ข่าว

เจ้าของโรงสีลำพูนแจงรถบรรทุกข้าวเปลือกถูกจับ

เจ้าของโรงสีลำพูนแจงรถบรรทุกข้าวเปลือกถูกจับ

21 พ.ค. 2557

เจ้าของโรงสีลำพูนแจงรถบรรทุกข้าวเปลือกถูกจับ

               จากกรณีที่เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงลำพูน ตั้งด่านตรวจร จับรถบรรทุกข้าวเปลือกเหนียวสันป่าตองได้ 2 คัน ตรวจสอบผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขนย้าย โดยภายหลัง ตำรวจให้ประกันตัว 2 ผู้ต้องหาเท่านั้น

               ล่าสุด เมื่อวันที่ 19. พค.2557 ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ โตนิติวงศ์ เจ้าของโรงสีศิริภิญโญ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มนัสไรซ์ เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลาง ฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ, อธิบดีกรมการค้าภายใน เลขาธิการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

               พร้อมระบุว่า ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล แต่ขณะนี้ไม่มีโครงการเเล้ว โรงสีศิริภิญโญ รับซื้อข้าวเปลือกเหนียวจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ระยะเวลา12 ปี และนาปรังปีนี้เริ่มรับซื้อตั้งแต่ 18 เม.ย. 2557 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านท่าข้าว นครกิตการเกษตร อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

               วันที่ 11 พ.ค. 2557 รถบรรทุกที่โรงสีว่าจ้างให้บรรทุกข้าวเปลือกจากท่าข้าว นครกิตการเกษตร ถูกตำรวจทางหลวงลำพูนจับกุม ทางโรงสีได้ให้ท่าข้าวนครกิตการเกษตร ดำเนินการขอใบอนุญาตขนย้ายข้าวเปลือกหรือข้าวสาร ก่อนนำส่งให้ สภ.ป่าซาง แต่ตำรวจไม่รับพิจารณา ปล่อยรถบรรทุกข้าวเปลือกทั้ง 2 คัน

               โดยต่อมา ตนได้โอนเงินให้นางศรีพรรณ เตชะพันธุ์ ไปประกันตัวคนขับ และข้าวเปลือกรวม เป็นเงิน 250,000 บาท แต่ไม่มีเงินประกันรถบรรทุก ซึ่งรถบรรทุกข้าวเปลือก ยังไม่ได้นำข้าวเปลือกไปลง ข้าวเปลือกเหนียวสด มีความชื้นเเละจะเสื่อมคุณภาพต่อไป

               ทั้งนี้ ได้ยื่นขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิมคุ้มครองชั่วคราว ให้ตำรวจสถานีภูธรป่าซาง จังหวัดลำพูน ปล่อยรถบรรทุก 2 คัน โดยไม่ต้องค้ำประกันรถ

               พร้อมขอให้ศาลปกครองพิจารณายกเลิกประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการขออนุญาต การอนุญาต แบบหนังสืออนุญาต และวิธีการขนย้ายข้าวเปลือก ข้าวสาร ปี 2557 เเละยังเรียกร้องค่าเสียหาย โดยให้ทางกระทรวงพาณิชย์รับซื้อข้าวเปลือกที่เสื่อมสภาพนี้ในราคาต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง