
รวบโจ๋ฆ่าโหดแทงคู่อริกว่า20แผลทิ้งข้างทาง
23 ก.ค. 2557
รวบแก๊งอาชีวะโหดอุ้มฆ่าเด็กเทคโนโลยีปทุมธานีหายตัวไปนานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนจะพบศพถูกแทงยับกว่า 20 แผล
วันที่ 23 ก.ค.57 เมื่อเวลา 02.30 น. พ.ต.ท.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้าทำการปิดล้อมปรานีอพาร์ทเม็น ชั้น 2 ห้อง 205 ซ.วัดบัวขวัญ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จับกุมตัวนายออม (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นายเดีย (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นายอาร์ม (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นายแอ๊ป (นามสมมุติอายุ) 17 ปี นายภานุเดช หรือโอ เฝ้ากระโทก นายกีรติ หรือเต้า เกษมเจริญ อายุ 23 ปี นายกำพล หรือยาด รามอ อายุ 22 ปี กลุ่มนักเรียนและศิษย์เก่าที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่านายสมเดช แก้วสุโข อายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานีชั้นปีที่ 1 จนเสียชีวิต และทิ้งศพบริเวณป่าหญ้าภายในซอยประยูรหงษ์ ถ.สาย340 ( ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค 2557 นายสมทรง แก้วสุโข อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/102 ม.8 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ว่านายสมเดช แก้วสุโข อายุ 16 ปี ลูกชายได้หายตัวไปขณะขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เอ็มเอชเอ๊กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกไปเรียน ตั่งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.ค. และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้กระจายกำลังกันออกตามหาทั้งจากกลุ่มเพื่อนของผู้ตายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดที่คาดว่าผู้ตายจะใช้เป็นเส้นทางผ่านไปเรียน จนกระทั่งมาพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะที่ผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานยนต์โดยมีชายวัยรุ่นสวมหมวกแก๊ปนั่งซ้อนท้ายไปทางปากซ.สามัคคี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้เพื่อนของผู้ตายดู ซึ่งเพื่อนของผู้ตายยืนยันว่าวัยรุ่นที่ซ้อนท้ายคือนายออมซึ่งเคยเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งตามหาตัวนายออมจนทราบว่านายออมได้มาเช่าห้องพักร่วมกลุ่มมัวสุ่มเสพกัญชาและเสพสี่คูณร้อยอยู่กับพรรคพวกจึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมนำตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองนนทบุรี
จากการสอบสวนนายออมให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ได้มีนายแอ๊ป เพื่อนนักเรียนรุ่นน้องว่าได้ถูกผู้ตายกับพวกใช้อาวุธปืนไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดบริเวณปากซอยทานสัมฤทธิ์ และผู้ตายยังเที่ยวไปคุยโวในกลุ่มเพื่อนว่าตนเองได้ยิงนักเรียนโรงเรียนคู่อริ ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มพวกตนเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาขณะที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นายโออยู่นั้นก็เห็นผู้ตายจอดรถจักรยานยนต์อยู่หน้าโรงเรียนเบญจมราชานุสรน์ ตนจึงได้กระโดดลงจากรถและวิ่งไปขึ้นซ้อนท้ายรถของผู้ตายก่อนจะบอกให้ผู้ตายไปส่งที่บ้านเพื่อนภายในซอยทรายทอง
จนกระทั่งมาถึงบ้านเพื่อนตนเองจึงได้ถามผู้ตายว่าเป็นคนยิงเด็กรุ่นน้องตนเองใช่ไหมซึ่งรับสารภาพว่าเป็นคนยิง ตนเองจึงพูดไปว่า”มึงรู้ใช่ไหมว่าจะต้องโดนอะไร งั่นมึงอโหสิกรรมให้กูด้วย ” หลังจากนั้นตนเองจึงได้โทรศัพท์เรียกนายเดียและนายแอ๊ปให้มาหาที่บ้านเพื่อน ก่อนที่ตนจะให้นายเดียเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายโดยมีผู้ตายนั่งตรงกลางและตนเองเป็นคนนั่งปิดท้ายประกบไปยังจุดที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงนายเดียได้จอดรถที่ข้างทางก่อนจะลงจากรถมาด้วยกันทั้ง 3 คนเพื่อพูดคุยแต่ผู้ตายพยายามต่อสู้ขัดขืน ตนจึงได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาจ้วงแทงไปที่ชายโครงซ้ายของผู้ตาย 1 ครั้งจนเกิดการต่อสู้ชุลมุนล้มกลิ่งลงไปในป่าหญ้า ด้วยความโมโหที่ผู้ตายต่อสู้ตนจึงได้ใช้มีดกระหน่ำแทงไปตามลำตัวแบบไม่ยังมือจนผู้ตายนอนนิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้น ก่อนที่ตนเองจะใช้มีดจ้วงแทงไปที่คออีก 1 ครั้ง ก่อนจะปามีดทิ้งเข้าไปในป่าหญ้าและรีบขับรถหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุทันที่ก่อนจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หน้าตลาดสมบัติบุรีและนำหมวกกับเสื้อผ้าเผาทิ้งในถังขยะเพื่อทำลายหลักฐานและได้โทรศัพท์ติดต่อให้นายเต้า มานำรถของผู้ตายไปขายในราคา 8 พันบาท ก่อนจะนำเงินที่ได้มาซื้อยาเสพติดมาแบ่งกันเสพจนมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งไปที่สภ.บางบัวทองเพื่อดำเนินดคีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป