ข่าว

วิกฤติ‘ฉนวนกาซา’:มองมุมต่าง

วิกฤติ‘ฉนวนกาซา’:มองมุมต่าง

25 ก.ค. 2557

วิกฤติ‘ฉนวนกาซา’:มองมุมต่าง : โลกมุสลิม โดยศราวุฒิ อารีย์

                นับตั้งแต่อิสราเอลใช้กำลังโจมตีฉนวนกาซาในช่วงที่ผ่านมา การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นไปอย่างหลากหลาย แต่เท่าที่ผมได้ติดตามข่าวในบ้านเราเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เห็นว่ายังมีอีกหลายแง่มุมที่ยังไม่ได้ถูกนำเสนอ อย่างน้อยก็อีก 3 แง่มุมทีผมขอนำมาอธิบายในบทความนี้

                ประการแรก วิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นระลอกล่าสุดในฉนวนกาซา มักถูกฉายภาพออกมาในลักษณะการห้ำหั่นกันระหว่าง 2 รัฐ คือ ปาเลสไตน์ กับอิสราเอล แต่ในความเป็นจริงนั้น มันเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายที่เป็นผู้ยึดครอง ซึ่งกระทำต่อผู้ถูกยึดครองอย่างไร้ความปรานี เพราะตลอดช่วงเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรที่เท่าเทียมกันเลย อิสราเอลเป็นฝ่ายที่รุกไล่ เอาเปรียบ และกดขี่ปาเลสไตน์มาโดยตลอด

                เดิมที่ดินแดนที่เรียกว่า "อิสราเอล" ในวันนี้ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ตอนนั้นอาจมีชาวยิวอยู่บ้างที่เป็นชนส่วนน้อย มีอยู่ไม่ถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด แต่ปัจจุบันอิสราเอลบุกเข้าไปยึดครองจนเหลือพื้นที่ให้ "เจ้าของบ้านเดิม" ไม่ถึงร้อยละ 20 แถมยังรุกล้ำพื้นที่ที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้ด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งนิคมชาวยิวที่ผิดกฎหมายมากมาย หรือการสร้างกำแพงและรั้วลวดหนาม กักบริเวณชาวปาเลสไตน์ไม่ให้ได้ลืมตาอ้างปากและไม่ให้มีโอกาสติดต่อกับโลกภายนอกได้ง่ายๆ

                ประการต่อมา ในช่วงกว่า 8 ปีที่ผ่านมา อิสราเอลได้ใช้มาตรการปิดล้อมฉนวนกาซา จำกัดการนำเข้าอาหารการกิน ยารักษาโรค วัสดุก่อสร้าง และสิ่งอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ นอกจากนั้น ด่านพรมแดนต่างๆ ของกาซา ทั้งที่จะข้ามไปอียิปต์และอิสราเอลก็ถูกปิด ระบบเศรษฐกิจของกาซาถูกทำลาย สภาพความเป็นอยู่ของผู้คนกว่า 1.8 ล้านคนที่อยู่ในอาณาบริเวณเล็กๆ แค่ 360 ตารางกิโลเมตร เปรียบเหมือนถูกลงโทษแบบเหมารวมอยู่ใน "คุกเปิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก"

                ยิ่งนานวันชาวปาเลสไตน์ในกาซาก็ยิ่งตายมากขึ้นอันเกิดจากมาตรการปิดล้อม ไม่ว่าจะเกิดจากการโจมตีของอิสราเอลครั้งต่างๆ ที่ผ่านมา หรือการตายอันเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บเพราะไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรคเพียงพอ ที่แย่กว่านั้นคือเด็กปาเลสไตน์กว่าครึ่งในฉนวนกาซาเป็นโรคขาดสารอาหาร กำลังรอความช่วยเหลือจากน้ำใจของพี่น้องร่วมโลก (ทั้งหมดนี้มีหลักฐานเป็นรายงานขององค์การสหประชาชาติ) ประการสุดท้าย นับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลปกครองปาเลสไตน์ กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาได้ยื่นข้อเสนอต้องการทำข้อตกลงหยุดยิงถาวรหากอิสราเอลจะถอนกองกำลังออกไปจากดินแดนทั้งหมดที่อิสราเอลเข้ามายึดครองตั้งแต่สงครามหกวันปี 1967 ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับมติ 242 ของสหประชาชาติ

                แต่แทนที่อิสราเอลจะยอมเข้ามาเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีมานานโดยอาศัยช่องทางทางการเมืองและการทูตตามระบอบประชาธิปไตย กลับไปร่วมมือกับสหรัฐ กดดันรัฐบาลฮามาสในทุกวิถีทาง ทั้งทางลับและเปิดเผย เพื่อโดดเดี่ยวและทำลายคะแนนนิยมกลุ่มฮามาส ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมกาซา การส่งอาวุธให้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกับกลุ่มฮามาสจนเกิดสงครามกลางเมืองภายในเมื่อปี 2007

                ตลอดรวมถึงการที่อิสราเอลใช้วิธีโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปี 2008-9 ปี 2012 และครั้งล่าสุดในปีนี้ที่เหยื่อความรุนแรงส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง (ดู Flynt Leverett และ Hillary Mann Leverett . Gaza’s Crisis, Israeli Ambition, and US Decline. www.antiwar.com )