ข่าว

พลิก"ห้วยเขย่ง"สู่ท่องเที่ยวยั่งยืนผลสำเร็จขยายผล"โครงการหลวง"

พลิก"ห้วยเขย่ง"สู่ท่องเที่ยวยั่งยืนผลสำเร็จขยายผล"โครงการหลวง"

28 มิ.ย. 2552

ผลจากการประชุมคณะทำงานโครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่ง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกับร่างแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศใน ต.ห้วยเขย่ง โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ซึ่งได้รับมอบหมายจากมูลนิธิโครงการหลวงเป

 "ท่องโลกเกษตร" อาทิตย์นี้จะพาไปสัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าตะวันตกในท้องที่ ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมวิถีชีวิตของคนที่นั่น โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน) ร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดทริปพิเศษให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ไปสัมผัส เนื่องในโอกาสที่เปิดตัวโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืนอย่างเป็นทางการ

  ทัศนีย์ ศรีมงคล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนา สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) กล่าวในระหว่างการจัดเวทีชุมชนของตำบล เผยว่า โครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2548 หลังจากที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ขอความร่วมมือมายังมูลนิธิโครงการหลวงเข้าไปดำเนินการส่งเสริมอาชีพแก่ชาวบ้านในตำบล จากนั้นมูลนิธิโครงการหลวงโดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิ ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) เข้ามาดำเนินการ โดยตั้งเป็นโครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่งขึ้นเมื่อปี 2549 โดยมีผู้ว่าฯกาญจนบุรี เป็นประธานคณะกรรมการระดับจังหวัด

 "ปัจจุบันโครงการหลวงมีทั้งสิ้น 38 แห่งทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภาคเหนือ มีจำนวนแค่นี้แหละจะไม่เพิ่มแล้ว แต่เราจะทำเป็นโครงการขยายผลโครงการหลวงแทน ถ้าพื้นที่ไหนต้องการหรือเราพิจารณาดูแล้วว่ามีความเป็นไปได้ อย่างเช่นที่ห้วยเขย่งก็เป็นอีกแห่งที่เราเข้ามาดำเนินการขยายผลโครงการหลวง"

 ทัศนีย์ชี้ให้เห็นถึงที่มาของโครงการ ก่อนจะมีการพัฒนามาเป็นโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างครบวงจรในปัจจุบันนี้ โดยโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแบบครบวงจร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ที่พอเพียง สร้างชุมชนเข้มแข็ง มีสภาพแวดล้อมที่ดีและยั่งยืน ภายใต้กรอบการพัฒนา 3 ด้านคือ สร้างรายได้ สร้างสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงทางสังคม

 ผู้อำนวยการคนเดิมเผยอีกว่า โครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่งนั้นได้ปฏิบัติงานครอบคลุมพื้นที่ทั้งตำบล 8 หมู่บ้าน ปัจจุบันมีสมาชิกในโครงการจำนวน 3,102 ครอบครัว รวม 5,672 คน มีภารกิจในการส่งเสริมงานวิจัย โครงการทดสอบและสาธิตเทคโนโลยีจากโครงการหลวง งานพัฒนาอาชีพ งานพัฒนาสังคม และการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้โครงการหลวง

  "อย่างงานวิจัยที่เรากำลังทำอยู่เช่นการทดสอบการเพิ่มผลผลิตข้าวนา ข้าวไร่และพริกกะเหรี่ยง การส่งเสริมปลูกผักอินทรีย์ ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ อาทิ เยอบีร่า เบญจมาศ ดอกหน้าวัว ซึ่งอยู่ในระหว่างการทดสอบปลูกนอกฤดูกาล ส่วนการพัฒนาอาชีพก็มีการรวมกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์จากหญ้าแฝก กลุ่มผลิตภัณฑ์จักรสานจากไม้ไผ่ กลุ่มจัดการท่องเที่ยว การสาธิตผลิตปุ๋ยจากไส้เดือนดิน การสาธิตปลูกผักอินทรีย์ในโรงเรือนและกลางแจ้ง จัดตั้งศูนย์รวบรวมผลไม้พันธุ์ดีเช่นน้อยหน่าเพชรปากช่อง อะโวคาโดและเสาวรส เป็นต้น" ทัศนีย์เผย

  ด้าน เรวัตร เพิ่มพงศาเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี หนึ่งในหน่วยงานแนวร่วมที่สำคัญในการเข้ามาดูแลส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ กล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของตำบลว่า มีอยู่หลายแห่ง แต่ที่ถือเป็นไฮไลท์ก็คือการดูปูราชินี ที่บ้านท่ามะเดื่อ หมู่ 1 ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตสวนป่าทองผาภูมิ เป็นป่าพุน้ำจืดแหล่งที่อยู่ของปูราชินีใหญ่ที่สุดในปัจจุบันและยังเป็นสิ่งมหัศจรรย์ หนึ่งในสามของตำบล ได้แก่ปูราชินี ค้างคาวคุณกิตติ และต้นไม้ยักษ์ นอกจากนี้ยังมีสุสานหอยทะเล 280 ล้านปี ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเที่ยวชม

 "ห้วยเขย่ง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ที่ ททท.สำนักงานกาญจนบุรีบรรจุไว้ในแผนการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เหมาะสำหรับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นอย่างมาก" เรวัตรเผย

 เรวัตรยังระบุด้วยว่า ปูราชินี สิ่งมหัศจรรย์ของห้วยเขย่งนั้นค้นพบโดย นายสุพล ดวงพล เมื่อปี 2526 ที่บ้านน้ำโจน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ต่อมาได้รับการตั้งชื่อโดย ศ.ไพบูลย์ นัยเนตร ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา

 ลักษณะเด่นของปูชนิดนี้เป็นปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงามมาก ขามีสีแดง โคนขากล้ามหนีบ ขอบกระดองสีขาว ส่วนกลางกระดองมีสีน้ำเงิน กระดองยาวประมาณ 5-7 เซนติเมตร ชาวบ้านมักเรียกว่าปูสามสี หรือปูป่า อาศัยอยู่ในรู ฤดูหนาวจะปิดปากรู ส่วนฤดูฝนจะเปิดปากรูหาอาหารที่เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เช่น หอยปลา ไส้เดือน จะผสมพันธุ์และออกลูกในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี มีพบแห่งเดียวในโลกบริเวณริมห้วยและพื้นที่พุในเขตพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และไทรโยค จ.กาญจนบุรีเท่านั้น

 นี่เป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืนในโครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่อยากให้ผู้สนใจได้มาเยือน สอบถามรายละเอียดได้ที่ททท.กาญจนบุรี โทร.0-3451-1200 ทุกวันในเวลาราชการ

สุรัตน์ อัตตะ