ข่าว

มติป.ป.ช.!'สนช.'ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน

มติป.ป.ช.!'สนช.'ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน

14 ส.ค. 2557

มติป.ป.ช.!'สนช.'ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ขณะที่ว่าที่ประธานสนช.เผยพร้อมเปิด นิติบุคคล-พรรคการเมืองแห่เสนอชื่อเป็นสปช.แต่ยังไร้เงาพรรคการเมืองใหญ่

                เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 14 ส.ค.2557 นายสรรเสริญ พลเจียกเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงผลการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.กรณีที่สำนักเลขาธิการวุฒิสภาหารือต่อป.ป.ช.ในประเด็นที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ ว่าคณะกรรมการป.ป.ช.มีความเห็นว่าสนช.ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา 6 แห่งรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ที่บัญญัติให้สนช.ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา จึงมีหน้าที่ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป.ป.ช. ตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ทั้งนี้ สนช.จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่สนช.เข้ารับตำแหน่งหรือตั้งแต่วันที่ปฏิญาณตนต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57 โดยวันสุดท้ายของการยื่นบัญชีทรัพย์ฯ คือวันที่ 7 ก.ย.57

                นายสรรเสริญ กล่าวถึงกรณีเมื่อสนช.ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแล้วจะต้องมีการเปิดเผยต่อสาธารณะเช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งส.ส.-ส.ว. หรือไม่ว่า ทางคณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อรธน.ชั่วคราว 2557 ระบุให้สนช. ทำหน้าที่ส.ส.-ส.ว.และมีหน้าที่ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.จึงเห็นควรให้เปิดเผยบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบเพิ่มเติมต่อสาธารณะ มาตรา 35 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2554

                นายสรรเสริญ กล่าวว่า หากครบกำหนด 30 วันแล้ว สนช.ไม่ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินฯ จะมีความผิดเช่นเดียวกับส.ส.-ส.ว. คือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี

                ทั้งนี้เมื่อถามถึงกรณี สนช.ที่ถือหุ้นในบริษัที่เป็นคู่สัมปทานกับรัฐฯ ต้องโอนย้ายหุ้นดังกล่าวออกหรือไม่ นายสรรเสริญ กล่าวว่า สนช.คนใดถือครองหุ้นที่เป็นสัมปทานกับรัฐฯ นั้น สามารถถือครองหุ้นดังกล่าวต่อไปได้โดยไม่ต้องโอนหุ้นหรือเปลี่ยนมือ เนื่องจากมี มาตรา 41 ในรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว 2557 (บัญญัติว่าในกรณีที่มีบทบัญญัติของกฏหมายใดกำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิให้นำบทบัญญัตินั้นมาบังคับใช้แก่ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น คสช. สนช. หรือสปช. คุ้มครองอยู่

 

สนช.พร้อมเปิดทรัพย์สิน

               นายพรเพชร วิชิตชลชัย ว่าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติให้สมาชิก สนช. แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะว่า ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งสนช. ต้องปฏิบัติตามมติป.ป.ช. ตนก็พร้อมทำตามและแสดงบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว แต่มีข้อสงสัยส่วนตัวบางอย่างเกี่ยวกับเงื่อนไขเวลาการแสดงบัญชีของตนที่ยื่นเมื่อพ้นจากผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่แล้ว จึงต้องสอบถามป.ป.ช.อีกครั้ง ส่วนสนช.คนใดที่มีความสงสัยก็สอบถามจากป.ป.ช.ได้ ขณะที่สนช. ที่เป็นทหาร ก็ไม่มีใครพูดอะไรและเชื่อไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ถ้าดูตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่ป.ป.ช.กำหนด และถ้ากฎหมายมีความชัดเจนก็เป็นไปตามกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายไม่ชัดเจนและป.ป.ช.ตีความอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น

               พล.อ.อักษรา เกิดผล เสธนาธิการทหารบก และสนช. กล่าวว่า หากป.ป.ช. มีมติอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ทหารไม่มีข้อขัดข้องอะไร พร้อมที่จะแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะอยู่แล้ว ทุกคนก็คิดแบบนี้ กฎหมายว่าอย่างไรเราก็ต้องทำอย่างนั้น
               
               พล.ท.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล สนช. กล่าวว่า ยินดีจะปฏิบัติตามมติของป.ป.ช.ในการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.ภายใน 30 วัน และพร้อมเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ ในฐานปฏิบัติหน้าที่สนช. พร้อมให้ตรวจสอบความโปร่งใสได้ทุกอย่าง ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ก็มีเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.มาอธิบายวิธีการยื่นบัญชีทรัพย์สินให้สมาชิกสนช.เข้าใจเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความสับสนหรือกังวลใจอะไรในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน

               นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล สนช. กล่าวว่า ไม่มีปัญหา พร้อมจะยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณชน ที่ผ่านมาสมัยเป็นปลัดกระทรวงต่างประเทศมา ก็เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินมาแล้ว จึงไม่กังวลอะไร แม้ครั้งนี้ต้องเปิดเผยทรัพย์สินให้สาธารณชนรับรู้ด้วย ก็ไม่เป็นไร ยินดีให้ตรวจสอบ เพราะเมื่อป.ป.ช.มีมติแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตาม เข้าใจในเหตุผลที่ป.ป.ช.ต้องให้สนช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน แม้จะสนช.จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพียงชั่วคราวก็ตาม เพราะป.ป.ช.ต้องปฏิบัติตามหน้าที่

               รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 18 ส.ค. จะมีการเปิดประชุมสนช. โดยมีวาระการพิจารณา 3 เรื่อง คือ ตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับ ตั้งคณะกรรมาธิการกิจการสภา และพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ วาระแรก จากนั้น ในวันที่ 19 ส.ค. ที่ประชุมสนช.ก็จะทำการพิจารณาเห็นชอบยกร่างข้อบังคับการประชุมสนช. 3 วาระรวด ตามที่คณะทำงานเสนอร่างฯ โดยจะให้มีผลบังคับใช้วันที่ 20 ส.ค. เพื่อรองรับการให้ความเห็นชอบเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในการประชุมวันที่ 21 ส.ค.พร้อมกับการตั้งคระกรรมาธิการสรรหาสมาชิกเป็นคณะกรรมาธิการสามัญ ทั้ง 21 คณะ ด้วย
 

 

นิติบุคคล-พรรคการเมืองแห่เสนอชื่อเป็นสปช.


                นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงถึงความคืบหน้าจำนวนรายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในช่วงบ่ายว่า มีองค์กรนิติบุคคล สมาคม พรรคการเมือง รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล เข้ามาเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช.เพิ่มเติม 7 คน โดยเสนอชื่อในด้านการเมือง 1 คน ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 1 คน ด้านการปกครองท้องถิ่น 1 คน สื่อมวลชน 1 คน และด้านสังคม 3 คน อาทิ ด้านสื่อมวลชน นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ถูกเสนอชื่อในนามมูลนิธิสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา

                ด้านบริหาราชการแผ่นดิน นายคัมภีร์ ดิษฐการณ์ อดีตรองเลขาธการสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกเสนอชื่อในนามมูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามเพื่อการศึกษาและพัฒนา และนายประมวล รุจนเสรี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2545-2547 ถูกเสนอชื่อในนามมูลนิธิพ่อค้าไทย และด้านเศรษฐกิจ นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานกรรมการบริษัทแพรนด้า จิวเวอร์รี่ ถูกเสนอชื่อในนามมูลนิธิเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

                อย่างไรก็ตาม สำหรับการตรวจสอบคุณสมบัติสำนักงานกกต.มีการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น แต่ยังไม่มีการส่งรายชื่อ ไปยังหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณสมบัติรายชื่อผู้ที่เข้ารับการสรรหาทั้ง 15 องค์กร คาดว่าจะมีหนังสือนำส่งให้หน่วยงานตรวจสอบได้ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการเสนอชื่อผ่านทางไปรษณีย์ สำนักงานกกต.จะทำการรวบรวมรายชื่อในทุกๆ 3 วัน จนกว่าจะปิดรับการเสนอชื่อ

                นายบุณยเกียรติ กล่าวต่อว่า ขณะที่การสรรหาสปช.ประจำจังหวัดนั้น ตนได้รับรายงานว่ามีผู้เข้ามาแสดงเจตจำนงเพื่อเข้าคัดเลือกเป็น สปช. แล้วจำนวน 6 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี 2 คน เชียงราย 1 คน นครสวรรค์ 1 คน พังงา 2 คน ราชบุรี 1 คน หนองบัวลำภู 4 คน ซึ่งการสรรหาในระดับจังหวัดนั้น ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะต้องสรรหาในลักษณะใด เพราะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดแต่ละจังหวัด ดังนั้นบางจังหวัดก็เปิดโอกาสให้คนที่ต้องการเข้ารับการสรรหา เข้ามาเสนอรายชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด และบางจังหวัดก็ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ หรือคณะกรรมการสรรหาอาจจะไปคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเอง โดยการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่เสนอรายชื่อในส่วนของจังหวัดนั้น สำนักงาน กกต.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติได้เอง รวมทั้งสามารถประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันตรวจสอบ โดยไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารหลักฐานมายัง สำนักงาน กกต.ก่อนส่งให้คสช.พิจารณาต่อไป

                ทั้งนี้ นายบุณยเกียรติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีตัวแทนของพรรคการเมืองเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้ว 4 พรรค 6 คน ประกอบด้วย พรรคไทยรักธรรม พรรคชาติประชาธิปไตย พรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคมหาประชาชน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือสอบถามข้อมูลการเสนอชื่อจากพรรคการเมืองใหญ่เลย

                ด้านายพูลเดช กรรณิการ์ หัวหน้าพรรคเพื่ออนาคต กล่าวหลังจากเดินทางเข้าเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า ตนต้องการแสดงเจตนารมณ์ของพรรค ที่จะร่วมในกระบวนการปฏิรูปการเมืองและปฏิรูปประเทศ ผ่านทาง สปช. โดยเหตุผลที่พรรคเพื่ออนาคตตัดสินใจเข้าร่วมการเสนอชื่อบุคคลครั้งนี้ เพราะเห็นว่าบทบาทของพรรคการเมืองในขณะนี้ไม่สามารถดำเนินงานทางการเมืองได้ มีเฉพาะเวที สปช.เท่านั้นที่เปิดโอกาสให้มีการดำเนินการทางการเมืองได้ เราจึงเป็นว่าเป็นโอกาสที่พรรคจะแสดงอุดมการณ์ของพรรค และเห็นว่าในขณะนี้พรรคการเมืองใหญ่ซึ่งเป็นพรรคที่มีความขัดแย้ง น่าจะไม่เสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ซึ่งจะเป็นการเสียโอกาสในการปฏิรูปการเมือง ทั้งที่ที่ผ่านมาเคยมี ส.ส.ในสภา และเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่กลับไม่แสดงเจตจำนงที่จะปฏิรูปการเมืองแต่อย่างใด ดังนั้นพรรคเพื่ออนาคตจึงเสนอชื่อบุคคลเข้าเป็น สปช.เพื่อเข้าไปปฏิรูปการเมืองให้พรรคการเมืองเป็นพรรคของพลเมืองอย่างแท้จริง และคิดว่าพรรคการเมืองอื่นและกลุ่มการเมืองทั้ง นปชและ กปปส.ควรเข้าร่วมในการปฏิรูปประเทศครั้งนี้

 

สมาคมบัณฑิตสตรีฯส่ง2ชื่อชิง-รสนาเข้าร่วม


                ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาชนต่อแนวทางการส่งบุคคลเข้ารับการคัดเลือก ดังกล่าว โดย นางสุทธินี เมธีประภา นายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เปิดเผยว่าทางสมาคมฯ ได้มีมติส่งตนและ น.ส.วัชราภรณ์ อารีย์วงศ์ อุปนายกฝ่ายบริหารสมาคมฯ เข้าร่วมการคัดเลือกเป็น สปช. ตามที่ กกต. กำหนด โดยด้านที่สนใจเข้าร่วมคัดเลือก คือ ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ส่วนตัวคาดหวังที่อยากให้สตรีเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องปฏิรูปดังกล่าวในสัดส่วนที่เหมาะสม เพราะในประเด็นการปฏิรูปประเทศ มีหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรี โดยส่วนตัวมีแนวคิดเรื่องการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับสตรี อาทิ ละเมิดและคุกคามทางเพศ, การค้ามนุษย์ เป็นต้น

                น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. กล่าวว่าตนยืนยันว่าจะเข้าร่วมในการคัดเลือกเป็น สปช. แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะรับการเสนอชื่อโดยองค์กรนิติบุคคลใด เพราะขณะนี้ตนร่วมเป็นกรรมการอยู่หลายองค์กร โดยส่วนตัวมีความสนใจงานปฏิรูปด้านพลังงาน อย่างไรก็ตามตนมีข้อสังเกตเกี่ยวกับคณะกรรมการสรรหาสปช. ด้านพลังงาน ที่พบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) อาทิ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ สนช. ฐานะอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.เข้าร่วมด้วยนั้น จึงเกิดคำถามว่าบุคคลที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นสปช.ซึ่งในอดีตเคยร่วมการเคลื่อนไหวให้มีการปฏิรูปพลังงาน หรือตรวจสอบ ปตท. จะมีสิทธิ์รับการคัดเลือกหรือไม่

                “โดยส่วนตัวไม่มีความกังวลอะไร แต่อยากทราบว่าคนที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มต่อต้านการแปรรูป ปตท. จะได้รับคัดเลือกด้วยหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาบุคคลที่มีส่วนคัดเลือกสปช.ด้านพลังงานแล้ว คาดเดาได้ว่าจะมีการวางตัวบุคคลเอาไว้แล้ว เพื่อให้เกิดการปฏิรูปพลังงานตามโรดแม็พที่กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า โดยกีดกันประชาชนไม่ให้เข้าร่วมในวงปฏิรูป อย่างไรก็ตามอย่าคิดว่าแนวทางการปฏิรูปพลังงานตามโรดแม็พที่วางไว้จะทำให้ประชาชนยอมรับหรือเลิกชุมนุม ทั้งนี้การปฏิรูปในทิศทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต้องการให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด แทนที่ผลประโยชน์จะตกอยู่ในกลุ่มทุนเท่านั้น” น.ส.รสนา กล่าว

                ขณะที่ น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่าเครือข่ายและมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังไม่ได้หารือกันว่าจะส่งบุคคลในนามองค์กรเข้าร่วมการคัดเลือกให้เป็น สปช.หรือไม่ เพราะยังไม่มีแนวคิดและหารือเรื่องดังกล่าวมาก่อน ไม่คิดให้ความสนใจ อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงรายชื่อกรรมการสรรหา สปช. ด้านต่าง ๆ แล้ว ทำให้รู้สึกไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวเห็นว่าหากไม่มีส่วนร่วมดังกล่าว อาจจะถูกมองได้ว่าไม่ให้ความร่วมมือ และอนาคตอาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการเสนอความเห็นใด ๆ ไม่ได้ ดังนั้นประเด็นดังกล่าวจึงจะขอพิจารณาอีกครั้ง

 

ป.ป.ช.ดัน"วิชา"-"สรรเสริญ"เข้าสปช.

                นายสรรเสริญ กล่าวถึงการพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1.นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ด้านกฏหมายและกระบวนการยุติธรรม 2.นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. เข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ด้านการเมือง

                ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. เช่นเดียวกับสนช. หรือไม่ นายสรรเสริญ กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้ เนื่องจากสปช.ยังไม่เกิดขึ้น และยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง ทั้งนี้ จะต้องดูกรอบในการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง


"สถาบันชุมชนท้องถิ่นเตรียมเสนอชื่อ

                นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (สทพ.) เปิดเผยว่าทางสถาบัน และ ทางเครือข่าย รวม 8 องค์กร เตรียมเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยกระบวนการขณะนี้อยู่ระหว่างการขอมติจากกรรมการมูลนิธิฯ และรับรายชื่อจากองค์กรสมาชิก เบื้องต้นมีรายชื่อที่เปิดเผยได้แล้ว คือ นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ , นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการ, นายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการด้านบริหารรัฐกิจและรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลังรังสิต, นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตแกนนำ กปปส. ส่วนจะเสนอชื่อร่วมคัดเลือกด้านใดนั้นยังไม่ขอเปิดเผย ขณะที่ตนนั้นไม่ขอรับการเสนอชื่อให้ร่วมคัดเลือก สปช. เพราะต้องการทำงานร่วมกับภาคประชาชน ด้วยการเปิดเวทีนอกสภา ให้ประชาชนและเครือข่ายได้มีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศระยะยาว ทั้งนี้สภาประชาชนดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นสภาที่เป็นทางการและมีอำนาจใดๆ

