นหลักประการสำคัญของฮัจญ์ที่จำเป็นต้องกระทำ ท่านเราะซูล (บุคคลที่ได้รับเลือกจากท่านศาสดาให้นำบัญญัติมาเผยแผ่แก่โลกมนุษย์) สนับสนุนให้พวกเขาถือศีลอดในวันนี้

             3.วันที่ 10 หลังจากวันอาเราะฟะฮ์ เป็น วันอีฎิ้ลอัดฮา ท่านเราะซูลสนับสนุนส่งเสริมให้มุสลิมที่ไม่ได้ประกอบพิธีฮัจญ์ เชือดสัตว์พลี ประกอบด้วย อูฐ วัว ควาย แพะ หรือ แกะ ตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคล เพราะเป็นการเจริญรอยตามแบบฉบับของท่านเราะซูลที่มีรายงานว่าท่านได้เชือดแกะ 2 ตัวในวันนี้ เพื่อแจกจ่ายเนื้อสัตว์ให้แก่ผู้ยากจน ญาติมิตร และเพื่อนฝูง


ปัตตานียกเลิกละหมาดใหญ่

             จากข้อมูลแสดงความสำคัญของวันอาเราะฟะฮ์ กับวันอีฎิ้ลอัดฮาที่ยกมา และความสับสนในการกำหนดวันดังกล่าว ทำให้บรรยากาศในพื้นที่ชายแดนใต้ช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ตลาด ร้านค้า สภากาแฟ ร้านตัดผมชาย หรือชุมชนต่างๆ มีแต่การพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะวันอาเราะฟะฮ์ตรงกับวันไหน เพราะต้องถือศีลอด และวันรายอฮัจญี หรือวันอีฎิ้ลอัดฮา ตรงกับวันใด เพราะต้องเชือดสัตว์พลี

             "ถ้าถือศีลอดวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม ก็ตรงกับวันอาเราะฟะฮ์ที่ซาอุฯ เว้นวันเสาร์หนึ่งวัน แล้วรายอวันอาทิตย์ แต่ถ้าให้ถือศีลอดวันเสาร์ ก็ไม่ตรงกับวันอาเราะฟะฮ์ แล้วจะถือศีลอดทำไม" เป็นคำถามที่เกิดขึ้นแทบทุกวงพูดคุยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

             จนถึงขณะนี้ มุสลิมในพื้นที่ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน บางกลุ่มจะถือศีลอดวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม แล้วรายอวันเสาร์ ตามประกาศของซาอุฯ โดยไม่ฟังประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่จะรายอวันอาทิตย์ตามคำสั่งของสำนักจุฬาราชมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดบางจังหวัด นับเป็นความสับสนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

             ล่าสุดมีข่าวว่า นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปัตตานี แจ้งว่า ตามที่ อบจ.ได้กำหนดจัดพิธีละหมาดรายอฮัจญ์ (อีฎิ้ลอัดฮา) ประจำปี 2557 นั้น เนื่องจากสังคมมุสลิมในประเทศไทยมีความเห็นแตกต่างกันในประเด็นกำหนดวันอาเราะฟะฮ์ และวันอีฎิ้ลอัดฮา จึงขอประกาศยกเลิกการจัดละหมาดอีฎิ้ลอัดฮา ณ สนามกีฬา อบจ.ปัตตานี ในปีนี้


นักวิชาการอิสลามจี้สำนักจุฬาฯแจง

             ในสื่อสังคมออนไลน์ก็มีความเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง เช่น นักวิชาการอิสลาม (ขอสงวนนาม) ทำจดหมายเปิดผนึกถึงสำนักจุฬาราชมนตรี ขอให้ชี้แจงข้อสับสนในหลายประเด็น ได้แก่ 1.ที่อ้างว่ามีตัวแทนของสำนักจุฬาฯ ไปดูการเห็นจันทร์เสี้ยว (เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนซุลฮิจญะห์) แล้วระบุว่าไม่เห็นจันทร์เสี้ยวนั้น ไปดูที่จังหวัดไหน เหตุใดจึงไม่มีประกาศออกทีวีเหมือนอีฎิ้ลฟิตริ (รอยอหลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอน)

             2.ทำไมคำประกาศวันอีฎิ้ลอัดฮาจึงไม่ใช่คำประกาศของจุฬาราชมนตรีเอง แต่เป็นการลงนามโดยผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ผู้รับสนองบัญชา อยากทราบว่า หากจุฬาราชมนตรีมอบหมายจริง ทำไมจึงไม่มอบหมายให้รองจุฬาราชมนตรี หรือเลขาฯ แต่กลับมอบให้ผู้ทรงคุณวุฒิ

             3.การเชือดสัตว์กุรบาน จะทำวันไหน เพราะถ้าจะให้ตรงกับซาอุฯ ต้องทำวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม ซึ่งถ้าร่วมทำไปแล้วในวันที่ 4 และมาทำตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีในวันที่ 5 ก็จะไม่ถือว่าเป็นสัตว์กุรบาน 4.หากจะให้ถือศีลอดวันอาเราะฟะฮ์วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม แล้วออกอีด (รายอ) วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม การเว้นวันเสาร์ 1 วัน เคยมีหลักฐานการกระทำในอดีตหรือไม่ ขอให้ชี้แจง