
'ประยุทธ์'สั่ง!เลิกเคอร์ฟิวเมืองท่องเที่ยว
'ประยุทธ์'สั่ง!หน่วยงานความมั่นคงเศรษฐกิจ ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ในเมืองท่องเที่ยว หากไม่พบปัญหาพร้อมประกาศเลิกเคอร์ฟิวบางพื้นที่เพื่อสร้างบรรยากาศท่องเที่ยว
28พ.ค.2557 พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ได้ได้รับทราบปัญหาความไม่สะดวกและผลกระทบที่เกิดกับประชาชนและภาคธุรกิจจากการประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด (เคอร์ฟิว) ซี่งทำให้ร้านอาหาร สถานบันเทิงและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวสูญเสียรายได้ โดยในขณะนี้ได้สั่งการให้คณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจและความมั่นคงทำงานร่วมกันในการประเมินสถานการณ์และความสงบเรียบร้อยในจังหวัดหรือพื้นที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาในประเทศไทย เช่น จังหวัดภูเก็ต และพัทยา หากไม่มีการชุมนุมประท้วงและไม่มีความเคลื่อนไหวของมวลชนที่ออกมาต่อต้านอาจมีการประกาศยกเลิกการสั่ง เพื่อสร้างบรรยบากาศการท่องเที่ยวในบางพื้นที่ให้ดีขึ้น
เขากล่าวด้วยว่าเมื่อเร็วนี้กระทรวงการท่องเที่ยวกีฬาได้รายงานว่าแม้ในช่วงที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยลดลงแต่บางส่วนที่เดินทางมาในประเทศไทยแล้ว เช่นนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปยังพัทยาประมาณ 4000 คน ไม่ได้เดินทางกลับประเทศตามคำแนะนำของทางการจีนแต่อย่างไร เนื่องจากนักท่องเที่ยวเห็นว่าเหตุการณ์ทั่วไปไม่มีความรุนแรงและไม่มีอันตรายในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวฯคาดหวังให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับไปประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศไทยด้วย
“ขณะนี้มีหน่วยงานที่จะออกไปประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ หากมีความสงบสถานการณ์เป็นปกติอาจมีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวเป็นรายพื้นที่ได้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้”พ.อ.ณัฐวัฒน์กล่าว
ยันการสรรหาที่ปรึกษามาจากดุลยพินิจ
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคสช. กล่าวถึง 10 รายชื่อที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อที่ปรึกษาของหัวหน้าคสช. พ.อ.วินทัย กล่าวว่า การคัดเลือกที่ปรึกษาคสช.นั้นพล.อ.ประยุทธ์ คัดเลือกจากดุลยพินิจส่วนตัวเพื่อที่จะให้แต่ละให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ที่สำคัญ โดยเสนอความเห็นผ่านทางสำนักเลขาธิการคสช. เพื่อเสนอหัวหน้าคสช.ต่อไป อย่างไรก็ตามรายชื่อทั้ง 10 คนที่ปรากฎนั้นตนเห็นมาจากสื่อ
ขอปปช.รวมตัวให้กำลังใจทหารอย่าเกิน5คน
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคสช. แถลงกรณีประกาศเคอร์ฟิวส์ที่คสช.ได้ขยายเวลาให้ข้อกำหนดเรื่องเวลาจาก 22.00-05.00น. เป็น 00.01-04.00น. ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป ว่า เป็นส่วนหนึ่งและพัฒนาตามความเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดกับประชาชน ร้านอาหาร ผู้ประกอบการ ตลาดสด ที่ใช้เวลาในการขนส่งช่วงเช้ามืด จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากสงบและเรียบร้อยจริงคสช.จะผ่อนปรนเพิ่มเติมเป็นระยะ
พ.อ.วินธัย กล่าวด้วยว่า ช่วงเวลานี้คสช.มีมาตรการห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ฉะนั้นอาจจะมีกลุ่มประชาชนประสงค์ดีให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ มอบสิ่งของและยื่นหนังสือ คสช.จึงขอความร่วมมือไม่อยากให้มีจำนวนคนเกินกว่าข้อกำหนดไว้ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องพยายามรักษากติกาให้เกิดความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามก็ขอขอบคุณที่มีความปรารถนาดีต่อเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นทีมโฆษกคสช.ได้เปิดภาพวิดีโอซึ่งเป็นภาพความเป็นอยู่ของบุคคลต่างๆที่ถูกควบคุมตัว อาทิ แกนนำนปช. ได้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รวมทั้งนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งในภาพที่ปรากฏเป็นการถ่ายในบ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยสถานที่ ในห้องมีเครื่องปรับอากาศ มีเตียงนอน มีโทรทัศน์ให้ชม และทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม
โดยพ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกคสช. กล่าวบรรยายตามภาพ ระบุว่า ตามที่ทุกท่านได้ทราบว่าคสช.ให้บุคคลมารายงานตัวและควบคุมในสถานที่ที่กำหนดให้ มีคนถามว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร โดยเมื่อวันที่ 27พ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.พลาวุฒิ กลับเจริญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้เดินทางไปเยี่ยมและพูดคุยพร้อมกับเก็บภาพมาฝาก ซึ่งอยู่สุขสบาย โดยนายจตุพรอยู่อย่างสุขสบายและมีการปรับทัศนะคติกัน ยืนยันอีกครั้งว่าคสช.ดูแลทุกท่านตามอัตภาพ ไม่มีการทำร้าย พันธนาการ และอีกเรื่องที่พล.ต.อ.ประชา ที่มีการรายงานตัวว่าคสช.รวบตัวที่สนามบิน แต่ท่านบอกว่าท่านทราบอยู่แล้วว่าต้องมา แต่อยู่ที่ต่างประเทศ เมื่อท่านเดินทางถึงสนามบินอุดรธานีก็นั่งเครื่องกลับมาที่กทม. เราจึงไปเชิญตัวท่านมาตามเวลาที่กำหนดโดยไม่มีการรวบตัวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงายว่าเหตุที่มีการชี้แจงถึงกรณีการเข้ามอบตัวของพล.ต.อ.ประชา นั้นเนื่องจากพล.ต.อ.ประชา ได้มีการประสานเข้ามายังคสช. เพื่อชี้แจงให้สังคมเข้าใจว่าไม่ได้ถูกควบคุมตัวแต่เป็นการเข้ารายงานตัว
ขณะที่พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า ตัวเลขผู้ที่ถูกเรียกตามประกาศของคสช.นั้นล่าสุด ณ วันที่ 27 พ.ค.มีอยู่ 253 คน จำนวนนี้รวมผู้เข้าเจรจา 7 ฝ่ายในวันที่ 22 พ.ค. โดยมีผู้มารายงานตัวและเข้าสู่กระบวนการต่างๆ 200 คน ปล่อยตัวไปแล้ว 124 คน และมีผู้ยังไม่มารายงานตัวอีก 53 คน อย่างไรก็ตามสำหรับบุคคลที่แสดงให้เห็นว่าขัดขืนจริงๆนั้น บางส่วนได้มีมาตราการดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ที่ถูกระงับธุรกรรมทางการเงินนั่นแสดงให้เห็นว่าเราเริ่มดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ซึ่งมี 4 คน ประกอบด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ และ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่สงสัยว่าการปล่อยตัวดำเนินการอย่างไร ติดตามอย่างไร เรียนว่าบุคคลที่ปล่อยตัวแล้วมีการลงนามในหนังสือว่าท่านได้รับการปล่อยตัวจริง มีการลงนาม มีการบันทึกที่อยู่ว่าท่านจะพำนักที่ไหนเพื่อการประสานงาน และเป็นข้อตกลงและความเข้าใจร่วมกันว่าขอให้งดการแสดงความคิดเห็นที่ทำให้เกิดความสับสนในสังคมหรือการยุยงปลุกระดม และหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศต้องแจ้งคสช.ให้รับทราบด้วย
"ทุกคนระหว่างที่อยู่กับคสช.ทุกท่านให้ความร่วมมืออย่างดี ท่านได้เสนอแนะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาบานเมือง หากเราเข้าสู่กระบวนการสมานฉันท์ปรองดองตามที่หัวหน้าคสช.มอบหมาย กลุ่มบุคคลนี้จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างตามที่มีการตั้งศูนย์ฯขึ้น"พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และแกนนำคนอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัว ตั้งแต่ 22 พ.ค. ซึ่งครบกำหนดการคุมตัวตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ไม่เกิน 7 วัน ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคสช. ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ นั้นจะต้องปล่อยตัวภายใน 7 วัน นอกจากมีกรณีถูกดำเนินคดีอื่นๆ ซึ่งจะไม่ได้อย่ในเงื่อนไขการควบคุมตามกฎอัยการศึกแต่จะไปอยู่ในฐานความผิดอื่นๆ สำหรับผู้ที่ไม่ว่าจะเคยถูกเรียกหรือไม่เคย ถ้ามีพฤติกรรมที่จะนำไปสู่ความไม่สงบ เช่น ปลุกระดม ยุยงทั้งในทางลับ และเปิดเผย เมื่อมีหลักฐานก็จำเป็นต้องขอให้เข้ารายงานตัว
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการปิดกั้นเส้นทางทางอิเลคทรอนิกส์ที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งเพื่อไม่ให้ไปสู่สาธารณะ โดยมีการปิดเว็บไซต์ไปแล้วกว่า 100 เว็บ และถ้าหากสืบทราบไปถึงบุคคลก็ถือว่ามีความผิดด้วย นอกจากนี้ยังมีการจับตาการแสดงความคิดเห็นทางโซเชียลมีเดียของบุคคลที่อยู่ต่างประเทศที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของก็มีคณะทำงานติดตามอยู่และอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อถามว่าจะมีบล็อกทวิตเตอร์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการทวิตภายหลังจากมีการรัฐประหาร หรือไม่ พ.อ.วินทัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบถึงการทวิตเตอร์ของพ.ต.ท.ทักษิณ