
ทหารบุกค้นหอพักยึดอาวุธสงครามอื้อ
ทหารบุกค้นหอพักยึดอาวุธสงครามอื้อ สาวเจ้าของห้องอ้างมีไว้ป้องกันตัว ส่วนบัตร นปช.เป็นของเพื่อน จับอีกอาวุธสงครามที่ลพบุรีเตรียมป่วนกรุง
เมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 21 พ.ค.2557 กำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นห้องพักของ น.ส.จันทนา วรากรสกุลกิจ ในหอพักแห่งหนึ่ง ซ.สวนหลวง ถนนสวนหลวง เขตกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบอาวุธสงครามพร้อมกระสุนหลายรายการ ดังนี้ 1.ปืนเอเค 47 (พับฐาน) 1 กระบอก พร้อมกระสุน 777 นัด 2.ปืนไรเฟิล 1 กระบอก พร้อมกล้องส่อง และกระสุนในซองพร้อมยิง 38 นัด 3.เครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกยิงระยะไกล (ลย.) ขนาด 40 มม. จำนวน 9 ลูก 4.ปืนเอ็มพี 1 กระบอก พร้อมกระสุน 48 นัด 5.ปืนคาร์บิน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 154 นัด 6.ปืนเอ็ม 4 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 275 นัด และที่เก็บเสียง 7.ปืนพกสั้น (ดาวแดง) 1 กระบอก พร้อมกระสุน 8.วิทยุไอคอม 1 เครื่อง 9.ระเบิดแสวงเครื่อง (ยังไม่ใส่ดินปืน) จำนวน 8 ลูก
10.ระเบิดขว้าง 3 ลูก (ชนิด RDG5, เอ็ม 26, เอ็ม 67) 11.ดินระเบิด 120 ขวด 12.มีดสั้น 1 เล่ม คัตเตอร์ 1 เล่ม 13.กล้องถ่ายรูป 3 เครื่อง 14.ไฟฉาย 15.สายไฟ 1 มัด 16.เกราะอ่อน 1 ตัว 17.ตะปูเกลียว-ลวดพร้อมทำระเบิดแสวงเครื่อง 18.กระสุนขนาด .38 จำนวน 1 กล่อง นอกจากนี้พบบัตรเจ้าหน้าที่ นปช. "รวมพลคนประชาธิปไตย" และบัตรการ์ด นปช.หมายเลข 3084
เจ้าหน้าที่สอบสวน น.ส.จันทนา เจ้าของห้องพัก ให้การยอมรับว่า เป็นเจ้าของอาวุธสงครามพร้อมกระสุนของกลางทั้งหมด และกระทำคนเดียว โดยอ้างว่าเอาไว้เพื่อป้องกันตัว ส่วนบัตร นปช.เป็นของเพื่อน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลต่อไป
คุมตัว"เลิศ ไม้เก่า"แดงสองแคว
มีรายงานข่าวจากฝ่ายมั่นคงเปิดเผยว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 1 ชุดปฏิบัติการจากกองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าควบคุมตัวนายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ "เลิศ ไม้เก่า" แกนนำเสื้อแดง กลุ่ม นปช.พิษณุโลก บริเวณถนนแห่งหนึ่งในเขตรอยต่อ อ.เมือง-อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ขณะขับรถกระบะพร้อมลูกน้อง และหญิงสาวอีก 1 ราย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ประกาศกฎอัยการศึกเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยจับกุมตามข้อหายั่วยุก่อให้เกิดความไม่สงบ ประกอบกับมีหมายจับเกี่ยวข้องกับคดีฆ่านักศึกษารามคำแหง จากเหตุปะทะเมื่อช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2556 ก่อนนำตัวไปที่เซฟเฮ้าส์ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก
บุกค้นลพบุรียึดอาวุธสงครามเพียบ
เจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นยึดของกลางอาวุธสงครามได้จำนวนมาก โดย พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ภ.จ.ลพบุรี เปิดเผยว่า ตามที่มีการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ทางตำรวจลพบุรีสนธิกำลังทหาร กอ.รมน.ปฏิบัติการภายใต้อำนาจของกฎอัยการศึก เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ ต.ชอนสารเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี พร้อมจับกุมนายเชาวร์วัฒน์ ทองเผือก อายุ 54 ปี อดีตทหารพราน ทำหน้าที่การ์ดเสื้อแดง ได้ที่บ้านเลขที่103 หมู่ 8 ต.ชอนสารเดช พร้อมของกลาง อาวุธปืนยาวเอเค หรืออาก้า 1 กระบอก พร้อมกระสุน เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 จำนวน 800 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มม. 156 นัด เครื่องกระสุนปืนเอเค 47 จำนวน 88 นัด เครื่องกระสุนปืนคาร์บิน จำนวน 60 นัด
นอกจากนี้มีวัตถุระเบิดเอ็ม 18 เอ 1 จำนวน 1 ลูก เครื่องวัตถุระเบิด ทีเอ็นที น้ำหนัก 1 ปอนด์ พลุพวงกลม 11 ลูก วัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมบ์ทำด้วยโลหะ 3 ลูก วัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมบ์ กล่องเหล็ก 1 ลูก และวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมบ์ พลาสติก 5 ลูก และลูกระเบิดขว้างซ้อม 1 ลูก โดยอาวุธสงครามทั้งหมดถูกนำไปซุกซ่อนไว้ที่ไร่ข้าวโพดอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 500 เมตร
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ทำการจัดหาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดตามรายการที่ถูกยึดเป็นของกลาง โดยได้รับว่าจ้างจากสองสามีภรรยา ทราบชื่อว่า นางเอ (นามสมมุติ) และ นายบี (นามสมมุติ) เพื่อนำไปก่อเหตุความวุ่นวายในที่ชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุระเบิด เครื่องยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเจ้าหน้าที่จะขยายผลเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ว่าจ้างและผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป
กองทัพย้ำเพบมีกองกำลังทั้งเปิดเผย-ลับ
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงถึงการตรวจสอบจับกุมอาวุธสงครามว่า เหตุที่ต้องประกาศกฎอัยการศึก เพราะมองเห็นว่าความขัดแย้งอยู่ในพื้นที่ กทม. แต่ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ทั้งการจับกุมและการตรวจพบการเคลื่อนไหวในลักษณะของการใช้สื่อมีการรวมกันลักษณะของกองกำลังทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประวัติการจับกุมที่ จ.นครนายก จะเห็นความเคลื่อนไหวของเรื่องต่างๆ เหล่านี้
ส่วนการดำเนินคดีกลุ่มคนที่มีอาวุธสงครามภายใต้กฎอัยการศึก ทางเจ้าหน้าที่ตามปกติยังสามารถดำเนินการได้ เช่น ตำรวจท้องที่ หรือตำรวจภูธร ก็ยังทำงานได้ตามปกติ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ผบ.ทบ.ว่าจะรับคดีใดมาดำเนินการเอง ส่วนที่จับกุมอาวุธสงครามได้ที่ จ.ลพบุรี ตรงนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและตัดสินใจว่าจะใช้ช่องทางใด
รองโฆษกกองทัพบก ยังกล่าวถึงการจับกุมอาวุธสงครามที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก มีความเกี่ยวพันกับการก่อเหตุป่วนในพื้นที่ กทม.หรือไม่ ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีอาวุธสงครามปรากฏให้เห็นเหมือนกับในพื้นที่ กทม. แต่ในพื้นที่ กทม.จะหนักกว่า เพราะไม่ได้ปรากฏให้เห็นเพียงอย่างเดียว แต่มีการใช้อาวุธสงครามกับประชาชน ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาการชุมนุมที่ผ่านมามีการใช้อาวุธสงครามมาโดยตลอด