
วิธีทำให้ร่างกายขจัดเชื้อหูด
22 ส.ค. 2557
ศุกร์กับเซ็กส์ : วิธีทำให้ร่างกายขจัดเชื้อหูด : พญ.ชัญวลี ศรีสุโข ([email protected])
ถาม เห็นคุณหมอให้ความรู้เกี่ยวกับหูดหงอนไก่และน่าสนใจมาก พอดีมีปัญหาอยากเรียนถามค่ะ เคยเป็นหูดหงอนไก่เมื่อ 3 ปีกว่าที่แล้ว ตรวจมะเร็งปากมดลูกและ HPV DNA ครั้งแรกขึ้น positive high risk ต่อมาไปตรวจซ้ำอีกสองครั้งปรากฏว่า HPV DNA ปกติ หูดก็หายไป ต่อจากนั้น 3 ปี ตอนแรกแอบดีใจว่า ร่างกายเราคงขจัดเชื้อออกไปได้เอง เหมือนคน 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่นานมานี้เริ่มมีหูดหงอนไก่ปรากฏให้เห็น ตอนแรกช็อกค่ะ เหมือนฟ้าถล่ม เพราะเป็นครั้งแรกยังมีความหวังว่า ร่างกายเราอาจขจัดเชื้อออกไปได้ ภายใน 2 ปี ตามที่ตำราต่างๆ เขียนไว้ แต่นี่ 3 ปีกว่าแล้ว ไม่เคยมีมา และ มันมาปรากฏอีกครั้งทั้งๆ ที่เราไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลย ไม่เคยรับเชื้อเพิ่ม จึงเข้าใจว่า เชื้อหูดยังคงมีอยู่ในตัวเราและคงจะอยู่ด้วยกันตลอดไปจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่งใช่ไหม แล้วโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกก็มีเพิ่มขึ้นใช่ไหมคะ กะว่าจะไปตรวจเร็วๆ นี้อีก ที่อยากทราบมากคือพอจะมีทางทำให้ร่างกายขจัดเชื้อหูดนี้ออกไปได้ไหม แต่มันก็เกือบ 4 ปีแล้ว หลังจากได้รับเชื้อเริ่มสิ้นหวังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ ขอให้คุณหมอสุขภาพแข็งแรงค่ะ
ตอบ หูดซึ่งเป็นเชื้อไวรัสนั้นกำจัดไม่ได้ด้วยยา เชื่อว่าร่างกายที่มีภูมิต้านทานที่ดี จะสามารถกำจัดไวรัสได้เอง วิธีทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดี เป็นวิธีที่ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
1.อาหาร ควรรับประทานให้ครบหมู่ อย่าลืมรับประทานผักผลไม้ทุกวันวันละ 5 ส่วน เพราะช่วยสร้างภูมิต้านทาน โดย 1 ส่วนเท่ากับผลไม้ 1 ผล หรือผัก, ผลไม้หั่น 1 ถ้วยตวง
2.ออกกำลังกาย ในแบบที่ถนัด นานอย่างน้อย 30-40 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 4 วันต่อหนึ่งอาทิตย์
3.พักผ่อน ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน การนอนหลับสนิทและเพียงพอทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานร่างกาย เช่น โกร๊ธฮอร์โมน (Growth hormone), ฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) , ฮอร์โมนเลปติน(Leptin) เป็นต้น
4.ระมัดระวังการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส ไวรัสเอชไอวี/เอดส์ ไวรัสเอชพีวี หูดหงอนไก่ เริม ฯลฯ เว้นเพศสัมพันธ์สำส่อน มีเซ็กส์ที่ปลอดภัย ไม่เห็นหน้าไม่รู้ใจควรใช้ถุงยางอนามัย
5.การใช้ชีวิต ไม่ควรเที่ยวเตร่กลางคืน ไม่ใช้สารเสพติด ไม่สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
6.การลดความเครียด มีวิธีลดความเครียดที่มีประสิทธิภาพสำหรับตนเอง เช่น โยคะ ชี่กง อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ นั่งสมาธิ นวด สปา ร้องเพลง เต้นรำ ออกกำลังกายเป็นต้น
7.การฉีดวัคซีน นอกจากวัคซีนพื้นฐาน เช่นคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หัด หัดเยอรมันคางทูม ไข้สมองอักเสบแล้ว ควรฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย ในการป้องกันโรคต่างๆ เช่นวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี วัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวีป้องกันหูดหงอนไก่และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
8.รับประทานโปรไบโอติก หรือพรีไบโอติก ทุกวัน เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย โปรไบโอติกคือแบคทีเรียชนิดดีที่เติมในนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ส่วนพรีไบโอติกคืออาหารที่เพิ่มแบคทีเรียชนิดดี เป็นอาหารมีกากใย(ไฟเบอร์)เช่น มะเขือเทศ ลูกพรุน หัวหอมใหญ่ ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท กล้วย ส้ม เป็นต้น