
'บุญยืน ศิริธรรม'นักสู้ชาวบ้านสู่ถนนส.ว.
'บุญยืน ศิริธรรม'จากนักสู้ชาวบ้าน...สู่เส้นทางส.ว.
ในบรรดาว่าที่ส.ว.ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่30 มีนาคมที่ผ่านมา "บุญยืนศิริธรรม" ว่าที่ส.ว.สมุทรสงครามเป็นหนึ่งในไม่กี่คนของว่าที่ ส.ว. 77 คนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น ส.ว.อิสระของแท้คือไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองจริงๆ เธอเปิดใจถึงการก้าวจากนักสู้ชาวบ้าน สู่วุฒิสภา กับ "นภพัฒน์จักษ์อัตตนนท์" ในรายการ"เนชั่นมิตรไนท์" ทางเนชั่นทีวี
คิดอย่างไรกับคำว่าสภาผัวสภาเมีย
ถ้าพูดถึงสภาผัวสภาเมียมันต้องดึงไปถึงจิตสำนึกของนักการเมือง สภาผัวเมียนี้มันผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะว่า ส.ว.นั้นมีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลถ้าผัวมาทำเมียมาตรวจสอบนี้มันจะถ่วงดุลกันยังไง อันนี้มันไม่ใช่อยู่แล้ว
แสดงว่าที่ผ่านมาคุณบุญยืนก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไรกับพรรคการเมืองไม่ได้มีนักการเมืองหนุนหลัง
สมุทรสงครามไม่ได้มีอิทธิพลการเมือง
ครั้งนี้ชนะเลือกตั้งมาได้เพราะอะไร
ต้องบอกว่าเราไม่ใช่คนที่อยากมีตำแหน่งแล้วไปลง แต่เราเป็นคนในพื้นที่ พี่ทำงานในพื้นที่ พี่เป็นเด็กด้อยโอกาสทางด้านการศึกษา พี่จบแค่ ป.4 คือพี่ก็ไปทำประมงของพี่ชีวิตที่ทำประมงก็คือมันผูกพันกับสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต เพราะฉะนั้นเราก็มีความรู้สึกว่า เราจะต้องปกป้องสิ่งแวดล้อม เราก็ลุกขึ้นมาปกป้องสิ่งแวดล้อม อายุ 28 พี่ถึงได้ไปเรียนป.5 ก็เรียนม.ต้นม.ปลายกศน. และเรียนไปจนจบปริญญาโท
การต่อสู้ในพื้นที่นี้เราเริ่มต้นด้วยกลุ่มของคนที่ชื่อว่า "ประชาคมคนรักแม่กลอง" ต้องบอกว่าที่พี่มาได้ เพราะพี่เป็นคนเอาธุระกับสมุทรสงคราม คือ ไม่ว่าสมุทรสงครามจะเดือดร้อนหรือมีผลกระทบอะไรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่เรือเดินน้ำมันในแม่น้ำแม่กลอง ประกาศจังหวัดให้มีนิคมอุตสาหกรรม นี่คือเรื่องของการต่อสู้ การจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ การจะสร้างโรงฆ่าหมูในพื้นที่ การที่จะเอาน้ำไปใส่คนแม่กลองที่บอกว่าฟลัดเวย์ นี่คือกระบวนการการต่อสู้ร่วมกันของคนแม่กลอง คนบอกว่าพี่ลงช้าไปน่ะ ลงแค่ 22 วันและก็มีการเลือกตั้ง แต่พี่ทำงานมา 30 ปีอันนี้คือสิ่งที่จะชี้ให้เห็นเลยนะว่า คนที่จะมาลง ส.ว.นี้ไม่ใช่แค่มีเครือข่ายผูกติดกับนักการเมืองแล้วถึงจะลงได้และอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของการเลือกตั้ง เรื่องของการเลือกตั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องจิตสำนึกของนักการเมือง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้เห็นชัดเจนเลยก็คือ ประชาชนต้องเข้าใจ ส.ว.มีบทบาทอะไรไม่ใช่เลือกเพราะว่าเขาเป็นใคร ผูกติดอยู่กับนักการเมือง แต่สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในความรู้สึกของพี่ นักการเมืองเองก็ไม่มีจิตสำนึกตรงนี้ว่า นี่คือสภาตรวจสอบ มันมีการตรวจสอบถ่วงดุล มันก็ยังส่งผัว ส่งเมีย ส่งญาติ มาลงในองค์กรที่ตรวจสอบ ถามหน่อยว่าองค์กรที่ตรวจสอบถ้ากระบวนการที่ได้มาซึ่ง ส.ว.นี้ไม่โปร่งใส่จะมีน้ำหน้าไปตรวจสอบใครอันนี้พี่คิดอย่างนี้
อย่างนี้ช่วงหาเสียงนี้ต้องให้ข้อมูลประชาชนในแถบจังหวัดนั้นๆด้วยไหม
พี่มีเวลาแค่22 วันเพราะฉะนั้นถ้าพี่ไปเดิน เดินไม่ทั่วอยู่แล้ว พี่ก็เลยพูด พูดใส่แผ่น และก็ให้รถวิ่ง เพราะพี่ไปไม่ได้ ส.ว.มีหน้าที่ทำอะไรหัวใจหนึ่งของพี่ สโลแกนของพี่มี 2 สโลแกน1.คือบ้านเมืองมีปัญหาใช้คนกล้าไปทำงาน 2.ห่วงใยสิ่งแวดล้อมพร้อมสกัดและถอดถอนคนโกง และที่แน่ๆ ที่พี่บอกชาวบ้านเสมอเลยว่า คนที่จะไปเป็น ส.ว.ดีอย่างเดียวไม่พอต้องกล้าด้วยต้องกล้าที่จะแต่งตั้งคนดี ต้องกล้าที่จะถอดถอนคนโกง ต้องกล้าที่จะทำในเรื่องดีๆ พี่ก็พูดอย่างนี้ใส่แผ่นไป ชาวบ้านเขาก็เลยมีความสำนึกว่า เออ นี่แหละ คนที่จะเป็นตัวแทนเขาได้ เขาจึงเลือกพี่มาเป็น ส.ว.
การหาเสียงครั้งนี้ใช้เงินไปเท่าไหร่
ต้องบอกว่าการหาเสียงครั้งนี้ พี่ไม่เหมือนคนอื่นๆ บางที 7 โมงเช้าก็ไปกับหลานป.4 เดินลั้ลลาตามตลาดนัด คุยกับแม่ค้าบ้าง เดินแจกใบปลิวบ้าง ซื้ออะไรไปกินบ้าง การเลือกตั้งนี่เขาบอกว่าใช้เงินไม่เกินหนึ่งล้าน คือไม่ต้องบอกว่าไม่เกินหรอก เพราะไม่มีจะหมด เป็น ส.ว.นี้เก่ง เจ๋ง มันก็เป็นไม่ได้ มันต้องมีตังค์ด้วย ถูกไหม เพราะฉะนั้นถามพี่ว่า พี่ใช้ไปเท่าไหร่ พี่ว่าน่าจะเกือบ 5 แสนนะอันนี้พี่คิดในใจของพี่คนเดียว วันนี้เลือกตั้งเสร็จแล้วพี่พูดได้ พี่รู้เลย โอ้โห! ลำบากว่ะเพราะเราเป็นคนที่ทำงานเกือบตาย ไส้เกือบแห้ง เพราะฉะนั้นพี่นึกถึงกองทุนนักสู้รุ่นต่อไปเลยน่ะ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจให้คนลุกขึ้นมาเป็นธุระให้แก่บ้านเมือง
ตั้งกองทุนให้แก่คนรุ่นต่อไป
คือพี่ไม่รู้หรอกณ วันนี้พี่พูดได้เลยว่า พี่ไม่รู้เลยว่า ส.ว.ได้เงินเดือนเท่าไหร่มีอะไรบ้าง พี่ไม่รู้ เพราะพี่ไม่เคยแสวงหาเรื่องนั้น แต่สิ่งหนึ่งพี่มองว่า พี่น่าจะกันเงินเดือนพี่ไว้เดือนละสามพันน่ะ ปีหนึ่งก็สามหมื่นหก หกปีน่าจะได้ประมาณ 2 แสนอ้าว! รุ่นต่อไปใครเป็นนักสู้มาเอากองทุนนี้ไป แล้วถ้าใครได้ต้องต่อกองทุนนี้นะ เพราะไม่งั้นชาวบ้านสู้นักการเมืองไม่ได้ เขามีทุน มีจากไหน บางทีชาวบ้านก็ยังมีความรู้สึกว่า อ๋อ มันมาลงสมัคร เพราะว่า กกต.ให้ตังค์จริงๆ ไม่ได้สักบาทน่ะ ต้องบอกว่า คนแม่กลองและหลายคนก็ลงขัน คนนี้หมื่นหนึ่ง คนนี้ห้าพัน คนนี้สองพัน ลงขันกันเพื่อผลักดันให้คนทำงานอย่างพี่เข้ามาในตำแหน่งของ ส.ว. เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะใช้เกินเพราะไม่มีจะเกิน
