
นักประดาน้ำเสี่ยงตาย...เราไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง
นักประดาน้ำเสี่ยงตาย...เราไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง : โต๊ะต่างประเทศรายงาน
นักประดาน้ำจากทั้งกองทัพเรือ หน่วยยามฝั่งและที่เป็นอาสาสมัครพลเรือนกว่า 500 คนในเกาหลีใต้ ทำงานแข่งกับเวลาตลอดหลายวันมานี้เพื่อค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุเรือเซโวลล่มนอกเกาะชินโด จ.โชลลาใต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศประมาณ 20 กิโลเมตร
แต่ถึงจะพยายามขนาดไหน อุปสรรคที่เหนือการควบคุมอย่างธรรมชาติของทะเลเหลือง ทำให้ต้องใช้เวลาถึง 4 วันนับจากเรืออับปางและจมใต้ทะเล เมื่อ 16 เมษายน จึงสามารถเข้าไปภายในตัวเรือได้สำเร็จ
ความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตอยู่ภายในจึงกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายด้านจิตใจกับการเป็นคนแรกๆ ที่เห็นและนำส่งร่างเหยื่อเคราะห์ร้ายติดในซากมรณะหนัก 6,825 ตันลำนี้ขึ้นมาจากใต้น้ำเพื่อส่งให้กับญาติพี่น้องต่อไป
สำหรับนักประดาน้ำพลเรือนแล้ว พวกเขาถือว่าเหยื่อเหล่านั้น คือครอบครัวของพวกเขาเอง
คัง อิน คยู นักประดาน้ำอาสาสมัคร กล่าวว่า "ผมเป็นพ่อของลูกเหมือนกัน เข้าใจหัวอกพ่อแม่ว่ารู้สึกอย่างไร ผมจึงขออาสา"
แต่การอุทิศตนแบบไม่ห่วงตัวเองยังไม่พอสำหรับภารกิจใต้น้ำหฤโหด
นายชอง วุน-แช อดีตผู้บังคับการหน่วยกู้เรือ กองทัพเกาหลีใต้ กล่าวว่า สภาพอากาศเลวร้าย ทัศนวินัยใต้น้ำย่ำแย่และความลึกของเรือที่จมลง
ล้วนแต่เป็นอุปสรรค
"ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย ผมเข้าใจว่าครอบครัวเหยื่อเหลืออดกับภารกิจที่อืดอาด แต่ผมเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยอย่างสุดความสามารถ"
น่านน้ำที่เกิดเรือเซโวลล่ม ขึ้นชื่อเรื่องกระแสน้ำเชี่ยว และเป็นน่านน้ำนอกชายฝั่งที่มีความเชี่ยวแรงมากเป็นอันดับสองของเกาหลีใต้ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ณ บริเวณนั้นนับจากปี 2545 จำนวน 58 ครั้ง และบางครั้ง กระแสน้ำเคลื่อนเร็วถึง 11 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราวสองเท่าของเกณฑ์ปลอดภัยสำหรับนักดำน้ำ
ชิน ฮัง ซุบ อดีตกัปตันเรือลาดตระเวน กล่าวว่า แม้แต่เรือทหารยังหลีกเลี่ยงเส้นทางนี้
ทัศนวิสัยต่ำ ก็เป็นความเสี่ยงและอุปสรรคในการทำงานของนักประดาน้ำ
หลังจากพยายามหาทางเจาะเข้าไปในเรือหลายต่อหลายครั้งก่อนสำเร็จ นักประดาน้ำเกาหลีใต้บรรยายสถานการณ์ใต้น้ำว่าเหมือนกับเขาวงกต มองแทบไม่เห็นเลยแม้แต่มือของตัวเองเบื้องหน้า ความที่มองอะไรแทบไม่เห็นยังหมายความว่าพวกเขาอาจชนเข้ากับวัตถุข้าวของ อย่างตู้ขายของหยอดเหรียญ และอุปกรณ์ทำครัวทั้งหลายได้ทุกเมื่อ
ส่วน ความลึกของเรือที่จม นั้น ส่วนเรือแตะความลึกสุดอยู่ที่ประมาณ 37 เมตร อีกแค่ 3 เมตรก็จะแตะระดับอันตรายที่ 40 เมตร
นายชอง กล่าวว่า การดำน้ำลงไปลึก 37 เมตรนั้น แม้แต่นักดำน้ำมากประสบการณ์ยังถือว่าเป็นภารกิจสุดหิน และปฏิบัติการได้นานสุดไม่เกิน 90 นาที
ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่อยู่ในความวิตกตลอดเวลาสำหรับนักประดาน้ำ ในปี 2553 นักประดาน้ำผู้ช่ำชองคนหนึ่งที่รับใช้กองทัพเรือมา นานกว่า 30 ปี เสียชีวิตระหว่างการกู้ภัยเรือรบโชนัน หนัก 1,200 ตัน ที่ถูกโจมตีและจมในทะเลเหลือง
นายคัง นักประดาน้ำพลเรือน กล่าวว่า ความปลอดภัยมิใช่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดแล้วในสถานการณ์เช่นนี้ เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการไม่ทิ้งคนใดคนหนึ่งไว้ในทะเลแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ดี เครน 4 ตัวที่ประจำตำแหน่งไว้แล้วโดยรอบ เป็นเครื่องเตือนใจอย่างดีว่าปฏิบัติการค้นหากู้ภัย จะเปลี่ยนเป็นกู้ซากในไม่ช้า
นักประดาน้ำบางส่วนมองว่าการใช้เครนยกเรือขึ้นมาให้ใกล้กับผิวน้ำ จะช่วยให้ทีมงานทำงานได้สะดวกขึ้น
แต่การตัดสินใจใช้หรือไม่ ไม่ใช่การตัดสินใจเชิงแนวทางทำงาน หากแต่เป็นการระมัดระวังเรื่องอารมณ์ความรู้สึกญาติๆ
เจ้าหน้าที่จะใช้เครนต่อเมื่อญาติยินยอมเท่านั้น และความยินยอมนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อทุกคนทำใจยอมรับแล้วว่าได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักแล้วจริงๆ
................
(หมายเหตุ : นักประดาน้ำเสี่ยงตาย...เราไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง : โต๊ะต่างประเทศรายงาน)