ข่าว

'สุเทพ'ลั่นไม่เล่นการเมืองอีก!

'สุเทพ'ลั่นไม่เล่นการเมืองอีก!

16 มิ.ย. 2557

ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่ง 'สุเทพ' ร้องขยายเวลายื่นคำให้การสู้คดีบุก 'คลัง' ฟ้องเรียก 5.3 แสน ปิดหน่วยราชการ 28 ก.ค. ย้ำไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวการเมือง พร้อมทำงานภาคปชช.

 
                          16 มิ.ย. 57  เมื่อเวลา 09.30 น.  ที่ห้องพิจารณา 710 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก  ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขอขยายเวลายื่นคำให้การต่อสู้คดีหมายเลขดำ 4844/2556 ที่กระทรวงการคลัง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุเทพ เป็นจำเลย เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2556 เรื่องขับไล่ที่ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากการกระทำละเมิดที่บุกเข้าไปในพื้นที่กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และกรมบัญชีกลาง จำนวน 536,986.30 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และค่าเสียหายอีกเดือนละ 500,000 บาท หากพวกจำเลยไม่ออกจากพื้นที่ 
 
                          โดยวันนี้ นายสุเทพ ซึ่งแขนด้านขวายังใส่เฝือกจากการผ่าตัดรักษาเส้นเอ็น เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับทีมทนายความ เพื่อเข้าไต่สวน ขณะที่บรรยากาศในการไต่สวนนั้น นายสุเทพ ตอบการซักถามของอัยการที่รับผิดชอบฟ้องคดีให้กระทรวงการคลัง (โจทก์) ถึงเหตุผลที่ยังไม่ได้ยื่นคำให้การว่า ระหว่างที่มีการฟ้องคดี จำเลยยังยุ่งกับการดูแลการชุมนุม กปปส. ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ แต่จำเลยทราบเรื่องที่มีการฟ้องคดีเมื่อมีผู้แจ้งข่าวบอก แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่ามีการฟ้องคดีตั้งแต่เมื่อใด รวมทั้งจำเลยไม่ได้อ่านรายละเอียดที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับตีพิมพ์ข่าว เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2556 ที่ศาลแพ่งสั่งยกคำร้องของกระทรวงการคลังที่ขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวคดีนี้ ส่วนที่ปรากฏชื่อจำเลยเป็นเจ้าบ้านอยู่ที่ ต.ท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น มีชื่อตั้งแต่เป็นกำนัน ปัจจุบันไม่มีผู้ใดดูแลบ้านดังกล่าว ส่วนใหญ่จำเลยจะพักอาศัยอยู่ที่ กทม. 
 
                          ภายหลังไต่สวนนายสุเทพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้นายสุเทพ จำเลย ยื่นคำให้การคดีนี้หรือไม่ ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. 
 
                          ด้านนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ กล่าวว่า คดีนี้ กระทรวงการคลัง ยื่นฟ้องเมื่อช่วงสิ้นปี 2556 โดยมีการส่งหมายศาลแจ้งเรื่องการฟ้องเพื่อให้จำเลยได้ยื่นคำให้การไปยังบ้านที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อประมาณวันที่ 5 ม.ค. 2557 แต่ขณะนั้นนายสุเทพ อยู่พื้นที่การชุมนุม ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านดังกล่าวจึงยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งปกติเมื่อมีหมายศาลแจ้งและมีการรับหมายแล้ว ต้องยื่นคำให้การภายใน 30 วัน ไม่เกิน 5 ก.พ. 2557 ดังนั้นจึงทำให้เราต้องยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นคำให้การสู้คดีดังกล่าว 
 
                          ขณะที่นายสุเทพ กล่าวถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประสานให้ 2 ฝ่ายคู่ขัดแย้งร่วมปฏิรูปประเทศ ว่า หลังจากที่มี คสช. กลุ่มกปปส.ก็ได้หยุดเคลื่อนไหว เพื่อให้คสช.ดำเนินการต่างๆ ได้โดยสะดวก ซึ่งจะสังเกตได้ว่าช่วงนี้ตนไม่ได้พูดเรื่องการเมืองเลย หลังจากนี้อีกไม่นานคงมีธรรมนูญการปกครองชั่วคราว ที่ คสช.จะร่างขึ้นมา ทูลเกล้าฯ ก็จะได้รู้ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร โดยตนเข้าใจว่าธรรมนูญการปกครองชั่วคราว จะพูดถึงที่มาและองค์ประกอบของรัฐบาล สภาการปฏิรูปประเทศ และสภานิติบัญญัติ จะมีหน้าที่อย่างไร 
 
                          เมื่อถามว่า หาก คสช.ประสานให้เข้าปฏิรูปประเทศด้วย จะตัดสินใจอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราในฐานะประชาชนได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ ดังนั้น ถ้า คสช.ขอให้ช่วยเหลือ หรือขอความร่วมมือ เราก็พร้อม และคิดว่าประชาชนทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน ก็ควรให้ความร่วมมือ เพราะถือเป็นโอกาสของประเทศ 
 
                          นายสุเทพ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ตนจะสู้คดีที่ค้างอยู่จำนวนมาก และจะทำงานภาคประชาชน เพื่อช่วยประชาชน โดยไม่กลับไปเล่นการเมืองอีก ส่วนปัญหาสุขภาพขณะนี้ ยังต้องใช้เวลารับการรักษาเส้นเอ็นบริเวณที่มีการผ่าตัด โดยระหว่างนี้แพทย์ยังให้ใส่เฝือกอ่อนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และวันที่ 19 มิ.ย.นี้ แพทย์จะนัดดูอาการอีกครั้ง
 
                          นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. จะเข้าอุปสมบทที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ เพื่ออุทิศให้กับผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมของกลุ่มกปปส. ซึ่งระหว่างบวชจะเดินทางไปจำวัด ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ส่วนจะบวชนานเท่าใด ยังไม่ทราบ
 
                          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวช่วงที่มีการยื่นฟ้องคดี กระทรวงการคลัง ยังได้ยื่นขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวให้จำเลยและมวลชนออกจากกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่นในบริเวณใกล้เคียงด้วย แต่ศาลแพ่งมีคำสั่งวันที่ 27 พ.ย. 2556 ให้ยกคำร้อง โดยเห็นว่าเป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ที่จะดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าว ซึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าวนั้นได้รวมถึงอำนาจในการที่จะสั่งให้จำเลย และบริวาร ออกจากพื้นที่ที่พิพาทอยู่แล้วด้วย ทั้งการดำเนินการบังคับตาม พ.ร.บ.มั่นคงฯ ย่อมมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลดียิ่งกว่าการใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง