
ยธ.ชี้โทษทำอนาจารถึงฆ่าข่มขืนคือ'ประหาร'
ยธ.แจงโทษคดีทางเพศไทยสมบูรณ์แล้ว อนาจารถึงฆ่าข่มขืนคือ'ประหาร' เตรียมมอบเงินเยียวยาญาติเด็กหญิง13ปี
8ก.ค.2557 นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกรณีที่มีกระแสสังคมผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์กนัดรวมตัวพร้อมล่ารายชื่อเพื่อเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงโทษคดีข่มขืนให้รับโทษประหารชีวิตว่า โทษอาญาตามความผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศตามกฎหมายของไทยถือว่ามีความสมบูรณ์แล้ว เมื่อเทียบกับกฎหมายของต่างประเทศ กฎหมายของประเทศไทยไม่ได้มีโทษน้อยกว่าประเทศใด ซึ่งการลงโทษผู้กระทำผิดในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ระดับขั้นของอัตราโทษที่แตกต่างกันตั้งแต่ อนาจาร ข่มขืน ข่มขืนและทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ หรือข่มขืนและทำให้เสียชีวิต ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต โดยเฉพาะกรณีฆ่าและข่มขืนเพราะศาลจะพิพากษารวมคดีฆ่าคนตายไปด้วย กฎหมายเดิมมีอยู่แล้วหลายบทขึ้นอยู่กับศาลว่าจะวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ถึงประหารชีวิตหรือไม่ ทั้งนี้ การพิจารณาคดีแต่ละคดีต้องประกอบด้วยข้อเท็จจริงเป็นหลัก คงไม่สามารถเหมารวมคดีข่มขืนทุกคดีต้องประหารชีวิตได้เพราะแต่ละคดีมีข้อเท็จจริงในรายละเอียดแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงอายุ 13 ปี ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ดังนั้น หากต้องการให้มีการลงโทษขั้นสูงสุดกับผู้กระทำผิดก็ต้องร่วมกันหลายองค์ประกอบโดยเฉพาะการติดตามการทำหน้าที่ของตำรวจให้สามารถรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด ขณะที่คนสังคมต้องให้ความร่วมมือหากพบเห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกระบวนการสั่งฟ้องของอัยการ หากองค์ประกอบเหล่านี้ทำได้อย่างสมบูรณ์กระบวนการลงโทษจะเป็นไปด้วยความเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ค.) เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. จะเป็นประธานมอบเงินเยียวยาให้กับญาติของเด็กหญิง อายุ 13 ปี ที่ถูกพนักงานการรถไฟฆ่าและข่มขืน ในฐานะผู้เสียหายตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เป็นเงิน 100,000 บาท ที่ห้องประชุม กรมคุ้มครองสิทธิฯ