เลือดไทยไม่นอนก้น | คมชัดลึก

               ประเทศไทยของเรานั้น หากนับตั้งแต่ยุคอาณาจักรสุโขทัย (พ.ศ.1792-2126) ลงมา ก็มีอายุยาวนานถึง 765 ปี ไล่เลี่ยกับการก่อตั้งราชอาณาจักรอังกฤษ หรือหากนับจากการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2325) ถึงปีนี้ก็จะมีอายุ 232 ปี ใกล้เคียงกับสหรัฐอเมริกา

               การที่ชาติใดชาติหนึ่งจะยั่งยืนเป็นเวลาหลายร้อยปีนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้โดยง่าย จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลา 765 ปีที่ผ่านมา บริเวณนี้มีหลายอาณาจักรและหลายชาติต้องสิ้นชาติหรือสูญหายไปจากประวัติศาสตร์ เช่น อาณาจักรขอม อาณาจักรศรีวิชัย อาณาจักรของชาวมอญ เป็นต้น ดังนั้น การที่ประเทศสยามในอดีตหรือประเทศไทยในปัจจุบัน สามารถธำรงความเป็นชาติไว้ได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

               หากย้อนกลับไปพลิกหน้าประวัติศาสตร์ เราก็จะพบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับภยันตรายต่างๆ อย่างมากมาย ทั้งจากภัยสงคราม ภัยจากธรรมชาติ โรคระบาด หรือความขัดแย้งแตกแยก และถึงขั้นเสียบ้านเสียเมืองถึงสองครั้ง แต่คนไทยก็สามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ และกอบกู้บ้านเมืองได้ ภายในเวลาอันไม่นาน อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบเคียงกับประเทศอื่น เช่น เวียดนาม ซึ่งตกอยู่ใต้อำนาจของจีนเป็นเวลาถึงพันปี สเปนซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกครองโดยมัวร์เป็นเวลา 770 ปี

               ถ้าพิจารณาถึงปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นภยันตรายต่างๆ มาได้ ประการแรกก็คือ การมีผู้นำที่เข้มแข็ง กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยว  เช่น พระมหาธีรราชเจ้า อย่าง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และการเสียสละ กับการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย ซึ่งแม้กำลังจะน้อยกว่า แต่ก็ไม่หวั่นเกรงศัตรูที่มีกำลังเข้มแข็งกว่า และเข้าต่อสู้แบบเอาชีวิตเข้าแลก

               ประการที่สอง ก็คือ ความรักถิ่นฐาน รักพวกพ้อง และรักชาติบ้านเมือง ถึงแม้จะมีความขัดแย้งกันในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะทำความเข้าใจกันได้ หรือให้อภัยกัน ทำให้เรื่องราวไม่ลุกลามต่อไป ซึ่งในประเด็นนี้ ทำให้บางครั้งคนไทยถูกมองว่า เป็นคนที่ไม่รู้จักเจ็บไม่รู้จักจำ หรือเป็นคนประเภทความจำสั้น

               ประการที่สาม ได้แก่ แนวคิดทางพุทธศาสนา และคตินิยมแบบไทย เช่น การปลงในเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ การยึดถือเรื่องบาปบุญคุณโทษ ความกตัญญู ความผูกพันทางสายโลหิต และความมีจิตใจอ่อนโยน โอบอ้อมอารี เป็นต้น

               ในโลกปัจจุบันนี้ กระแสของโลกาภิวัตน์ที่ไหลบ่าเข้ามา อาจทำให้คุณลักษณะของคนไทยเจือจางลง ไม่เข้มข้นเช่นในอดีต แต่ผมก็ยังมีความเชื่อมั่นว่า เมื่อใดก็ตามที่ตกอยู่ในภาวะคับขัน หรือต้องการความร่วมมือร่วมใจของคนในชาติ สายเลือดของความเป็นไทยที่นอนก้นอยู่ ก็จะเดือดพล่านขึ้นมาได้เสมอ

               ผมยังเชื่อด้วยว่า คนไทยนั้นมีคุณภาพไม่แพ้คนชาติไหนในโลก เพราะถ้าไม่ดีจริง ประเทศไทยคงไม่สามารถเป็นเอกราชมาได้ถึง 765 ปี หรอกครับ

               ท้ายคอลัมน์วันนี้ หวังว่าทุกท่านที่ได้ชมวรรณวิจิตร-พิพิธทัศนา เรื่อง “ในสวนฝัน” ผสานใจภักดิ์ แด่อัคราภิรักษศิลปิน ซึ่งจัดโดย กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และศิลปินแห่งชาติ ร่วมกับมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันเสาร์ที่ 2 และวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2557 คงจะมีความสุขกับการชมการแสดงครั้งนี้โดยทั่วกัน สมกับความตั้งใจและการทุ่มเทของผู้จัด นักแสดงและผู้ร่วมงาน ที่ใช้เวลาทำงานกันมานานกว่า 10 เดือน