
แจ้งจับมือกลอง'บอดี้สแลม'เมางัดห้องสาว
18 เม.ย. 2557
แจ้งจับมือกลองวงร็อคชื่อดัง 'ชัช บอดี้สแลม' เมางัดห้องสาวร่วมคอนโด
18 เม.ย.57 เมื่อเวลา 11.50 น. น.ส.ขวัญจิรา หรือ จอย บุญหล่อปั้น อายุ 32 ปี เจ้าของร้านอาหารใน ม.เกษตรศาสตร์ เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ให้ดำเนินคดีกับนายสุชัฒติ จั่นอี๊ด หรือ "ชัช บอดี้สแลม" มือกลองวงดนตรีบอดี้สแลม ข้อหาบุกรุกสถานที่ในยามวิกาล โดยเข้าไปในห้องพักผู้เสียหายขณะกำลังนอนพักผ่อนในคอนโดชั้น 8 สมาร์ทคอนโด ย่านตลาดถนอมมิตร วัชรพล เหตุเกิดวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา
ผู้เสียหาย ให้การว่า ปกตินายสุชัฒติ จะพักอยู่ห้องใกล้กัน ได้ใช้มีดปอกผลไม้งัดประตูห้องเข้ามาหา อีกทั้งยังอยู่ในสภาพมึนเมาสุราอย่างหนัก ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนีสวนทางออกไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งเกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะไม่ทราบจุดประสงค์ของอีกฝ่าย จึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน น.ส.เจ บุญหล่อปั้น น้องสาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุพี่สาวได้โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่ามีคนพยายามงัดห้องนอน จากนั้นจึงไปขอนิติบุคคลดูภาพกล้องวงจรปิด พบว่ามีผู้ชายเดินไปมาระหว่างห้องของเขาและห้องของพี่สาวกว่า 10 รอบ ซึ่งในแต่ละครั้งที่เดินมาจะถอดเสื้อบ้าง ถือขวดเบียร์บ้าง และถือกล้องบ้าง จนครั้งสุดท้ายใช้มีดปลอดผลไม้งัดและเดินเข้าไปภายในห้อง ก่อนจะเดินออกมา โดยทิ้งมีดไว้ภายในห้อง ซึ่งคาดว่าที่ยังไม่ก่อเหตุอะไร เพราะพี่สาวพักอยู่กับแฟนหนุ่ม
น.ส.เจ กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายสุชัฒติ ได้มาเคาะห้องพี่สาวเพื่อกล่าวขอโทษ แต่พี่สาวกลัว จึงไม่เปิดประตู และเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว ทั้งนี้ นายสุชัฒติ อยู่ชั้นเดียวกันกับพี่สาวถัดไปประมาณ 5 ห้อง และพักอยู่กับแฟนสาว โดยน.ส.เจ ยืนยันว่าตนและพี่สาวไม่รู้จักนายสุชัฒติ มาก่อน เพิ่งมารู้วันนี้ว่าเป็นมือกลองวงบอดี้สแลม และไม่เข้าใจว่าทำไปเพราะสาเหตุใด
น.ส.ขวัญจิรา กล่าวภายหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เกิดเหตุเมื่อวันที่ 16 เมษายน ตนได้กลับจากต่างจังหวัด และเข้าห้องพักผ่อนทันที จนกระทั่งเวลา 05.00 น. ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาบิดลูกบิดประตูห้องหลายครั้ง จนกระทั่งเวลา 06.00 น.จึงตัดสินใจเดินออกมาดูที่ช่องตาแมว แต่ไม่พบใคร และไม่กล้าออกมาดูเพราะความกลัว จนกระทั่งตื่นมาอีกครั้งประมาน 12.00 น. จึงลงไปขอนิติบุคคลเพื่อดูภาพวงจรปิด ก็พบว่านายสุชัฒติเดินไปมาที่หน้าห้องพักของตนจนเวลา 06.20 น.นายสุชัฒติ ได้ใช้มีดงัดแล้วเข้ามาภายในห้องประมาณ 20 วินาที ก่อนเดินออกไป
น.ส.ขวัญจิรา กล่าวอีกว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นตนรู้สึกกลัวมาก และรู้สึกไม่ปลอดภัย ขณะที่เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.00 น. นายสุชัฒติ ได้มาเคาะประตูห้องอีกครั้ง โดยพยายามกล่าวขอโทษ แต่ด้วยความกลัว ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว และระหว่างสอบปากคำนายสุชัฒติ ได้ขอโทษและยอมรับว่าก่อเหตุจริง เพราะความเมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักนายสุชัฒติมาก่อน
จากนั้น เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายสุชัฒติ ไปพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อทำทะเบียนประวัติอาชญากร โดยนายสุชัฒติ มีสีหน้าวิตกกังวล ก่อนเปิดเผยว่า ตนไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรไม่ดี วันนั้นเมามาก และมีเรื่องทะเลาะกับแฟนสาว จึงจะเดินออกไปข้างนอก เมื่อเดินผ่านห้องของน้องผู้หญิง ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เห็นกุญแจห้องตกอยู่หน้าห้อง และประตูห้องก็เปิดอยู่นิดนึง จึงพยายามจะเอากุญแจกลับเข้าไปภายในห้อง ด้วยความเมามากจึงกลับไปเอามีดปลอกผลไม้ที่ห้องกลับมาตัดสายยูแล้วเปิดประตูเอากุญแจเข้าไปไว้ในห้องนั้น ก่อนจะกลับมานอนที่ห้องพัก โดยไม่ทราบว่าถูกแจ้งความ จนกระทั่งแฟนมาบอกว่า มีตำรวจโทรมาบอกว่า ตนไปบุกรุกห้อง ตนตกใจ จนเช้าวันนี้ไปหาที่ห้องเพื่อจะขอโทษสิ่งที่ทำลงไป แต่ไม่เปิดประตูจนมีตำรวจมาจับตน โดยอยากขอโทษที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัว ทั้งที่ไม่มีเจตนาอะไรจริงๆ ที่ทำลงไปเพราะเมามากจริงๆ วันนี้ตนรู้แล้วว่าสุราไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
โดย พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ พงส.ผนพ.หน.งานสอบสวน สน.คันนายาว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับนายสุชัฒติ ในข้อหาทำความเดือดร้อนรำคาญเป็นเงิน 500 บาท ส่วนข้อหาบุกรุกเคหะสถานโดยมีอาวุธมีดนั้น เจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเชื่อว่านายสุบรรณ์ ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และต้องรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ จากนั้นจึงจะนำตัวส่งดำเนินคดียังศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป ซึ่งผู้เสียหายยืนยันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับนายสุชัฒติให้ถึงที่สุด