
ปิดคดีฆ่าเมียนายกสื่อใต้-ปมร้าวในครอบครัว
ปิดคดีฆ่าเมียนายกสื่อใต้-ปมร้าวในครอบครัว : ศูนย์ข่าวภาคใต้รายงาน
ในที่สุดคดีฆาตกรรม นางวันเพ็ญ รุ่งมณีสกุล "ภรรยา" นายไชยยงค์ รุ่งมณีสกุล อายุ 57 ปี หัวหน้าศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ในฐานะ "นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้" ก็สามารถปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสนใจของสังคมอย่างต่อเนื่อง
การจับกุมผู้ร่วมขบวนการสังหารครั้งนี้ เป็นเหมือนหมัดฮุกทำให้ประชาชนทั่วประเทศที่ติดตามข่าวถึงกับตั้งตัวไม่ติด เมื่อผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้บงการจ้างวานฆ่า กลับกลายเป็นคนใกล้ชิดในฐานะสามีของผู้ถูกสังหารนั่นเอง
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 บริเวณสวนยางพาราพื้นที่หมู่ 3 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา โดยคนร้ายใช้ปืนลูกซองสั้นยิงเข้าลำตัวนางวัญเพ็ญ 1 นัด และมีบาดแผลถูกแทงจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
น่าสนใจว่า ตั้งแต่เริ่มต้นคดีนี้ในทางสืบสวนถือว่า ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เฉกเช่นคดีฆาตกรรมอำพรางอื่นๆ มากนัก โดยหลังจากเกิดเหตุไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่สามารถปิดคดีและจับกุมผู้บงการ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องยกทีมได้อย่างง่ายดาย
ตลอดเวลาทีมสืบสวนสอบสวนยืนยันว่า คดีนี้มีเงื่อนงำมาก มีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะคำให้การของนายกสมาคมหนังสือพิมพ์ฯ ผู้นี้ คือกุญแจสำคัญก่อนสาวไปถึงผู้ร่วมขบวนการยกชุด
กระทั่งช่วงสายวันที่ 4 มิถุนายน ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา จึงเข้าควบคุมตัว นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สามีของเหยื่อซึ่งถือเป็นผู้มีชื่อเสียงในพื้นที่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา จ้างวานฆ่า จากการซัดทอดของผู้ต้องหา 3 คน คือ น.ส.ฑิฆัมพร ณ พัทลุง นายวิสรุต เพ็งจำรัส และนายพลวัฒน์ เพชรนวล ในข้อหาร่วมกันฆ่า โดยหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายไชยยงค์ ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยขอให้การในชั้นศาล พร้อมประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท ก่อนกลับมาร่วมงานฌาปนกิจศพภรรยาในวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เรื่องนี้ พ.ต.อ.วีระสัณห์ ธารเปี่ยม ผกก.สภ.สะเดา ยืนยันว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ผลการรายงานแพทย์ ผลชันสูตรพลิกศพ รวมไปถึงผลตรวจของกลางบางส่วน เสื้อผ้าที่ได้ในภายหลังก็จะนำไปประกอบผลตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานครบถ้วนมากที่สุด ทั้งนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งวัตถุพยาน ทั้งพยานบุคคลครบทั้งหมด
"มั่นใจในหลักฐาน ครั้งนี้ถือว่าละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนกันที่โรงแรมสยาม ในอำเภอหาดใหญ่ ก่อนว่าจ้างคนร้ายลงมือสังหารไปจนถึงวันลงมือ อยากบอกว่า หลักฐานเพียบ เป็นคดีจ้างวานฆ่าที่มีพยานหลักฐานมากที่สุด โอกาสดิ้นหลุดยากมากๆ เพราะเจ้าหน้าที่ตามได้หมดทุกขั้นตอน ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ต้องหาคิดว่า สิ่งที่ทำลงไปไม่มีอะไรที่จะเป็นพยานหลักฐาน แต่จริงๆ แล้วทุกจุดมีพยานหลักฐานหมด" ผกก.สภ.สะเดา ให้ข้อมูล
เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ. 9 ก็เชื่อมั่นว่า เบื้องหลังเบื้องลึกการก่อเหตุ น่าจะเกิดจากปัญหาภายในครอบครัว ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่นำเสนอในสื่อไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสังหารครั้งนี้
เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ล่าสุดเจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย พบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในพื้นที่หาดใหญ่รายหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับผู้ต้องหา แต่ขณะนี้ได้หลบออกจากพื้นที่ไปแล้ว ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับญาติรายหนึ่งของผู้ต้องหา ทำให้ตำรวจทราบข้อมูลที่สะท้อนถึงเกลียวแห่งความขัดแย้งในครอบครัวนี้มานานหลายสิบปีแล้ว โดยพบว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีปัญหาภายในครอบครัวเกิดขึ้นไม่น้อย แม้กระทั่งช่วงเวลานอนกลางคืน นางวันเพ็ญจะนำปืนพกประจำตัวไปซุกไว้ใต้หมอนเป็นประจำ คาดว่า อาจจะเพื่อระวังตัวเอง ทำให้น่าเชื่อได้ว่า น่าจะมีเหตุเคลือบแคลงใจบางประการ แต่ไม่วาย สุดท้ายก็ไม่รอด
ขณะญาติของนางวันเพ็ญ ซึ่งเดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร บอกทั้งน้ำตาว่า ต้องขอขอบคุณตำรวจที่สามารถปิดคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีหลักฐานชัดเจนทุกอย่าง ทำให้สบายใจขึ้นว่า พี่สาวจะไม่ตายฟรีแล้ว
"ทีแรกไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดความจริงก็ปรากฏขึ้นอย่างง่ายดาย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่จะไม่โทษใครอีก ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม" เขาระบุ
จากผลพวงของคดีที่สวิงกลับชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้คนในครอบครัวเกิดอาการ "ช็อก" เพราะไม่อยากเชื่อว่า เรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ ขณะที่ชาวบ้านที่มาร่วมพิธีศพต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปต่างๆ นานา เนื่องจากยังตกอยู่ในภวังค์แห่งความงงงันไม่น้อย !!
.............
(หมายเหตุ : ปิดคดีฆ่าเมียนายกสื่อใต้-ปมร้าวในครอบครัว : ศูนย์ข่าวภาคใต้รายงาน)