
อคส.ชงรัฐเร่งทบทวนประมูลข้าว"พงษ์ลาภ"ถอยแจ้งยกเลิกสัญญา
อคส.เผยผู้ชนะประมูลข้าวยอมยกเลิกสัญญาแค่ 3 แสนตัน ที่เหลืออีก 1.5 ล้านตันยังไร้ทางออก จี้รัฐเร่งทบทวนนโยบายประมูลข้าว หวั่นถูกเอกชนฟ้องร้องขอชดเชยค่าเสียหาย ด้าน "พงษ์ลาภ" ถอยซื้อข้าวรัฐแจ้งยกเลิกสัญญาแล้ว
นายยงยศ ปาละนิติเสนา รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งสรุปรายงานความเสียหายของผู้ชนะประมูลข้าวของรัฐบาลให้แก่นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว เพื่อเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป โดยผู้ส่งออกขอให้มีการทบทวนและกำหนดนโยบายให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งล่าช้าจะทำให้ผู้ส่งออกได้รับความเสียหายมากขึ้น และมีโอกาสที่ อคส.จะถูกฟ้องหากมีการผิดสัญญาหรือยกเลิกสัญญา
“ทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้คือการทบทวนใหม่ อคส.ก็อยากให้มีการตัดสินใจทางใดทางหนึ่ง เพราะตามสัญญาไม่มีจุดไหนที่จะยกเลิกสัญญากับผู้ส่งออกได้ หาก อคส.โดนฟ้องร้องจริงก็คงจะตั้งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาคดี” นายยงยศกล่าวและว่า จากการทำสัญญาจำหน่ายข้าวให้ผู้ส่งออก 17 ราย ปริมาณ 1.95 ล้านตัน มูลค่า 2.76 หมื่นล้านบาท ขณะนี้มีเพียง 3 แสนตันเท่านั้นที่ผู้ส่งออกสละสิทธิ์และยอมยกเลิกสัญญา ส่วนที่ยังไม่ยินยอมอีก 1.5 ล้านตัน มีการชำระเงินแล้ว 9.65 หมื่นตัน ส่งมอบแล้ว 3.77 หมื่นตัน เหลืออีก 5.88 หมื่นตันที่ยังไม่ส่งมอบ ส่วนข้าวที่ผู้ส่งออกทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับลูกค้าไว้มีตัวเลขไม่ชัดเจน เพราะผู้ส่งออกบางรายไม่ระบุเนื่องจากเป็นความลับทางธุรกิจ
ด้านนายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทนายของบริษัท ทำหนังสือถึง อคส.แจ้งขอยกเลิกสัญญาซื้อข้าวที่บริษัททำไว้ และจะขอคืนเงินค้ำประกัน 5% ของมูลค่าข้าว ที่ชนะการประมูลซึ่งยังไม่ได้รับมอบ รวมทั้งในส่วนที่ชำระเงินแล้ว แต่ได้รับข้าวไม่ครบตามจำนวน เนื่องจากถูก อคส.ชะลอส่งมอบโดยจะไม่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับ อคส. ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะชี้แจงให้ผู้ซื้อต่างประเทศทราบถึงสาเหตุที่ไม่สามารถส่งมอบข้าวตามคำสั่งซื้อได้บางส่วน โดยยอมรับว่าอาจถูกผู้ซื้อเรียกค่าเสียหาย และทำให้ภาพลักษณ์ของการส่งออกข้าวไทยได้รับผลกระทบ แต่จำเป็นต้องดำเนินการทันที เนื่องจากปัญหาสัญญาซื้อข้าวจากรัฐครั้งนี้ ล่าช้ามานานมากกว่า 1 เดือนแล้วจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