                “จากประสบการณ์พบว่าแนวทางการปฏิรูประยะยาวที่ประสบความสำเร็จ คือ ต้องเริ่มจากประชาชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือทัศนคติ ก่อนการยกร่างกฎหมายเพื่อบังคับใช้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเราเคยพยายามแก้ปัญหานักการเมือง ด้วยการเขียนกฎหมายมาบังคับใช้ และมีคณะกรรมการการเลือกตั้งคอยกำกับ แต่ท้ายสุดแล้วต้องขึ้นอยู่กับตัวคน หากกลไก ระบบหรือประชาชนไม่เปลี่ยน สิ่งที่เป็นปัญหาก็แก้ไขไม่ได้ ดังนั้นผมจึงเห็นความสำคัญของการทำสภาประชาชนจากด้านนอกสภา” นพ.พลเดช กล่าว

 

ขอนแก่นหลายองค์กรสนใจเสนอชื่อสรรหาสปช.


               นายฐิติพล ทศรฐ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเพื่อรับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ วันแรกที่สำนักงาน กกต.ขอนแก่น มีผู้ที่สนใจจากองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เดินทางเข้ามาสอบถามและขอแบบเพื่อกรอกรายละเอียดจำนวนกว่า 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่เคยสมัครรับเลือกตั้งเกี่ยวกับการเมือง เช่นนายวัน สุวรรณพงษ์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา หรือ ทนายเสื้อแดง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น และอีกหลายคนที่มาขอแบบเพื่อกรอกรายละเอียดเพื่อส่งไปยังส่วนกลาง และบางคนมาขอรายละเอียดเนื่องจากยังไม่เข้าใจรูปแบบการเสนอชื่อ เช่นจากสภาทนายความจังหวัดขอนแก่น สมาคมรักษ์สิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำพองเพื่อคุณภาพชีวิต และอีกหลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ทำกิจกรรมทางสังคมและการเมือง
    
               นายฐิติพล กล่าวว่า รายชื่อที่แต่ละองค์กรหรือนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรได้รับการเสนอ จะต้องส่งไปที่ส่วนกลางด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ กำหนดวันสุดท้ายวันที่ 2 ก.ย. ส่วน สปช.จังหวัดขอนแก่น นั้น คณะกรรมการสรรหา 5 คน ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ประธาน กกต.และผู้แทนสภาองค์กรชุมชน จะประชุมเพื่อหาแนวทางในการสรรหาบุคคลที่จะเสนอชื่อจำนวน 5 คน คาดว่าจะใช้วิธีเสนอชื่อบุคคลที่ได้รับการทาบทาม เนื่องจากเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด
            
               ด้านนายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานกิตติมศักด์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นไม่เสนอชื่อบุคคลใดเข้ารับการสรรหาเพื่อเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติที่ส่วนกลาง ถ้าหากว่าให้มีการรับสมัครหรือให้สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเสนอบุคคลเพื่อให้คณะกรรมการคัดสรร ระดับจังหวัด ก็คงจะไม่เสนอเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าเฉพาะในขอนแก่นเองมีองค์กรหรือนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรจำนวนมาก ถ้าเสนอหมดทุกองค์กรคงมีมากกว่า 100 คน โอกาสที่จะได้น้อยมาก ทั้งนี้ยังมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะอดีตข้าราชการในจังหวัดขอนแก่น ทั้งคณะกรรมการสรรหาซึ่งเป็นข้าราชการ  ซึ่งมักจะคุ้นเคยกับคนในวงการเดียวกันโดยเฉพาะข้าราชการบำนาญ ที่เคยมีบทบาทเช่น อดีตผู้ว่าราชการ อดีตรองผู้ว่าฯ หรืออดีตผู้พิพากษา
 



นพดลเชื่อใช้เวลา2วันเลือกสปช.

                พล.อ.นพดล อินทปัญญา  ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกรรมการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ด้านสื่อสารมวลชน เปิดเผยถึงการทำงานของคณะกรรมการสรรหาว่า ตามขั้นตอนหลังจากเปิดรับสมัครครบ 20 วันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะแยกผู้สมัครออกเป็น11 กลุ่ม โดยเรียงรายชื่อตามตัวอักษร จากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะนัดวันประชุมเพื่อแจกรายชื่อที่ กกต.ส่งมาเพื่อให้กรรมการทั้ง 7 คนนำกลับไปพิจารณาและเลือกมาคนละ 50 รายชื่อ

                จากนั้นก็มารวมกัน คัดเอาชื่อที่กรรมการทั้ง 7 คนเลือกจำนวนสูงสุด 50 รายชื่อ จากนั้นก็ส่งไปให้ คสช. คัดให้เหลือ 173 คน โดยที่ผ่านตนก็เป็นคนประสานงานคนในวงการสื่อระดับต้น ๆ เพื่อทาบทามให้เข้ามานั่งในกรรมการสรรหา แต่บางคนก็ขอว่าถ้ามาเป็นกรรมการสรรหาก็เป็น สปช.ไม่ได้ จึงปฏิเสธ ตนก็ต้องไล่ชื่อดูคนที่เหมาะสมคนอื่นต่อไปจนกว่าจะได้ครบ 6 คน    

                “คิดว่าการทำงานของเราคงใช้เวลาแค่ 2 - 3 วัน เพราะไม่ใช่ทำงานหนักหนาอะไร คนที่เข้ามาเป็นกรรมการสรรหาแต่ละชุด ก็มาจากที่ปรึกษา คสช. หัวกระทิของบ้านเมืองในแต่ละด้าน คนเหล่านี้เข้ามาช่วยชาติ แต่ก็ไปพูดกันว่าที่ปรึกษาฯ มีอำนาจ มีอิทธิพล อยากบอกว่า ขอให้มองที่ปรึกษาอย่างเป็นธรรม คนเหล่านั้นคือระดับท็อปเท็นของประเทศ แต่อาจจะยกเว้นผม ยืนยันว่าเราไม่ได้มีอำนาจ มีแต่หน้าที่ ประชุมกันแทบทุกวัน ไม่ได้หยุด เพื่อรวบรวมเสนอความเห็นให้ คสช. เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับความไว้วางใจเข้ามาทำหน้าที่คัดเลือกคนเป็น สปช. ก็ต้องเลือกคนดี คนรุ่นใหม่ ที่จะมาวางรากฐานของประเทศในอนาคต ไม่มีใครมาวิ่งเต้นได้ เพราะทุกอย่างโปร่งใส คนที่ไม่ได้รับเลือกจากคสช.ก็อาจไปเป็นกรรมาธิการฯ ได้ เพราะถือว่า 50 คนของทั้ง 11 กลุ่มที่เราเลือกเข้าไปมีคุณสมบัติที่ดี เป็นคนเก่ง ที่ช่วยกันคิดเพื่อประเทศชาติได้ “พล.อ.นพดล กล่าว     

                พล.อ.นพดล กล่าวว่า มีความตั้งใจในการทำงานในหน้าที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในการผ่านร่างกฎหมายสำคัญ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ แก้ไขและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ก็ตกใจเหมือนกันที่ทำไมกฎหมายค้างเป็นพันเป็นร้อยฉบับ เมื่อ สนช. เข้ามาก็จะเดินหน้าออกกฎหมายให้รวดเร็ว ไม่ใช่แต่ละฉบับพูดกันไปเรื่อย ออกแขก หาเสียงกัน ไม่เข้าเรื่อง  ตนมองว่าพิจารณากฎหมายฉบับหนึ่งอาจจะอภิปรายกันนิดหน่อยแค่ 5-6 คน เพื่อให้กฎหมายผ่านได้มากที่สุดในห้วงระยะเวลาที่เราทำงานอยู่ ใครพูดมากจะเอาพลาสเตอร์ไปปิดปาก



"อุดมเดช"ยันเลือกกก.สรรหาสปช.ได้เหมาะสม


                พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่มาดำรงตำแห่งคณะกรรมการคัดเลือกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ว่า ในส่วนของกองทุนอนุรักษ์พลังงานพยายามทำเต็มที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในกรอบของคณะกรรมการสรรหาสปช.ตนคิดว่าได้มีการดูอย่างเหมาะสมแล้ว