
มาเฟียในเครื่องแบบ
มาเฟียในเครื่องแบบ : บรรณาธิการประจำวันที่18มิ.ย.2557
นโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังเดินหน้าโดยเฉพาะมาเฟียวินรถตู้ รถแท็กซี่ และรถจักยานยนต์รับจ้าง ที่เป็นปัญหาสะสมมานาน ปกติจะรับรู้กันวงในว่า การตั้งวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง การจัดคิวรถตู้วิ่งทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดนั้น ต้องมีเงินนอกระบบหรือที่เรียกว่าส่วย ใครก็ตามที่ดำเนินการเรื่องพวกนี้ได้ต้องมีเครื่องมือ ทั้งนักเลงหัวไม้ มาเฟียท้องถิ่น ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องรู้จักคนในเครื่องแบบ ที่ผ่านมาแม้จะมีนักเลงหรือมาเฟียมาตามเก็บเงินรถตู้ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถแท็กซี่ ที่เข้ามารับผู้โดยสารบางสถานที่ แต่เม็ดเงินเหล่านี้ไม่ได้เข้ากระเป๋าเพียงคนกลุ่มนี้เท่านั้น เงินส่วนใหญ่นั้นกลับเข้ากระเป๋ามาเฟียตัวจริงคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ถ้าตำรวจไม่ขยิบตามาเฟียเหล่านี้จะเข้ามามีอิทธิพลในพื้นที่ได้อย่างไร มาเฟียหรือนักเลงหัวไม้พวกนี้ส่วนใหญ่อยู่ในอาณัติของคนในเครื่องแบบทั้งนั้น
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องมีชุดหาข่าวหากต้องการแก้ปัญหาให้ตรงจุดและจริงจังลงทุกพื้นที่ที่เป็นย่านธุรกิจ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีต่างชาติเข้ามาใช้บริการ พื้นที่เหล่านี้ล้วนทำรายได้หลักเข้าประเทศ เศรษฐกิจบ้านเราขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเป็นลำดับต้นของรายได้ทั้งประเทศ การจัดระเบียบมาเฟียหรือนักเลงหัวไม้นั้นไม่ยาก เชื่อว่าทหารมีมาตรการที่ทำให้คนกลุ่มนี้ยำเกรง แต่มาเฟียในเครื่องแบบนั้นเป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะเจ้าหน้าที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ถือกฎหมายมีฤทธิ์มีเดช มีเพื่อนเป็นทหารด้วยซ้ำ นอกจากใช้กลุ่มอิทธิพลหาเงินแล้ว บางพื้นที่ยังเก็บเอง บางพื้นที่ก็ใช้นักเลงหัวไม้ เป็นอย่างนี้มานาน ถ้าช่วงไหนรัฐบาลหรือมีนโยบายระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งปราบปรามนักเลงก็จะใหญ่ขึ้นตามความเข้ม ห้วงเวลาไหนหัวหน้าหน่วยให้ท้ายหรือมีนโยบายหาเงิน นายตำรวจระดับโรงพักก็จะออกบินหรืออาละวาดเอง ใครไม่จ่ายก็ถูกจับบ้าง ถูกกลั่นแกล้งบ้าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรถตู้ วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง แม้แต่สถานบริการ ร้านค้า ร้านอาหารก็โดนกันทั่วหน้า
มาเฟียหรือนักเลงหัวไม้จึงมีอิทธิพลตราบจนปัจจุบัน เพราะมีคนในเครื่องแบบให้ท้ายจึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีผู้บังคับใช้อยู่เบื้องหลัง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไหนๆ จะคืนความสุขให้ประชาชนแล้ว ควรจะมีนโยบายการปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐที่ออกหาผลประโยชน์อย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้เป็นปัญหาของระบบส่วยตัวจริง เงินนอกระบบต่างๆ ล้วนผ่านมือเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น ขณะเดียวกันรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคิดจะปรับโครงสร้างของงานตำรวจก็ควรมีมาตรการลงโทษโจรในเครื่องแบบพวกนี้ด้วย ถ้าตำรวจไม่แสวงหาผลประโยชน์เสียอย่าง นักเลงที่ไหนจะกล้าเข้ามาข่มขู่เรียกเงินจากคนทำมาหากิน ข้อมูลการร้องเรียนพฤติกรรมในท้องที่ต่างๆ ควรถึงมือคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้วย ถ้ามั่วแต่คิดปราบมาเฟียตัวเล็กๆ พวกอยู่เบื้องหลังก็ไม่สะเทือน เมื่อกองทัพแรงตำรวจเหล่านี้ก็จะหยุด แต่มีบ้างพวกที่ไม่เกรงกลัว ยังแสดงอำนาจตลอดเวลา เมื่อบ้านเมืองกลับเข้ารูปเข้ารอย ปัญหาแบบนี้ก็จะวกกลับมาอีก เหมือนกับโรคร้ายที่ยังไม่ได้รับการรักษาให้หายขาด