
อุทาหรณ์'คุกกี้รัน'ซื้อเพชร...หลักแสนรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อุทาหรณ์'คุกกี้รัน'ซื้อเพชร...หลักแสน เหยื่อแห่งความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เกมยอดฮิตในสมาร์ทโฟนอย่างคุกกี้รัน (Cookie Run) ที่ดาวน์โหลดให้เล่นฟรี แต่แฝงไว้ด้วยธุรกิจเชิงพาณิชย์ ด้วยการขายไอเท็ม คือ เพชรและเงิน เพื่อนำไปซื้อตัวช่วยต่างๆ ให้เล่นเกมได้คะแนนมากขึ้นและมีพลังดีขึ้น สามารถนำไปสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ และลงแข่งคะแนนกับคนอื่นได้ เพื่อให้ได้อยู่อันดับสูงยิ่งขึ้นไป
ลักษณะของเกมคุกกี้รันนั้น จะมีตัวคุกกี้ที่วิ่งหรือกระโดดหลบสิ่งกีดขวาง ขณะเดียวกันก็เก็บเหรียญเงิน เหรียญทอง และเยลลี่ เพื่อทำคะแนนให้มากขึ้น ก่อนที่จะไต่อันดับไปในเกมที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นเมื่อเด็กชายวัย 13 ปี ระดมซื้อเพชรในเกมคุกกี้รัน แต่เมื่อบิลค่าโทรศัพท์ส่งมาถึง "อัมพร ชุ่มชื่นดี" แม่ของเด็กชายคนดังกล่าว แทบลมจับเมื่อพบว่ามียอดแจ้งให้ชำระเงินกว่า 2 แสนบาท
"อัมพร" ยอมรับว่า ปกติจ่ายค่าโทรศัพท์ไม่เกินเดือนละ 500 บาท แต่ปรากฏว่าบิลค่าใช้บริการเดือนพฤษภาคม 2557 เรียกเก็บค่าใช้จ่ายถึง 203,477.06 บาท จึงไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์พลั้งเผลอให้ลูกชายใช้โทรศัพท์มือถือ โดยไม่รู้ถึงอัตราค่าใช้บริการที่จะเกิดขึ้น จึงเข้ามาร้องเรียนกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ซึ่งทางผู้ให้บริการโทรศัพท์ยินดีจะยกเว้นการชำระค่าสินค้าและบริการโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ให้
เด็ก 13 ปีรายนี้ ไม่ใช่รายแรกที่ตกเป็นเหยื่อเกมคุกกี้รัน แต่ยังมีอีกหลายรายที่ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ส่วนเกินจากค่าโทรปกติตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน เหยื่อรายล่าสุด มียอดเรียกเก็บเงินเกือบ 6 แสนบาท อย่าง "อัจฉรา ใจครัว" ลูกจ้างร้านตั้งคิ้มเชียง อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับบิลจากค่ายโทรศัพท์มือถือเรียกเก็บเงิน 596,398.51 บาท ทั้งที่เพิ่งซื้อโทรศัพท์มือถือและซิมโทรศัพท์มาใหม่ได้เพียง 4 วัน แต่ลูกนำโทรศัพท์ไปใช้เล่นเกมคุกกี้รันจนโทรศัพท์ถูกตัด และมีบิลเรียกเก็บเงินดังกล่าว
ด้าน "ปรัธนา ลีลพนัง" รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด เอไอเอส ยอมรับว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยในกรณีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ทำการปิดบริการสำหรับระบบโพสต์เพดทันที ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจะดูแลลูกค้าโดยยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ลูกค้าทุกรายที่ใช้งานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
"ปรัธนา" ยังอธิบายถึงการใช้บริการเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นทางอินเทอร์เน็ตว่า การสมัครใช้งาน หรือ การซื้อคอนเทนท์ ผ่านทางกูเกิลเพลย์สโตร์ (Google play store) ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา ลูกค้าจำเป็นต้องสมัครหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น แต่เพื่ออำนวยการสะดวกให้แก่ลูกค้า เอไอเอสจึงเป็นผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการนี้ให้แก่ กูเกิลเพลย์สโตร์ โดยหักจากบิลค่าโทรศัพท์ของเอไอเอสได้ทั้งบัตรเติมเงินและจ่ายรายเดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา โดยในทางปฏิบัติ ผู้ใช้บริการดังกล่าวต้องสมัครใช้งานและยืนยันความเป็นเจ้าของไอดีก่อน จึงจะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ รวมถึงในการซื้อคอนเทนท์แต่ละครั้งจะแจ้งให้ยืนยันการซื้อก่อน และจะส่งคำสั่งยืนยันดังกล่าวกลับไปที่อีเมลของลูกค้าเสมอ
ขณะที่ "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยภายหลังจากการพูดคุยกันระหว่างสำนักงาน กสทช. บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) และผู้ปกครอง รวมถึงผู้ประสานงาน ทำให้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า บริษัท แอดวานซ์ฯ จะขอรับเยียวยาในกรณีนี้เอง โดยทางผู้ปกครองเจ้าของเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่จะชำระแค่ค่าบริการโทรศัพท์ตามโปรโมชั่น ส่วนค่าบริการที่เกิดจากการซื้อเพชรในเกมคุกกี้รันนั้น ทางบริษัทจะจัดการในส่วนนั้นเอง เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการใช้บริการโดยไม่ตั้งใจและเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
"ส่วนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันในอนาคต จะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการจำกัดวงเงินค่าใช้บริการและเกมต่างๆ รวมถึงการมีบริการข้อความโดยตรงไปยังเลขหมายอื่นที่กำหนดไว้ด้วย เช่น กรณีที่ผู้ปกครองซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ลูกใช้งาน ถ้าจะซื้อบริการ จะมีข้อความส่งไปยังมือถือของผู้ปกครองด้วย เพื่อให้รับรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ" เลขาธิการ กสทช. กล่าว
..............
(หมายเหตุ : อุทาหรณ์'คุกกี้รัน'ซื้อเพชร...หลักแสน เหยื่อแห่งความรู้เท่าไม่ถึงการณ์)