'โคลเซ'ขออีก2ประตูสู่ตำนานดาวยิงบอลโลก | คมชัดลึก

 

                          หากเอ่ยถึงชื่อของ มิโรสลาฟ โคลเซ กองหน้าจอมเก๋าทีมชาติเยอรมนีของ "อินทรีฟ้าขาว" ลาซิโอ ทีมดังแห่งศึกกัลโช ซีรีส์ เอ อิตาลี เชื่อได้เลยว่าแฟนบอลหลายๆ คนคงจะต้องนึกถึงนักเตะที่สามารถเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างโดดเด่นมาก หรืออาจจะนึกถึงผู้เล่นที่เคยใช้การ "ตีลังกา" เป็นท่าดีใจแบบเฉพาะตัวหลังส่งลูกฟุตบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายคู่แข่งได้สำเร็จ แม้ตอนนี้จะมีสภาพสังขารที่อยู่ในช่วงบั้นปลายของอาชีพค้าแข้ง เพราะมีอายุอานามมากถึง 35 ปีเลยทีเดียว ทว่าหัวหอกเจ้าเวหารายนี้ยังคงพร้อมเดินทางไปรับใช้บ้านเกิดในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-13 กรกฎาคมนี้ อย่างแน่นอน

 

                          เนื่องจาก "โยกี" โยอาคิม เลิฟ กุนซือ "อินทรีเหล็ก" ได้วางตัว โคลเซ ให้เป็นขุมกำลังสำคัญในแผนแดนหน้าเหมือนเช่นเคย แม้จะยังไม่มีการเปิดโผรายชื่อ 23 นักเตะที่จะได้สิทธิ์ไปโชว์ฝีเท้าในเกมรอบสุดท้ายบนดินแดนแซมบา แต่หนึ่งในนั้นคงจะต้องมีชื่อของกองหน้าจอมโหม่งรายนี้ที่เตรียมไปโชว์ฝีเท้าในเกมรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 4 ค่อนข้างแน่ หากไม่โชคร้ายโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานไปเสียก่อน หลังจากที่ทัพลูกหนังเมืองเบียร์ได้เรียกผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเข้ามาติดทีมเพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ส่วนอีกคนหนึ่งคือ เควิน โฟลลันด์ หัวหอกดาวรุ่งจากโฮฟเฟนไฮม์ ที่เพิ่งผ่านการรับใช้ทีมชาติบ้านเกิดเพียงนัดเดียว    

 

                          ด้วยเหตุนี้ โคลเซ จึงมีลุ้นจารึกชื่อของตัวเองให้เป็นดาวซัลโวสูงสุดของศึกฟุตบอลโลกได้เหมือนที่ตั้งใจเอาไว้ เพื่อที่จะได้ขึ้นแท่นเป็นเจ้าของสถิติ "ดาวยิงตลอดกาล" ในเกมฟาดแข้งรอบสุดท้ายนั่นเอง เพราะมีสถิติการยิงประตูเป็นรอง "โล้นทองคำ" โรนัลโด อดีตยอดกองหน้าทีมชาติบราซิลในช่วงปี 1994-2011 เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น จึงทำให้หัวหอกวัย 35 ปีรายนี้ยังคงมีโอกาสผงาดขึ้นไปเป็นตำนานดาวยิงของมหกรรมลูกหนังโลกได้ทุกเมื่อ หากสอยตาข่ายในศึกฟุตบอลโลก 2014 ได้สัก 2 ลูก หลังจากที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมนี ด้วยจำนวน 5 ประตู 

 

                          สำหรับ โคลเซ สามารถสอยตาข่ายในศึกฟุตบอลโลกจากการลงเล่นรอบสุดท้ายทั้งหมด 3 ครั้งได้มากถึง 14 ประตู โดยแบ่งออกเป็นลูกโหม่งทั้ง 5 ประตูในศึกฟุตบอลโลก 2002 และอีก 5 ลูกจากศึกฟุตบอลโลก 2006 รวมถึงอีก 4 ประตูจากศึกฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งเทียบเท่าสถิติของรุ่นพี่อย่าง "ไอ้ลูกระเบิด" แกร์ด มุลเลอร์ ตำนานดาวยิง "อินทรีเหล็ก" ในช่วงทศวรรษ 70 ที่เคยสอยตาข่ายจากการลงเล่นรอบสุดท้ายทั้งหมด 2 ครั้งในปี 1970 และ 1974 แต่ยังคงเป็นรองสถิติตลอดกาลของ โรนัลโด ดาวยิงระดับตำนานของทีมชาติบราซิลเพียงแค่ลูกเดียวเท่านั้น เนื่องจาก "โล้นทองคำ" ได้จัดการซัลโวประตูจากการที่เคยผ่านเกมรอบสุดท้ายมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้งในปี 1994, 1998, 2002, 2006 ได้มากถึง 15 ลูก แม้ในช่วงปี 1994 จะไม่ได้ลงสนามแม้แต่นัดเดียวก็ตาม

 

                          ก่อนหน้านี้ โคลเซ ตัดสินใจประกาศเลิก "ตีลังกา" ที่เคยเป็นท่าดีใจประจำตัวหลังที่ยิงประตูได้สำเร็จ เพราะไม่อยากเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บที่อาจได้รับจากการแสดงท่าดีใจที่เคยเป็นเหมือนเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อหวังรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์สำหรับการลงสนามรับใช้ทีมลูกหนังเมืองเบียร์ในศึกฟุตบอลโลก 2014 นั่นเอง เนื่องจากหัวหอกวัย 35 ปีรายนี้ได้ตั้งเป้าหวังที่จะจารึกชื่อของตัวเองให้เป็นเจ้าของตำแหน่งดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของมหกรรมลูกหนังโลกที่จะจัดขึ้นในช่วงทุกๆ 4 ปีนั่นเอง

 

                          แม้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศโปแลนด์ ก่อนที่ครอบครัวจะย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ประเทศเยอรมนีตั้งแต่เมื่อครั้งวัยเยาว์ ด้วยเหตุนี้ โคลเซ จึงเลือกที่จะลงสนามรับใช้ทัพลูกหนัง "อินทรีเหล็ก" มานานถึง 13 ปีแล้ว นับตั้งแต่เมื่อปี 2001 เป็นต้นมา แถมยังสามารถจารึกชื่อของตัวเองให้เป็นหนึ่งในยอดดาวยิงระดับตำนานของวงการลูกหนังโลกแห่งยุคปัจจุบันนี้ได้สำเร็จอีกด้วย

 

 

 

 

 

----------------------

 

('โคลเซ' ขออีก 2 ประตูสู่ตำนานดาวยิงบอลโลก : โดย...ลุงหวานเย็น)