
ใช้กล่องโฟมเลี้ยงกบระบบปิด ประหยัดเนื้อที่-ปลอดสารพิษ
หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการเลี้ยงกบคอนโด ซึ่งใช้ยางรถยนต์มาเรียงต่อกันเป็นชั้นๆ ประหยัดเนื้อที่การเลี้ยง และกบยังเติบโตได้รวดเร็ว ล่าสุด "ฉะอ้อน เผนโคกสูง" ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา คิดวิธีเลี้ยงกบแบบให
ฉะอ้อนบอกว่า ก่อนหน้านี้ได้ใช้ยางรถยนต์ที่เหลือมาซ้อนกันเป็นชั้นราว 4-5 เส้น สำหรับเลี้ยงกบ พบว่าประสบผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี กบโตเร็ว ลงทุนน้อยเพราะนำยางรถยนต์ที่เหลือใช้ ใช้พื้นที่ไม่มากนัก แต่กระนั้นก็คิดว่าน่าจะหาวิธีที่ใช้พื้นที่น้อยกว่า วางเลี้ยงตรงไหนก็ได้ที่คิดว่ามีข้อจำกัดน้อยกว่าการใช้ยางรถยนต์ จึงลองนำกล่องโฟมมาเลี้ยงทดลองเลี้ยงพบว่าดีกว่าการใช้ยางรถยนต์ตรงที่โฟมดูแลง่ายกว่า
ส่วนการเลี้ยงกบในกล่องโฟมคอนโด ฉะอ้อนบอกว่า ก่อนอื่นต้องหากล่องโฟมขนาดกว้าง 40 ซม.ยาว 60 ซม. สูง 30 ซม. โดยหาซื้อได้จากห้างสรรพสินค้า ที่ห้างใช้ใส่ผักผลไม้มาวางจำหน่าย ราคากล่องละ 80 บาท แต่ต้องเลือกกล่องโฟมที่ใช้ในการใส่ผักและผลไม้เท่านั้น เนื่องจากกล่องโฟมเหล่านี้จะไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้างเมื่อนำมาใช้เป็นสถานที่เลี้ยงกบ และต้องเลือกดูว่ากล่องโฟมไม่มีการรั่วซึมหรือไม่
จากนั้นนำมาทำความสะอาดและดัดแปลงโดยการเจาะรูรอบกล่องทั้ง 4 ด้านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก นำเทปกาวมาติดยึดฝากล่องให้พับปิดเปิดได้ แล้วเจาะรูด้านบนฝากล่อง ตัดปากขวดน้ำดื่มพลาสติก ยัดใส่ลงไปในรูที่เจาะไว้เพื่อใช้เป็นที่ให้อาหาร เมื่อหาที่วางกล่องเรียบร้อย ใส่น้ำลงไปให้สูงประมาณ 1 ซม. นำกบจากบ่ออนุบาลที่มีอายุ 2 เดือนใส่กล่องละ 100 ตัว ไปวางไว้ในโรงเรือนหรือที่ใดก็ได้ แต่ห้ามไปตั้งกลางแจ้งหรือถูกแดดเด็ดขาดเพราะจะทำให้กบร้อนตายได้
เพื่อประหยัดเนื้อที่ นำกล่องโฟมตั้งซ้อนกันไว้แต่ไม่ควรเกิน 4 ชั้น เพราะจะสะดวกต่อการให้อาหาร โดยการให้อาหารกบก็จะใช้หัวอาหารปลาดุกโตวันละ 2 มื้อ เช้า-เย็น ส่วนการเปลี่ยนถ่ายน้ำก็ควรจะเปลี่ยน 2 วันต่อครั้ง เพื่อไม่ให้น้ำสกปรก ส่วนการเปลี่ยนน้ำก็ทำได้ง่ายๆ โดยการแง้มฝากล่องแล้วเทน้ำออกจากนั้นก็นำสายยางสอดลงไปในที่ให้อาหาร ปล่อยน้ำเข้ากลับไปเหมือนเดิม จากนั้นหมั่นตรวจดูการเจริญเติบโตของกบทุก 2 สัปดาห์ และคัดแยกกบที่โตช้ากว่าตัวอื่นๆ ออก เนื่องจากหากปล่อยไว้กบจะกัดกันและเป็นแผลซึ่งอาจทำให้เกิดโรคตามมาได้
กระทั่งกบอายุได้ 4 เดือน ก็ให้แยกกบออกจนเหลือ 50-60 ตัว เนื่องจากกบจะเริ่มโต หากปล่อยไว้จะทำให้แออัดกบจะกัดกัดตายได้ จากนั้นก็ดูแลไปอีก 2 เดือน ก็สามารถจับไปขายได้แล้ว กบก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ตัวละ 400-500 กรัม ขายในท้องตลาดกิโลกรัมละ 150 บาท
"การเลี้ยงกบกล่องโฟมทำได้ง่าย สะดวกมาก เพราะกล่องมีน้ำหนักน้อย ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย ยกเปลี่ยนน้ำได้สะดวก ถือเป็นการเลี้ยงระบบปิดทำให้กบปลอดจากโรค ประหยัดเนื้อที่ เพียงแต่มีพื้นที่ 4x6 ตารางวา ก็จะเลี้ยงกบได้ถึง 5,000 ตัวเลยทีเดียว" ฉะอ้อนกล่าว
นับเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลี้ยงกบที่ผู้สนใจสามารถนำไปทดลองเลี้ยงได้ โดยเฉพาะคนเมืองซึ่งมีเนื้อที่น้อยได้ก็สามารถใช้ประโยชน์จากการเลี้ยงกบเพื่อสร้างรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย
"ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ"