ข่าว

'สุภรณ์'สาบานย่าโมเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต

'สุภรณ์'สาบานย่าโมเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต

30 พ.ค. 2557

หลังทหารปล่อยต้ว"สุภรณ์"หรือ"แรมโบ้อีสาน"ได้พาแม่สักการะย่าโมสาบานเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตยืนยันไม่ได้ติดต่อ"ทักษิณ"นานแล้ว ลั่นยุบ อพปช.ลาออกสมาชิกเพื่อไทย

 
 
          วันที่ 30 พ.ค.57 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำ นปช.และอดีตประธาน  อาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย หรือ อพปช.พร้อมแม่ เดินทางมาที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อกราบสักการะ และกล่าวคำปฏิญาณตนว่าจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต 
 
          นายสุภรณ์ กล่าวว่า ระหว่าถูกควบคุมตัว ทหารดูแลเป็นอย่างดี รวมทั้งได้ทำความเข้าใจในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ว่า เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างรุนแรง ตนเองในฐานะเป็นนักการเมืองเข้าใจดี และต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข ดังนั้น เมื่อได้รับการปล่อยตัว จึงตัดสินใจเลิกเล่นการเมืองและเลิกยุ่งการเมืองนับตั้งแต่นี้ไปตลอดชีวิต หลังจากนี้ขอให้ชื่อ “แรมโบ้อีสาน” เป็นตำนานทางการเมือง จะไม่ขอใช้ชื่อนี้อีกต่อไป ขอเป็นเพียง นายสุภรณ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทหาร  
 
          ส่วน พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ติดต่อนานแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยเดินทางไปหาที่ต่างประเทศ หรือมีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว เป็นแต่เพียงในนามพรรคการเมืองเท่านั้น หลังจากนี้ จะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และยุติบทบาททางการเมืองทุกกรณี หากใครแอบอ้างชื่อไปเคลื่อนไหวทางการเมือง  ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดได้ทันที 
 
          หลังจากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายสุภรณ์ เดินไปจับมือกับทหารนายหนึ่งที่ยืนรักษาความสบเรียบร้อยบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กล่าวขอบคุณทหาร และเดินทางกลับบ้านเกิดที่ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
 





ทหารปล่อย'สุภรณ์'แล้วลั่นเลิกเล่นการเมืองยุบ'อพปช.'
          เมื่อเวลา เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 พร้อมอาวุธครบมือได้นำตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” แกนนำ นปช. และเป็นประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) นั่งรถตู้สีขาวเดินทามาจาก จ.ขอนแก่น เพื่อนำมาปล่อยตัวที่บริเวณประตูทางเข้าหน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนายสุภรณ์ ได้ถูกเชิญเข้ารายงานตัวกับทางกองทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา และถูกควบคุมตัวอยู่ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง (แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นที่ใด) ก่อนถูกปล่อยตัวในช่วงค่ำของวันนี้ 29 พ.ค.ที่ผานมา รวมระยะเวลาถูกควบคุมตัวนาน 6 วัน
 
          การปล่อยตัวนายสุภรครั้งนี้มี นางสุ้น อัตถาวงศ์ อายุ 82 ปี มารดาของนายสุภร พร้อมด้วยนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ น้องชาย และญาติพี่น้องของนายสุภรณ์ ขับรถ 2 คันมารอรับตัวนายสุภรณ์ กลับบ้านที่ อ.ครบุรี ด้วย ทั้งนี้หลังถูกปล่อยตัวลงจากรถตู้ นายสุภรณ์ ได้ก้มลงกราบแทบเท้าของมารดา พร้อมกับหอมแก้มมารดาด้วยความคิดถึง และมีน้ำตาคลอเบ้า พูดเสียงสั่นเครือ
 
          นายสุภรณ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับการปล่อยตัว ขณะนี้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ อะไรที่เราจะทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ เราต้องให้ความร่วมมือ อะไรที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้สงครามกลางเกิดขึ้นเราควรจะหยุด ไม่ควรคิดที่จะไปให้คนไทยมาห่ำหั่นกันเองหรือมาปะทะกันเอง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ดีสำหรับประเทศไทย

          นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นประธาน อพปช. ตนได้สื่อสารไปยังพี่น้องสมาชิก อพปช.แล้วว่า ขอยุติบทบาทการเป็นประธาน อพปช. และขอยุบ อพชป. ที่ตนเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาทั้งหมด รวมทั้งขอวิงวอนให้พี่น้องสมาชิก อพปช.ได้ให้ความร่วมมือในการทำให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่ขบวนการที่จะได้มาซึ่งการเลือกตั้งในอนาคต สำคัญที่สุดอย่าใช้ความรุนแรง ใครไปใช้ความรุนแรง เอาชื่อ แรมโบ้ไปอ้าง เอา อพปช.ไปอ้าง ตนถือว่า เป็นความผิดส่วนตัว เพราะวันนี้ตนได้ยุบ อพปช. เรียบร้อยแล้ว และอย่าได้ใช้ชื่อนี้ไปแอบอ้างทำการใดๆ ในการก่อความไม่สงบ ความรุนแรง หรือสร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
 
          นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนอายุ 50 ปีแล้ว บทบาททางการเมืองของตน จะขอใช้เวลาที่เหลือไปดูแลครอบครัว ดูแลแม่ที่อายุ 82 ปีแล้ว และตนจะยุติบทบาททางการเมืองกว่า 30 ปีที่ผ่านมาของตนลงแต่เพียงเท่านี้ ขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ หรือมีกองกำลังอะไรก็ตาม ขอให้ยุติการเคลื่อนไหว หรือการใช้กองกำลัง และสำคัญที่สุดอย่าได้ใช้ตนไปอ้างชื่อทำให้เกิดความเสียหาย ใครใช้ชื่อแรมโบ้อีสานหรือ อพปช.ไปอ้าง ถ้าทำผิดกฎหมายต่อบ้านเมืองและถูกเจ้าหน้าที่จับไปดำเนินคดี ตนไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

          "ผมยุติบทบาททางการเมือง ผมขอเวลาที่เหลืออยู่นี้เอาเวลามาดูแลคุณแม่และครอบครัว เพราะผมไม่เคยมีเวลาให้คุณแม่และครอบครัวมากนัก ดังนั้นผมจะขอยุติบทบาทางการเมือง ประกาศชัดเจน และต่อจากนี้ขอทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี เป็นพ่อที่ดีให้กับลูกและครอบครัว รวมทั้งจะทำหน้าที่ในการเป็นสามัญชนประชาชนธรรมดาในการประกอบอาชีพโดยสุจริต โดยไม่คิดก้าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองอีกต่อไป รวมทั้งผมยังต้องลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย ผมคิดว่าที่ผ่านมาการเมือง 30 ปี ตั้งแต่สมัยอาจารย์หม่อมราชวงศ์ศึกฤทธิ์ ทำให้ผมเห็นว่า หากการเข้าไปเล่นการเมืองแล้วทำให้เกิดความไม่สามัคคีปรองดองกัน ขัดแย้งกัน สร้างความแตกแยก ต่างฝ่ายต่างไม่มีข้อยุติ และเกิดปัญหาวุ่นวายในบ้านเมือง ผมว่าหยุดเล่นดีกว่า เพราะเล่นการเมืองไปไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นี่คือข้อเท็จจริง และที่ 30 พ.ค. เวลา 10.00 น. ผมจะไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) โดยจะประกาศต่อหน้าย่าโมขอยุติบทบาททางการเมืองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" นายสุภรณ์ กล่าว