ในทางกลับกันมันก็เป็นเหมือนเป็นโมเดลที่ประชาชน คนเก่งคนที่อยากเข้ามามีส่วนร่วมการเมืองหลายคนที่แหยงการเมืองอยู่ตอนนี้ ก็มองเป็นแบบอย่างได้ว่า ถ้ามีความสามารถ ถ้ามีความกล้า ก็เข้ามาได้
คือสมุทรสงครามต้องบอกว่า สมุทรสงครามคือเราทำเรื่องกิจกรรมเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยกัน มารวมตัวกันเยอะ เรื่องเหล่านี้พี่รู้สึกว่า คนแม่กลองเขาเข้าใจบทบาทหน้าที่ของ ส.ว. ซึ่งจะสังเกตได้ว่าสมัยแรก อันดับแรกเลยเขาเลือก "ครูยุ่น" มนตรี สินทวิชัย ซึ่งก็สะพายย่ามเดินก๊องๆ ก็ได้เป็น ส.ว.สมุทรสงครามน่ะพี่สุรจิต ชิรเวทย์ อันนี้ก็นักสู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็ได้เป็น ส.ว.นะและนี่คือพี่อีกคนหนึ่ง ที่ต่อสู้เรื่องของเอาธุระของบ้านเมือง ถึงขนาดที่ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดว่า เพราะว่า มีคนถามพี่ว่าสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมทำไม หัวใจสำคัญเลยนะ เพราะเสาบ้านเราอยู่ที่นั้น ถ้าไม่สู้เพื่อเสาบ้านแล้วยังไง ผู้ว่าราชการจังหวัดมาปุ๊บ จะร่างยุทธศาสตร์จังหวัด ร่างยุทธศาสตร์จังหวัดอันดับแรกมาพูดถึงเรื่องนิคมอุตสาหากรรม ร่างไม่ได้แล้ว คนแม่กลองไม่ยอมเด็ดขาด สาเหตุที่ไม่ยอมคืออะไรรู้ไหม ผู้ว่าฯ ย้ายมาเต็มที่ 4 ปีก็ไปแต่ผลกระทบของนโยบายที่เกิดขึ้นนั้น มันกระทบต่อคนที่นี่ เพราะฉะนั้นคนแม่กลองไม่ยอม ล้มเวทีทุกเวที จนสุดท้าย ร้อยกว่าคนไปนั่งเขียนยุทธศาสตร์จังหวัด ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มนี่คือคนแม่กลอง
ฟังดูแล้วคือมันก็ต้องทั้งสองทางคือต้องมีผู้สมัครให้เป็นตัวเลือกด้วย และคนที่เลือกก็ต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่งด้วย คือต้องเข้าใจการเมืองระดับหนึ่งด้วย
ใช่ถูกต้อง คือสิ่งที่พี่พูดไปคือ วันนี้พี่ได้ทำหน้าที่ของคนสมุทรสงครามอีกครั้ง นั่นคือลงมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก จะเลือกหรือไม่เลือกนั้น..พี่ไม่ใช่คนแบบที่ว่าเฮ้ย ฉันลงแล้ว ฉันต้องชนะ คือการทำงานอย่างพี่ที่เขาเรียกว่า เอ็นจีโอ สิ่งที่เราสั่งสมมาตลอดคือ ขอให้เราได้ทำในสิ่งที่ควรทำ ผลมันจะออกมาเป็นยังไงคือยอมรับได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นพี่จะไม่มีตื่นเต้น พี่จะไม่มีใจเต้นว่า เฮ้ย ฉันจะได้ไหมเนี่ย ฉันจะได้ไหม ไม่ คือพี่เลือกตั้งเสร็จตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้วพี่ก็หนีไปไหนต่อไหนแล้ว และพี่ก็หลับไป จนมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นว่า เรานำแล้วนะ พี่ก็รับโทรศัพท์ตลอด โดยที่พี่ไม่ต้องลุ้นว่า ฉันจะได้หรือไม่ได้ สาเหตุที่พี่ไม่ลุ้น เพราะพี่เชื่อมั่นคนแม่กลอง
เข้าไปเป็นส.ว. สิ่งที่อยากจะทำคืออะไร
พี่คิดว่าพี่เข้าไปคือหัวใจสำคัญเลยก็คือว่า ตรวจสอบ ทำหน้าที่ของ ส.ว.ให้ดีที่สุดสิ่งหนึ่งที่เขาบอกว่า ส.ว. เวลาเข้าไปเป็นส.ว.แล้วไม่ใช่ ส.ว.ของจังหวัดแต่เป็น ส.ว.ของประเทศแต่สิ่งหนึ่งที่พี่อยากบอกประชาชนทั่วไปว่า ส.ว.ไม่ได้ตัดขาดจากพื้นที่มีเรื่องอะไรขอให้ร้องเรียนได้ ส.ว.ตั้งกรรมาธิการเข้าไปได้พี่คิดว่า ส.ว.ทำงานได้มากมายส.ว.มีสิทธิ์ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมส.ว.มีสิทธิ์ดูแลเรื่องที่มันไม่เป็นธรรมอย่างเช่น พี่จับงานพลังงานมาตลอด นี่คือหนึ่งหัวใจของพี่ สอง ก็คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม นี่คือหัวใจของพี่ เริ่มต้นประมาณนี้
ที่ผ่านมาส.ว.ที่เข้าไปหลายคนเข้าไป ก็จะจับกลุ่มกัน เพื่อเวลาโหวตคะแนนเสียงอะไรต่างๆ นั้นจะได้มีพลัง พี่บุญยืนเข้าไปแล้วจะเป็นเจ้านายของความคิดเห็นตัวเอง หรือว่าจะไปร่วมกับกลุ่มไหนหรือเปล่า
ต้องบอกว่าพี่นี่ใครอย่ามาเรียกท่าน พี่มีความรู้สึกว่า พี่เป็นตัวแทนของชาวบ้าน ชาวบ้านเลือกมา เสร็จแล้วก็มาเรียกท่าน พอเรียกท่านเสียสันดานหมด เพราะว่าเป็นท่านไง เป็นเจ้านาย ชอบอ้างว่า ประชาชนเลือกมา คุณให้ความสำคัญขนาดไหน กลับไปแล้วประชาชนต้องมากราบกรานคุณ ถามว่าไปรวมกลุ่มไหม คือคนดีมันก็ต้องรวมกลุ่มกัน อิสระ เดี่ยวๆ มันก็โอเค แต่ว่าเดี่ยวมันทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน แต่ว่าก็ต้องดู พี่มีเป้าหมายชัดเจน เกิดมาเพื่อทำความดี เพราะฉะนั้นกลุ่มที่พี่จะเข้าคือกลุ่มที่ต้องเป็นคนดี ไอ้ชนิดที่ล็อบบี้เพื่อหาประโยชน์ให้ไปอยู่ฝ่ายไหน ให้ได้สตังค์ อย่าหวังว่าพี่จะได้ไปเฉียดกาย อันนี้พี่สัญญากับประชาชนว่า พี่จะไม่ทำให้เขาผิดหวัง เรื่องขายตัวไม่มีแน่นอน สำหรับคนที่ชื่อ บุญยืน ศิริธรรม
ตอนนี้เข้ามาเป็นส.ว.แล้วเข้าไปตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง คำถามคือ ที่ผ่านมา ส.ว.ก็จะถูกประชาชนถูกสื่อมวลชนตรวจสอบด้วยเหมือนกัน พร้อมรับการตรวจสอบนี้ใช่ไหม
พี่ทำงานตรวจสอบมาทั้งชีวิตพี่เป็นประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค มีเรื่องเยอะแยะมากมาย ฟ้องศาลมากมาย เพราะฉะนั้นคนที่ทำงานตรวจสอบคนอื่น อันดับแรกคุณต้องโปร่งใสพอที่จะทำให้คนอื่นตรวจสอบ เพราะฉะนั้นวันนี้พี่คิดว่า ประวัติของพี่โปร่งใสพอที่จะตรวจสอบได้เลย พี่คิดว่าเราทำงานตรวจสอบคนอื่น ไม่ควรกลัวเรื่องตรวจสอบ ต้องมาจะจะ ใสๆ ใครไม่ดีก็ถอยไป อย่ามาเสนอหน้าในตำแหน่งนี้
................
(หมายเหตุ : 'บุญยืน ศิริธรรม'จากนักสู้ชาวบ้าน...สู่เส้นทางส.ว.)