
ค้นคุกเชียงใหม่พบ'อาวุธ-สื่อลามก'อื้อ!
25 มิ.ย. 2557
หลายหน่วยงานสนธิกำลังจู่โจมค้นเรือนจำกลางเชียงใหม่ตามนโยบายคสช. พบอาวุธ-สื่อลามกจำนวนมาก ตรวจปัสสาวะพบสีม่วง 109 ราย
25 มิ.ย.57 นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 พ.อ.ชาตรี มณีพงษ์ เสนาธิการ มทบ.33 พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 และรทท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นายสุชีพ คชรินทร์ รทท.ผอ.ป.ป.ส.ภาค5 และนายพิรุณ หน่อแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.33 ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรมราชทัณฑ์ ป.ป.ส. และอาสาสมัครจังหวัดเชียงใหม่กว่า 810 นาย เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ตามแผนยุทธการปิดล้อมจู่โจมตรวจค้น Re x-ray ตามนโยบายของ คสช.ในการปราบปรามยาเสพติดและไม่มีสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำ
นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก และทาง คสช.มีนโยบายให้เรือนจำต้องเป็นเรือนจำสีขาวปลอดจากสิ่งเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเป็นสถานที่ขัดเกลาคนให้ออกไปเป็นคนดีต่อสังคม และทางเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเริ่มตรวจค้นมาแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. และได้ยาบ้าจำนวน 2,005 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในสนามหญ้าในแดน 8 ที่มีนักโทษคดีร้ายแรงและนักโทษประหารถูกควบคุมตัวอยู่ วันนี้จึงระดมกำลังหน่วยหน่วยงานบุกตรวจปัสสาวะนักโทษทุกคนและตรวจค้นห้องขังอย่างละเอียด
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 และรทท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ (25 มิ.ย.) ได้นำตัวนักโทษทุกคนรวมกว่า 4,871 คน มาตรวจปัสสาวะและพบสารเสพติด 109 คน และพบว่าเป็นนักโทษจากแดน 8 ที่มีโทษรุนแรงถูกตัดสินจำคุกนานกว่า 30 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิตหรือเป็นนักโทษประหารรวมกว่า 44 คน ทางเจ้าหน้าที่จะนำปัสสาวะไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม สำหรับการบุกตรวจห้องขัดอย่างละเอียดพบสิ่งของต้องห้ามหลายรายการ อาทิ มีดคัตเตอร์และของมีคม สิ่งดัดแปลงที่สามารถนำมาเป็นอาวุธได้ พบบุหรี่และไฟแช็ค อุปกรณ์การเล่นพนัน ถุงยางอนามัย สื่อลามกอนาจาร และสิ่งต้องห้ามอื่นๆจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
นายพิรุณ หน่อแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ กล่าวว่า คสช.มีนโยบายให้ย้ายนักโทษยาเสพติดรายใหญ่ไปที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี เนื่องจากเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูงที่สุด และทางเรือนจำกลางเชียงใหม่ได้ส่งไปแล้ว 2 ราย ซึ่งมีเครือข่ายยาเสพติดกว้างขวางในพื้นที่ก็จะทำให้ปัญหายาเสพติดในเรือนจำลดลงไปได้มาก อีกทั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ก่อตั้งเรือนจำแห่งใหม่นี้เมื่อปลายปี 2555 ได้จับกุมผู้คุมได้แล้ว 3 ราย ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยรายล่าสุดได้นำยาบ้ากว่า 3,627 เม็ดใส่กระติกน้ำเพื่อแอบนำไปส่งให้นักโทษก็กำลังอยู่ในขั้นการดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนการลักลอบโยนยาเสพติดและโทรศัพท์เข้ามาในเรือนจำทางผู้คุมเรือนจำก็สามารถจับได้อย่างตลอดรวมถึงการตรวจค้นอย่างละเอียดก่อนเข้าภายในเรือนจำ รวมถึงจะปรับปรุงการตัดสัญญาณโทรศัพท์และเครื่องตรวจให้ดีกว่าเดิมเพื่อป้องกันไม่ให้มียาเสพติดภายในเรือนจำได้ในอนาคต