
ผลตรวจร่างกาย-วงจรปิดมัด 'หมวยโซ' จอมลวงโลก
24 ส.ค. 2557
ผลตรวจร่างกาย-วงจรปิดมัด 'หมวยโซ' จอมลวงโลก : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม
เมื่อเดือนมิถุนายน 2546 ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเสียหายอย่างรุนแรง เมื่อหญิงวัย 31 ปี ชาวฮ่องกง "โซ เหลียง อิง" เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยอ้างว่าตกเป็นเหยื่อทางเพศผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊ก ชาวไทย 4 คน ที่ใช้พื้นที่บนรถตุ๊กตุ๊กและหน้าอาคารรัฐสภารุมโทรมเธอ
นางปวีณา ได้นำหญิงสาวชาวฮ่องกง ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้สื่อข่าวอิสระรายนี้ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต และหลังจากนั้นไม่นานเรื่องราวฉาวโฉ่นี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก จนกลายเป็นคำถามถึงความปลอดภัยของชาวต่างชาติที่ข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
น.ส.โซ เหลียง อิง หรือต่อมาถูกเรียกขานว่า "หมวยโซ" อ้างว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ต่อเนื่องวันที่ 3 มิถุนายน 2546 ได้ว่าจ้างคนขับรถตุ๊กตุ๊ก จากหน้าห้างสรรพสินค้านารายณ์ภัณฑ์ ย่านราชดำริ ให้ไปส่งที่โรงแรมอโนมา ย่านสุขุมวิท ระหว่างทางเผลอหลับ และมารู้สึกตัวอีกที ก็พบชายฉกรรจ์ 3 คน นั่งเบียดอยู่ในรถ จำได้ว่าขณะนั้นรถน่าจะวิ่งผ่านบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จึงขอลงจากรถ แต่ถูกชายที่นั่งอยู่ด้านซ้ายใช้มีดปลายแหลมจี้เอว ขณะที่ชายที่นั่งด้านขวาใช้มีดจี้คอ ก่อนที่ชายอีกคนจะใช้มือทุบที่ต้นคอ
หลังจากนั้นจึงถูกลากตัวไปรุมโทรมที่ริมฟุตบาทละแวกนั้น ระหว่างถูกย่ำยี มีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ในสวนอัมพรเดินผ่านมา แต่คนขับรถตุ๊กตุ๊กได้ส่งเงินให้ไป 500 บาท พนักงานรักษาความปลอดภัยรายนั้นก็จากไป โดยเธอยังคงถูกผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กและพวกข่มขืนต่อ และยังถูกจับหัวโขกกับฟุตบาท
ตำรวจพยามซักไซร้เรื่องราว กระทั่งเธอให้การวกวนจนยากต่อการปะติดปะต่อเรื่องราว ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต้องนำสาวชาวฮ่องกงรายนี้ ย้อนกลับไปยัง โรงแรมอโนมา แล้วพาขึ้นรถขับย้อนเหตุการณ์ตามคำบอกเล่าของหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นนักข่าวอิสระรายนี้
ซึ่งเธอยืนยันว่า สถานที่ซึ่งถูกย่ำยีคือริมถนนอู่ทองฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภา พร้อมกับให้การต่อว่า นอกจากหน้าอาคารรัฐสภาแล้ว ยังถูกรุมโทรมบนรถตุ๊กตุ๊ก ขณะรถวิ่งผ่านสถานที่ต่างๆ ไปแทบตลอดทางด้วย หนำซ้ำหลังจากตกเป็นเหยื่อแล้วยังถูกกลุ่มคนร้ายชิงเงินสด 4,000 บาท และโทรศัพท์มือถือติดไม้ติดมือเป็นของแถมไปด้วย
เธออ้างด้วยว่า หลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายแล้ว ได้ถูกผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กนำมาปล่อยไว้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งเธอได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.ลุมพินี แต่กลับถูกปฏิเสธที่จะรับแจ้งความ พร้อมทั้งยังถูกตำรวจไล่กลับที่พักอย่างไม่แยแส
การให้การของหญิงสาวชาวฮ่องกงรายนี้มีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะสถานที่เกิดเหตุซึ่งอ้างว่าเกิดที่ริมฟุตบาทหน้าอาคารรัฐสภา และบนรถตุ๊กตุ๊ก ที่ตระเวนขับผ่านสถานที่สำคัญๆ กลางใจเมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน แม้เวลาจะดึกดื่นค่อนคืนก็ไม่น่าที่จะเกิดเรื่องราวลักษณะนี้ได้
ตำรวจได้ส่ง น.ส.โซ เหลียง อิง ไปตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่กลับไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืนแต่อย่างใด
ผลการตรวจร่างกายดังกล่าว ผนวกกับคำให้การที่วกวนของ หญิงชาวฮ่องกงรายนี้ ทำให้ตำรวจสงสัยในข้อพิรุธตั้งแต่แรก แต่เนื่องด้วยหญิงรายนี้เป็นชาวต่างชาติ และยังอ้างว่าเป็นนักข่าวอิสระ ตำรวจเกรงจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ จึงต้องทำคดีให้กระจ่าง
ชุดสืบสวน กก.สส.น.1 ซึ่งยุคนั้นมี พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น เป็น ผกก.สส.บก.น.1 (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) มี พ.ต.ท.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ เป็น รอง ผกก.สส.น.1 (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) จึงพยายามสืบสาวหาข้อเท็จจริง
ชุดสืบสวนได้ย้อนกลับไปที่โรงแรมอโนมา โดยได้สอบปากคำ พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม ได้รับการยืนยันว่า คืนวันเกิดเหตุ เห็นรถตุ๊กตุ๊กเข้ามาส่ง น.ส.โซ เหลียง อิง ที่หน้าโรงแรม โดยที่ตัวหญิงสาวอยู่ในอาการปกติ ไม่เหมือนบุคคลที่เพิ่งผจญเหตุร้ายมา
ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม ซึ่งพบภาพเหตุการณ์สอดคล้องกับคำให้การของพนักงานรักษาความปลอดภัย เมื่อใช้เทคนิคขยายภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดของโรงแรม สามารถตรวจสอบทะเบียนรถตุ๊กตุ๊กคันที่ขับมาส่ง น.ส.โซ เหลียง อิง แม้เลขทะเบียนจะไม่ชัดนัก ตำรวจก็สามารถเรียกผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กทะเบียนใกล้เคียงมาสอบสวนได้
นายทองใบ อำมะเหียะ ชาว จ.ร้อยเอ็ด วัย 29 ปี เป็นหนึ่งในผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กในละแวกศูนย์การค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่ถูกเรียกตัวมาสอบสวน พร้อมกับถูก น.ส.โซ เหลียง อิง ดูตัวและชี้ยืนยันว่า เป็นหนึ่งใน 4 คนร้ายที่ลงมือกระทำย่ำยีเธอ
นายทองใบ ยืนยันไม่ได้กระทำอย่างที่หญิงสาวชาวฮ่องกงกล่าวอ้าง โดยระบุว่าในวันและเวลาเกิดเหตุ ไม่ได้ขับรถไปในย่านสุขุมวิท และไม่ได้รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยขณะนั้นวิ่งรถรับส่งผู้โดยสารอยู่ในย่านบางลำพูและสถานีรถไฟบางกอกน้อย แต่เมื่อ น.ส.โซ เหลียง อิง ยืนยัน ตำรวจต้องควบคุมตัวนายทองใบไว้ที่ สน.ดุสิต โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตนในลักษณะโทรมหญิงและปล้นทรัพย์
ระหว่างนั้นตำรวจชุดคลี่คลายคดีพยายามรวบรวมพยานหลักฐานหลายอย่าง รวมถึงการสอบปากคำ นายวราวุธ นิลทลักษณ์ พนักงานการไฟฟ้าคลองเตย ซึ่งในวันเกิดเหตุได้ปฏิบัติงานร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินอยู่ใกล้กับจุดที่ น.ส.โซ เหลียง อิง อ้างว่าถูกรุมโทรม ซึ่งพนักงานการไฟฟ้ารายนี้ยืนยันว่า ไม่พบเห็นเหตุการณ์อย่างที่หญิงสาวชาวฮ่องกงรายนี้กล่าวอ้าง
ส่วน น.ส.โซ เหลียง อิง หลังจากแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต แล้ว ได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่อกับเพื่อนชายที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พฤติการณ์ดังกล่าวไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมศาสตร์ของเหยื่ออาชญากรรมที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้าย ประกอบกับ พยานแวดล้อม หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์คือผลตรวจร่างกายที่ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน หรือการล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด
ที่สำคัญคือภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ที่ได้จากโรงแรมอโนมา ที่ปรากฏภาพ น.ส.โซ เหลียง อิง นั่งรถตุ๊กตุ๊กเข้ามาในโรงแรมตามลำพัง ในเวลา 01.12 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2546 โดยก้าวลงจากรถ และจ่ายค่าโดยสารอย่างคนปกติ ไม่ได้มีอาการของผู้ที่เพิ่งผ่านการถูกรุมโทรมมาแต่อย่างใด ซึ่งขัดกับคำให้การที่อ้างว่า เพิ่งผ่านการก่อเหตุโดยชายถึง 4 คน ทำให้ตำรวจเชื่อว่า หญิงชาวฮ่องกง รายนี้กุเรื่องขึ้น
ตำรวจได้เชิญตัว "หมวยโซ" มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากมีพยานหลักฐานต่างๆ ครบถ้วน ซึ่งเธอก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า กุเรื่องขึ้นมาทั้งหมดเพราะเมายาเสพติด ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีหญิงชาวฮ่องกงรายนี้ ในข้อหา แจ้งความเท็จและใส่ร้ายผู้อื่น และถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
กระทั่งถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2547 "หมวยโซ" ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ และถูกเนรเทศออกจากประเทศไทย ในวันที่ 14 สิงหาคม ปีเดียวกัน พร้อมกับถูกขึ้นแบล็กลิสต์เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศไทยมาตั้งแต่บัดนั้น
-------------------------
(ผลตรวจร่างกาย-วงจรปิดมัด 'หมวยโซ' จอมลวงโลก : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)