
นาทีชีวิตทหารกล้าพลีชีพพิทักษ์แดนใต้
นาทีชีวิต'ชัยณรงค์ วงษารัตน์' ทหารกล้าพลีชีพพิทักษ์แดนใต้ : สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์รายงาน
เสียงปืนรัวหลายนัด ซึ่งแผดก้องมาจากมัสยิดมูฮำมาตียะห์ หมู่ 7 บ้านสโลว์ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ปลุกสัญชาตญาณระวังภัยให้แก่ ร.ต.นครินทร์ สุขมราช ผบ.ร้อยทหารพราน 15133 จากกรมทหารพรานที่ 43 ซึ่งตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆ สั่งนำกำลังทหาร 7 นาย ออกปฏิบัติการตามเสียงนั้นทันที
10.55 น. วันที่ 28 กรกฎาคม ขณะ ส.ต.ต.ฮัสมิน ยูโซ๊ะ ตำรวจประจำ สภ.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ขับรถยนต์ส่วนตัวมุ่งหน้าสู่มัสยิดมูฮำมาตียะห์ ถูกคนร้ายซึ่งใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะประกบยิงด้วยอาวุธสงคราม แต่เขาใช้อาวุธประจำตัวยิงต่อสู้ จนผู้ก่อความไม่สงบทั้งสองเสียชีวิตคาที่ ขณะตัวเองเจ็บสาหัส และนี่คือสัญญาณเรียกทหาร 7 นาย เข้ามาติดกับ
ด้วยระยะทางเพียง 40 เมตร ชุดของ ร.ต.นครินทร์ หรือ "ผู้กองแดง" มาถึงจุดเกิดเหตุกลางหมู่บ้านในวินาทีที่กลิ่นดินปืนคาวเลือดยังไม่ทันจาง และความตื่นตระหนกของชาวบ้านยังปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ทุกอย่างเป็นไปตามคาดหมาย เกิดการซุ่มยิงขึ้นที่นี่ มีคนเจ็บ และเสียชีวิต ปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ในวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน ทำให้กองกำลังทหารแยกย้ายกันตรวจตรอกซอกซอยรายรอบสมรภูมิกลางหมู่บ้าน ที่คนร้ายนอนเสียชีวิต 2 คน ขณะเหยื่อคมกระสุน ซึ่งเป็นตำรวจที่ถูกตามล่า กำลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
เสียงปืนที่ดังรัวขึ้นชุดที่สอง แหวกกลุ่มชาวบ้านที่มาสังเกตการณ์ให้แตกออกเป็นทาง เหลือทิ้งอยู่แต่ร่างโชกเลือด หายใจรวยรินของ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ วงษารัตน์ จ่าประจำกองร้อย และเพื่อนทหารพร้อมอาวุธเคียงข้างกาย หลังสวมใจสิงห์ กัดฟันทนพิษบาดแผลที่ถูกกระสุน 3 นัด พุ่งปะทะหน้าอกจนล้มทั้งยืน ยิงสวนกลับปลิดชีพคนร้ายเป็นศพที่ 3
แม้จะรู้ดีว่าลมหายใจของเพื่อนร่วมรบคงเหลืออยู่ไม่มาก แต่ จ.ส.ท.พิษณุ สืบกินร หรือ "แซม" หัวหน้าชุดส่งกำลังบำรุง ซึ่งยืนเคียง จ.ส.อ.ชัยณรงค์ หรือ "พี่ต่าย" ที่เขาเรียกขาน ในท่ามกลางห่ากระสุน ก็พยายามยื้ดยุดฉุดชีวิตด้วยการตบหน้าหาปฏิกิริยาตอบรับ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลรือเสาะ แต่นั่นก็เป็นแต่เพียงความพยายามของเพื่อนคนหนึ่งเท่าที่จะทำได้ในสมรภูมิเท่านั้น
"พี่ต่ายใจเด็ด กัดฟันยิงสู้แลกกันอีกศพ ก่อนที่ผู้กองกับเพื่อนๆ รีบวิ่งเข้ามายิงสกัดฝ่ายตรงข้ามที่เหลืออีก 1 คน วิ่งฝ่าดงกระสุนหลบหนีไปได้" จ.ส.ท.พิษณุ เล่านาทีระทึก
ถึง จ.ส.ท.พิษณุ จะภาคภูมิใจที่เขาและเพื่อนในแนวรบได้ทำหน้าที่ชายชาติทหารปกป้องผืนแผ่นดินจนนาทีสุดท้ายอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยอมรับว่าเสียใจเป็นที่สุด และต้องพยายามทำใจกับความสูญเสีย "พี่ตาย" ที่เขาจะจดจำความดีงามของเพื่อนผู้นี้ไม่ลืมเลือน
"พี่ต่ายเป็นคนร่าเริง ตั้งใจทำงานและไม่เคยมีปัญหากับใคร ชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นที่รักใคร่ของทุกคนที่ฐาน เป็นที่ปรึกษาของผมและน้องๆ ผมผูกพันกันมาก เพราะสนิทกันมานานตั้งแต่อยู่ที่ค่ายปิเหล็ง กระทั่งเข้ามาอยู่ที่ฐานเมื่อช่วงเดือนเมษานี่เอง"
ในความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานที่ต้องสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ภายในอีกราย อย่าง พ.ท.เอกพล เลขนอก ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 ได้ยกเอาศักดิ์ศรีของชายชาติทหารขึ้นมาเป็นแบบอย่างเพื่อให้คนรุ่นหลังก้าวตาม
"ผมทำงานร่วมกับเขามาหลายปีแล้ว ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างสุดยอดและสมบูรณ์ ทุกคนเสียใจ แต่ในความเสียใจก็มีความภูมิใจที่มีทหารดีๆ และกล้าหาญแบบนี้"
ไม่ต่างกับ ส.ท.สิทธิชัย กลิ่นฟุ้ง หัวหน้าชุดลาดตระเวนกองร้อย บอกด้วยเสียงสั่นเครือว่า จ.ส.อ.ชัยณรงค์ย้ำเสมอ ขอให้อดทนอดกลั้น ทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา
"ทุกคนเสียใจ ผมเองนอนห้องข้างๆ กับเขา แกไม่เคยพูดอะไรเป็นลางแม้กระทั่งเช้าวันที่เกิดเหตุก็ไม่มีอะไร พูดคุยกันปกติดี ทุกคนที่ฐานรักแกมาก เพราะไม่เคยมีปัญหากับใคร ทั้งเรื่องงานและส่วนตัว"
"ฤทธิไกร-บุญปัญ วงษารัตน์" พ่อและแม่ของ จ.ส.อ.ชัยณรงค์ ผู้มีอาชีพทำนาอยู่ที่ จ.เชียงราย สองตายายผู้ต้องมาสูญเสียลูกชายที่ด่วนจากไปในวัยเพียง 31 ปี ทำใจยอมรับได้ เพราะเป็นการสูญเสียที่แลกมาด้วยความภาคภูมิใจของลูกผู้ชายคนหนึ่งซึ่งพลีชีพเพื่อชาติ
------------------------------------
(หมายเหตุ : นาทีชีวิต'ชัยณรงค์ วงษารัตน์' ทหารกล้าพลีชีพพิทักษ์แดนใต้ : สัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์รายงาน)