ข่าว

รวบทีมสังหาร"เสี่ยฮุยขอนแก่น"ปมหนี้พนันฟุตบอลออนไลน์

รวบทีมสังหาร"เสี่ยฮุยขอนแก่น"ปมหนี้พนันฟุตบอลออนไลน์

30 ม.ค. 2552

รวบยกแก๊ง 5 คนร้ายทีมสังหาร "เสี่ยฮุยขอนแก่น" เจ้าของโต๊ะบอลชื่อดัง เผยตำรวจแกะรอยร่วมเดือนก่อนจับยกทีม ระบุปมสังหาร "หนี้สินพนันฟุตบอลออนไลน์" กว่า 100 ล้านบาท เร่งตามจับ "เฮียถ่อ" ผู้จ้างวานฆ่า

หลังจากใช้เวลาในการสืบสวนกว่า 1 เดือน ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมทีมฆ่าเสี่ยฮุยขอนแก่นเจ้าของโต๊ะพนันฟุตบอลรายใหญ่ได้แล้ว เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 มกราคม พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.ต.ดำริห์ โชตเศรษฐ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4. พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.ศูนย์สืบสวน บช.น. แถลงผลจับกุมแก๊งคนร้ายก่อเหตุฆ่า นายวีระพงษ์ การกิจโอฬาร หรือเสี่ยวี หรือเสี่ยฮุยขอนแก่น เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถเรือนพระยาฟิตเนสซาวน่า ซ.โยธินพัฒนา แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 คน ได้แก่ นายสิทธิชัย ยรรยงเวโรจน์ หรือเครา นายอาทิตย์ ตระกูลชูวงษ์ หรือเต๋า นายเรวัช อยู่มุด หรือกิ๊ก นายนิกร เทิ้มทิพย์ หรือตัวเล็ก และนายวิบูลย์ ทับสกุล หรือบูลย์ พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน พห 4016 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อฮัทช์ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง อาวุธปืนออโตเมติกยี่ห้อวอลเธอร์ ขนาด.38 มม. พร้อมกระสุนขนาดเดียวกัน 6 นัด อาวุธปืนออโต้ติกยี่ห้ออูซี่ขนาด 9 มม.พร้อมกระสุน 13 นัด พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญ พฤติการณ์เป็นระบบการจ้างวานฆ่า จากการสอบสวน คาดว่า คดีนี้เกิดจากการขัดแย้งเรื่องหนี้สินการพนันฟุตบอล ระหว่างนายวีระพงษ์ ผู้ตาย กับนายสามารถ กาจกำจรเดช หรือ ถ่อ ซึ่งตำรวจออกหมายจับนายสามารถ ผู้จ้างวานฆ่าแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดคดีตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ข้อมูลจากคนใกล้ชิดผู้ตายสถานที่ต่างๆ พร้อมทั้งสะกดรอยผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่องนานกว่า 1 เดือน ทำให้ได้พยานหลักฐานยืนยันว่า นายสามารถเป็นผู้ใช้จ้างวาน เนื่องจากมีปัญหาหนี้สินการแทงพนันฟุตบอลผ่านเว็บไซต์ โดยนายสามารถกล่าวหาผู้ตายว่า เป็นฝ่ายโกงทำให้ต้องสูญเงินไปกว่า 100 ล้านบาท จึงจ้างวานให้นายสิทธิชัย ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายสามารถไปฆ่านายวีระพงษ์ จากนั้นนายสามารถได้ติดต่อนายอาทิตย์ ซึ่งเป็นผู้วางตะปูเรือใบรถผู้ตาย และติดต่อนายเรวัช เป็นผู้ชี้เป้า ก่อนจะติดต่อนายวิบูลย์ มือปืน โดยนายวิบูลย์ได้ติดต่อนายนิกรมาเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ "หลังจากตำรวจได้พยานหลักฐานข้อมูลทั้งหมด จึงเชิญตัวนายสิทธิชัย นายอาทิตย์ และนายเรวัช มาสอบสวน เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา อีกทั้งก่อนหน้านี้ตำรวจได้นำนายวิบูลย์ มือปืนมาสอบสวน พร้อมด้วยอาวุธปืนยี่ห้ออูซี่ ขนาด 9 มม. แต่นายวิบูลย์ยังคงให้การปฏิเสธ" พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ข้อมูลที่มีในขณะนี้ ทราบว่าผู้ตายทำธุรกิจเกี่ยวกับการพนันหลายอย่าง เช่น การพนันฟุตบอล ซึ่งเป็นเจ้าของโต๊ะรายใหญ่ของประเทศ อีกทั้งยังมีโต๊ะพนันบอลอยู่ในต่างประเทศอีกด้วย เบื้องต้นผู้ตายมีข้อมูลว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาบูบาก้า (เครือข่ายก่อการร้ายข้ามชาติ) ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายเสียชีวิตนั้น เพราะนายสามารถติดหนี้พนันผู้ตายอยู่ประมาณร้อยล้าน แต่นายสามารถก็อ้างว่าผู้ตายโกง เนื่องจากเสียเงินไปกับการพนันฟุตบอลทางเว็บไซต์จำนวนมาก แต่ต่อมาเว็บไซต์ที่นายสามารถแทงพนันบอลกับผู้ตายได้ยุบตัวไป ทำให้นายสามารถเข้าใจว่าถูกโกง "ส่วนเป็นเว็บไซต์ของต่างประเทศที่จดทะเบียนไว้ เท่าที่ทราบก็มีอยู่เช่น สโรแบ็ก และไอบีซี โดยไอบีซี อยู่แถวประเทศมาเลเซีย การพนันดังกล่าวจะเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบและขยายผลอีกครั้ง" ผบช.น.กล่าว พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนขยายผลได้ความว่า แก๊งดังกล่าวได้วางแผนฆ่าผู้ตายตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2551 โดยนายสามารถเรียกนายสิทธิชัยไปพบ เพื่อจ้างนายสิทธิชัยฆ่านายวีระพงษ์ในราคา 2 ล้านบาท ต่อมานายสิทธิชัยนำนายอาทิตย์ และนายเรวัช ไปดูตัวนายวีระพงษ์ ที่วัดกลางเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนจะให้นายอาทิตย์ไปซื้อเสื้อวินจักรยานยนต์ให้นายนิกร สวมใส่ ส่วนนายสิทธิชัยได้เตรียมตะปูเรือใบ จากนั้นได้นัดหมายให้นายวิบูลย์มาดูตัวนายวีระพงษ์ ที่สนามม้านางเลิ้ง ชั้นราคา 100 บาท ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ ทั้งหมดได้นัดกันเพื่อมาฆ่านายวีระพงษ์ที่สนามม้านางเลิ้ง แต่วันดังกล่าวนายวีระพงษ์ไม่ได้มาที่สนามม้า แผนการจึงล้มเหลว กระทั่งวันเกิดเหตุ 14 ธันวาคม 2551 คนร้ายทั้งหมดได้ไปดูตัวผู้ตายที่สนามม้าปทุมวัน ก่อนจะกลับไปวางแผนที่ห้องพัก ต่อมาใช้รถยนต์เบนซ์ นำนายอาทิตย์ และนายเรวัช ไปที่เรือนพญา โดยให้นายเรวัช เป็นคนชี้เป้า ส่วนสายอาทิตย์ เป็นผู้วางเรือใบรถยนต์ผู้ตาย ก่อนจะนัดหมายนายวิบูลย์กับนายนิกร ที่รออยู่ใกล้ๆ ให้เตรียมพร้อม "เมื่อนายวีระพงษ์ออกมาขึ้นรถ พบว่ายางรถยนต์ถูกตะปูเรือใบ และระหว่างที่นายวีระพงษ์รอเปลี่ยนยางรถยนต์อยู่นั้น นายนิกรได้ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายวิบูลย์ ซ้อนท้าย จากนั้นได้ยิงผู้ตายแล้วหลบหนีเข้าไปท้ายซอยโยธินพัฒนา ขณะที่นายสิทธิชัย นายอาทิตย์ และนายเรวัช ขึ้นรถยนต์เบนซ์คันเดิมกลับไปที่ห้องพัก ที่เปี่ยมรักคอนโดมิเนียม แขวงบุคคโล เขตธนบุรี โดยนายสิทธิชัยได้แบ่งค่าจ้างที่รับมาจากนายสามารถให้นายวิบูลย์ มือปืน 8 แสนบาท ให้นายนิกร คนขี่รถจักรยานยนต์ 3 แสนบาท ให้นายอาทิตย์ และนายเรวัช คนละ 1.5 แสนบาท ส่วนนายสิทธิชัย ได้นำเงินไป 8 แสนบาท" พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว ผบช.น.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งหมดว่า ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนผู้จ้างวาน เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาดำเนิดคดีให้เร็วที่สุด ส่วนนายวิบูลย์ มือปืนเคยถูกออกหมายจับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 ในข้อหาร่วมกันฆ่านายสาโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ หรือเสี่ยโต ในพื้นที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี ขณะที่นายนิกรเคยถูกออกหมายจับเมื่อเดือนเมษายน 2546 ในข้อหามีและใช้อาวุธปืนในพื้นที่สน.บางพลัด และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ โดยใช้อาวุธิปืนยิงบ้านนายสุรกาญน์ เกิดผล ซ.จรัญสนิทวงศ์ 65 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.