ข่าว

'ที่สุด' ในฟุตบอลโลก 2014

'ที่สุด' ในฟุตบอลโลก 2014

12 ก.ค. 2557

"ที่สุด" ในฟุตบอลโลก 2014

 
 
 
          เนื่องจากศึกฟุตบอลโลก 2014เตรียมได้ฤกษ์รูดม่านปิดฉากกันในช่วงหลังจบเกมรอบชิงชนะเลิศคืนวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคมนี้ จึงขอรวบรวมเรื่องราวความเป็น "ที่สุด"ที่เกิดขึ้นในเกมฟาดแข้งรอบสุดท้ายที่บราซิล เพื่อเป็นการส่งท้ายให้มหกรรมลูกหนังโลกที่จะจัดแข่งกันในช่วงทุกๆ 4 ปีนั่นเอง
 
          เหนียวที่สุด - "ทีโฮ" ทิม โฮเวิร์ด ผู้รักษาประตูทีมชาติสหรัฐอเมริกา สร้างสถิติเป็นนายด่านจอมหนึบที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของศึกฟุตบอลโลก หลังออกแรงเซฟประตูในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่แพ้ เบลเยียม 1-2 ได้มากถึง 15 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการเซฟประตูมากที่สุดในเกมรอบสุดท้าย นับตั้งแต่ที่ได้มีการจดบันทึกกันมาตั้งแต่ปี 1966 พร้อมกับทุบสถิติเดิมของ รามอน กุยโรกา นายด่านทีมชาติเปรูที่เซฟไปถึง 13 ครั้งจากเกมนัดที่เสมอ "กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ 0-0 ในศึกฟุตบอลโลก 1978 ที่อาร์เจนตินา เมื่อ 36 ปีก่อน
 
 
          วิ่งเร็วที่สุด - แซร์ โอริเยร์ แบ็กขวาดาวรุ่ง "ช้างดำ" ไอวอรีโคสต์ เป็นนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในศึกฟุตบอลโลก 2014 เพราะสปีดในเกมนัดที่แพ้โคลอมเบีย 1-2 ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 33.52 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ ดาริโย แซร์นา ดาวเตะ "ตาหมากรุก" โครเอเชีย ที่วิ่งสปีดในเกมนัดที่ไล่ต้อนชนะ แคเมอรูน 4-0 ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 32.98 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกจอมเลื้อย "กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ เข้าป้ายเป็นอันดับ 3 จากวิ่งสปีดในเกมนัดที่ไล่ถล่มสเปน 5-1 ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 31.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
 
          แก่ที่สุด - ฟาริด มอนดรากอน ผู้รักษาประตูจอมเก๋าทีมชาติโคลอมเบีย เป็นนักเตะอายุมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของศึกฟุตบอลโลก เพราะมีโอกาสได้ลงสนามในเกมรอบสุดท้ายด้วยวัยสูงถึง 43 ปีเลยทีเดียว หลังถูกเปลี่ยนตัวให้ลงไปยืนเฝ้าเสาในช่วงท้ายเกมนัดที่ไล่ต้อนชนะญี่ปุ่น 4-1 พร้อมกับทุบสถิติเดิมของ โรเจอร์ มิลลา อดีตดาวยิงจอมเก๋าทีมชาติแคเมอรูนที่เคยลงเล่นในเกมรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา ด้วยวัยสูงถึง 42 ปี กับอีก 39 วัน
 
          ฉาวที่สุด - หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ก่อเหตุกัดไหล่ จอร์โจ คิเอลลินี กองหลังทีมชาติอิตาลี ในเกมนัดที่ช่วยให้บ้านเกิดเฉือนชนะ "อัซซูรี" 1-0 แม้จะไม่โดนลงโทษระหว่างเกมนัดดังกล่าว เพราะผู้ตัดสินมองไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้ตัดสินลงโทษแบนหัวหอกวัย 27 ปีรายนี้จากการออกคำสั่งห้ามไม่ให้ลงสนามโชว์ฝีเท้าเป็นเวลานานถึง 4 เดือนเลยทีเดียว
 
          ยิงเร็วที่สุด - คลินท์ เดมป์ซีย์ ดาวเตะกัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกา สร้างสถิติซัลโวตาข่ายในศึกฟุตบอลโลก 2014 ได้เร็วที่สุด เพราะยิงประตูเบิกร่องนัดที่เฉือนชนะ กานา 2-1 ได้ด้วยเวลาเพียง 29 วินาที และถือว่าเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ของเกมฟาดแข้งรอบสุดท้าย ส่วนอันดับ 1 ยังคงเป็นสถิติของ ฮาคาน ซูเคอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติตุรกีที่จัดการยิงประตูเบิกร่องนัดที่เฉือนชนะเกาหลีใต้ 3-2 ในศึกฟุตบอลโลก 2002 นัดชิงอันดับ 3 ได้ด้วยเวลาเพียง 11 วินาทีเท่านั้น
 
          ประทับใจที่สุด  - กองเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่น ที่โชว์ความมีระเบียบวินัยให้ชาวโลกได้เห็น เพราะมีการรวมตัวช่วยกันถือถุงเก็บขยะบริเวณอัฒจันทร์หลังจบเกมนัดที่ตามเชียร์ทีมบ้านเกิดของตัวเองลงสนามโชว์ฝีเท้าเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าทัพลูกหนัง "ซามูไร" จะทำผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2014 ได้แบบน่าผิดหวัง หลังกระเด็นตกรอบแรกไปแบบสะกดคำว่าชนะไม่เป็นแม้แต่นัดเดียว ทว่าผู้คนทั่วโลกกลับรู้สึกประทับใจแฟนบอลจากเมืองปลาดิบเป็นอย่างมาก  
 
          เซอร์ไพรส์ที่สุด - ทีมชาติคอสตาริกา ที่จัดการหักปากกาเซียนได้แบบพลิกความคาดหมาย แม้จะถูกปรามาสให้เป็น "ทีมไม้ประดับ" ที่ต้องกระเด็นตกรอบแรกอย่างแน่นอน หลังถูกจับสลากให้อยู่ใน "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ร่วมสายเดียวกับ 3 ยักษ์ใหญ่อย่าง อังกฤษ, อิตาลี และอุรุกวัย ทว่าทัพลูกหนังจากเมืองกล้วยหอมกลับสามารถสร้าง "เซอร์ไพรส์" ได้ด้วยการเข้าป้ายแชมป์กลุ่ม ดี พร้อมกับทะลุผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์
 
          น่าผิดหวังที่สุด - ทีมชาติสเปน ซึ่งมีดีกรีเป็นถึง "แชมป์เก่า" จากเมื่อปีก่อน แต่ทัพลูกหนังจากเมืองกระทิงดุกลับโชว์ฟอร์มในศึกฟุตบอลโลก 2014 ได้แบบน่าผิดหวังมาก โดยเฉพาะผลงานในเกมนัดประเดิมสนามที่เป็นฝ่ายแพ้ ฮอลแลนด์ ไปแบบยับเยินถึง 1-5 ก่อนที่จะกระเด็นตกรอบแรกไปตั้งแต่ไก่โห่ เช่นเดียวกับ 2 ชาติยักษ์ใหญ่จากยุโรป นั่นก็คือ ทีมชาติอังกฤษ และ ทีมชาติอิตาลี ที่ต้องจอดป้ายเพียงแค่รอบแรกเหมือนกัน