ยธ.จี้อธิบดีราชทัณฑ์ตรวจสอบคำสั่งตั้งซี8 | คมชัดลึก

                 7ก.ค.57นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบ กรณีคำสั่งให้ข้าราชการกรมราชทัณฑ์รักษาการในระดับ 8 จำนวน 38 ตำแหน่ง ตามที่ น.ส พรพิตร นรภูมิพิภัชน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ใช้อำนาจรักษาการอธิบดีฯลงนามในคำสั่ง ภายหลังคสช.มีคำสั่งโยกย้ายอธิบดีราชทัณฑ์มีผลเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา หากอธิบดีราชทัณฑ์คนใหม่ได้พิจารณาเห็นว่าการปฎิบัติหน้าที่รองอธิบดีโดยใช้อำนาจรักษาการเป็นไปโดยถูกต้องก็ควรมีการแถลงต่อสาธารณชนให้เข้าใจถึงกระบวนการสรรหา อีกทั้งเพื่อให้ข้าราชการที่อยู่ระหว่างการสรรหาเข้าใจถึงกระบวนแต่งตั้ง เพื่อไม่เกิดความเคลือบแคลงใจกับทุกฝ่าย แต่หากอธิบดีฯเห็นว่า มีขั้นตอนใดไม่ถูกต้องก็อยู่ในอำนาจการตัดสินใจของอธิบดี

                 นายชาญเชาวน์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นรองอธิบดีได้ชี้แจงมายังตนแล้ว โดยระบุว่าขั้นตอนดังดังกล่าวเป็นการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.กพ.)กรมราชทัณฑ์มาแล้ว ซึ่งขั้นตอนการลงนามดังกล่าวเป็นการส่งไปตามกระบวนการตามที่อกพ.มีมติเท่านั้น

                 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ เวลา 10.00น.ที่ห้องประชุมกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์พร้อมกับรองอธิบดีฯนัดแถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าว

'สุชาติ'ยันย้ายตามมติอ.กพ.กรมไม่ใช่ทิ้งทวน

                 พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีน.ส.พรพิตร นรภูมิพิภัชน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงนามเซ็นคำสั่งแต่งตั้งผู้คุม 38 ตำแหน่ง ระดับชำนาญการพิเศษ ว่ากรณีดังกล่าวผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.กพ.) กรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ดังนั้นน.ส.พรพิตร ต้องลงนามเซ็นคำสั่งแต่งตั้งเท่านั้นไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นต้องมีภูมิความรู้ ภูมิปัญญา ว่ากรมราชทัณฑ์ไม่เคยเกี่ยวข้องการเมือง หากไม่รู้ไม่ควรเขียนให้เกิดความแตกแยก ยืนยันที่ผ่านมาตลอดการดำรงตำแหน่งอธิบดีราชทัณฑ์มา2ปี9เดือน ไม่เคยทำร้ายกรมราชทัณฑ์ การพิจารณาแต่งตั้งยึดหลักอาวุโสอันดับ1,2 มาก่อนบวกกับผลงาน

                 พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า หลังการมอบงานให้กับอธิบดีฯใหม่คาดว่าจะยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้คาดว่าต้องใช้เวลาอีกประมาณ1 เดือน เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งก่อน

อธิบดีราชทัณฑ์คนใหม่ย้ำคสช.มอบปราบยาเสพติด-มือถือ

                 ทั้งนี้่ที่กรมราชทัณฑ์จัดพิธีส่งมอบตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ระหว่างพ.ต.อ.สุชาติ กับนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ โดยนายวิทยา กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายภารกิจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้เข้ามาทำงานปราบปรามสิ่งของต้องห้าม โดยเฉพาะยาเสพติดในเรือนจำอย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมามีการแก้ปัญหาแยกกันแต่หลังจากนี้จะให้หัวหน้าเขตเรือนจำที่มีหน้าที่อยู่แล้วบทบาทเพิ่มมากขึ้น สำหรับกรณีรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ลงนามคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการรักษาการตำแหน่งนักทัณฑวิทยา ชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการคุมแดนในเรือนจำ โดยเป็นคำสั่งที่ลงนามเมื่อวันที่ 4 ก.ค. หลังวันที่คสช. มีคำสั่งโยกย้ายและตั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค. นั้น ตนทราบว่าเป็นกระบวนการสรรหาให้ไปรักษาการเพื่อทำผลงาน ยังไม่ใช่คำสั่งแต่งตั้ง ดังนั้นหลังจากนี้ยังมีขั้นตอนการตรวจสอบผลงานอีกครั้งและจะเรียกรองอธิบดีที่เป็นผู้ลงนามในคำสั่งมาพูดคุยด้วย

                 น.ส.พรพิตร นรภูมิพิภัชน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าได้พิจารณารายละเอียดคำสั่งแล้วเห็นว่าไม่ใช่งานด้านนโยบายจึงไม่น่าจะต้องใช้การตัดสินใจจากอธิบดีคนใหม่ พร้อมกันนี้ในการคัดเลือกทำในรูปของคณะกรรมการ หากพบว่าขั้นตอนมีปัญหาก็ต้องมีการสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาตนลงนามคำสั่งไปหลายเรื่อง จึงตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกอาจหวังให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่เข้ามารื้อกระบวนการสรรหาใหม่ ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนอธิบดีใหม่แล้วก็เปลี่ยนกระบวนการสรรหาที่ทำมาแล้วก็คงไม่ใช่กฏ กติกาแต่เป็นระบบอุปถัมภ์

                 ผู้สื่อข่าวถามถึงจังหวะความเหมาะสมในการเซ็นคำสั่ง น.ส.พรพิตร ปฏิเสธตอบคำถามเรื่องความเหมาะสมที่เร่งลงนามก่อนอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่จะมารับตำแหน่ง แต่ถามกลับว่าเหตุใดเมื่อกระบวนการมาตามขั้นตอนแล้ว จึงต้องไม่ลงนาม เนื่องจากความล่าช้าจะมีผลต่อสิทธิของคนที่ได้รับคัดเลือก

                 อย่างไรก็ตาม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้น.ส. พรพิตรทำรายงานชี้แจงเหตุผลในการลงนามคำสั่งดังกล่าวภายในวันนี้

                 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังข้าราชการกรมราชทัณฑ์จัดพิธีต้อนรับอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่ จากนั้นพ.ต.อ.สุชาติได้กล่าวอำลาข้าราชการที่ให้ความร่วมมือในการทำงานทั้งที่ตนไม่ใช่ลูกหม้อกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกรมราชทัณฑ์ ส่วนกรณีวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนั้น รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติไปตามหน้าที่ นักการเมืองไม่รู้จริงก็ไม่ควรนำมาเขียนแล้วเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดความเสียหาย

                 หลังจากนั้นข้าราชการได้เดินลงมาส่งพ.ต.อ.สุชาติที่ประตูด้านหน้ากรมราชทัณฑ์ โดยก่อนอำลาจากกันพ.ต.อ.สุชาติได้สวมกอดกับน.ส.พรพิตรก่อนที่จะเดินออกจากกรมราชทัณฑ์