
มองวิกฤติสิ่งแวดล้อมในภาพวาดเก่าแก่
29 มี.ค. 2557
เวิลด์วาไรตี้ : มองวิกฤติสิ่งแวดล้อมในภาพวาดเก่าแก่
สีสันในภาพวาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี สามารถบ่งบอกถึงวิกฤติมลภาวะสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในอดีตได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญแหล่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า โลกเคยผ่านวิกฤติสิ่งแวดล้อมเช่นใดบ้างในอดีตที่ผ่านมา ก่อนที่กล้องถ่ายรูปจะถือกำเนิดเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
ในแง่มุมหนึ่งมนุษย์กำหนดคุณค่าของภาพวาดเก่าแก่จากความนิยมในตัวศิลปินผู้วาด ภาพวาดเหล่านี้จะมีราคาสูงหลักหลายล้านจนถึงหลายพันล้านบาทถ้ามีการนำออกประมูลกัน
แต่คุณค่าหนึ่งที่ถูกซ่อนไว้ในภาพวาดก็คือ การสะท้อนความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมสมัยก่อน ตอนที่ศิลปินบรรจงกรีดพู่กันลงบนผืนผ้าใบ แต่งเติมสีสันจนได้เห็นเป็นภาพที่ปรากฏสืบต่อมาจนถึงคนรุ่นหลังได้เห็น
ที่น่าทึ่งคือศิลปินในยุคก่อนได้บันทึกภาพเหตุการณ์วิกฤติสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับยุโรป ในช่วงที่ชั้นบรรยากาศเหนือทวีปยุโรปเถ้าภูเขาไฟจากอินโดนีเซียปกคลุมอยู่นานหลายเดือน อย่างเช่นภาพพระอาทิตย์ตกดินในยุโรปของ โจเซฟ มัลลอร์ด วิลเลียม เทอร์เนอร์ (เจเอ็มดับเบิลยู เทอร์เนอร์) ศิลปินชาวอังกฤษที่รังสรรค์ขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1815 หรือ 199 ปีที่แล้ว
ในภาพเทอร์เนอร์แต้มสีท้องฟ้ายามเย็นด้วยสีเหลืองกว่าปกติ และขับเน้นให้เห็นเถ้าภูเขาไฟที่ล้อกับแสงอาทิตย์ยามเย็นทำให้แสงอาทิตย์ช่วงเย็นนั้นมีสีแดงเข้มขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากในช่วงเวลานั้น ภูเขาไฟแทมโบรา บนเกาะซัมบาวา อินโดนีเซีย เกิดปะทุครั้งใหญ่พ่นเถ้าภูเขาไฟขึ้นไปสูงเหนือพื้นโลกราว 10 กิโลเมตร ทำให้เถ้าภูเขาไฟจากปากปล่องภูเขาไฟแทมโบราลอยติดลมบนไปปกคลุมพื้นที่ซีกโลกเหนือตั้งแต่จีน จนถึงยุโรป
ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นพื้นผิวโลกได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์น้อยลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะชั้นบรรยากาศของโลกเต็มไปด้วยฝุ่นที่คละคลุ้งอยู่เต็มไปหมด อุณหภูมิอากาศของซีกโลกเหนือลดลงอย่างมาก ฝุ่นภูเขาไฟที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วในชั้นบรรยากาศโลกต้องอาศัยเวลานานหลายปีกว่าจะตกลงมาสู่พื้นโลกจนหมดสิ้น
ภายหลังนักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่าน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ที่ขุดลงไปเพื่อศึกษามีฝุ่นละอองจากภูเขาไฟปะปนอยู่มากมาย เมื่อทำการทดสอบวัดอายุน้ำแข็งที่ห้อหุ้มเถ้าถ่านภูเขาไฟแล้วพบว่าฝุ่นภูเขาไฟเหล่านั้นเป็นฝุ่นละอองที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟแทมโบรา ในประเทศอินโดนีเซียนั้นเอง การระเบิดที่รุนแรงของภูเขาไฟแทมโบราทำให้ความสูงของมันหดหายลงไปถึง 1,400 เมตร และลักษณะทางกายภาพของภูเขาไฟแทมโบราได้กลายเป็นหลุมกว้าง 6 กิโลเมตร ลึกลงไป 1 กิโลเมตร แน่นอนว่าการระเบิดของแทมโบราไม่ได้สร้างมลพิษที่เกิดขึ้นกับโลกเพียงอย่างเดียว ในวันที่เกิดเหตุระเบิดลาวาได้ไหลท่วมทับผู้คนบนเกาะซัมบาวา ตายทั้งเป็นกว่า 8,000 คน และทำให้คนเกือบ 1 แสนคนประสบกับโรคระบาดและต้องกลายเป็นคนพิการในเวลาต่อมา
นักวิจัยแห่งสถาบันเอเธนส์ ประเทศกรีซ ได้วิจัยภาพวาดของเจเอ็มดับเบิลยู เทอร์เนอร์ แล้วพบว่าศิลปินรายนี้สะท้อนภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมในเวลานั้นอย่างถูกต้อง ผ่านการใช้สัดส่วนสีสันระหว่างแดงกับเขียว ที่เป็นตัวแทนของแสงแดดที่ถูกล้อด้วยเถ้าภูเขาไฟ ที่ลอยปกคลุมอยู่ในอากาศ ณ เวลานั้น
ทั้งยังทำให้นักวิจัยเข้าใจด้วยว่าปริมาณของเถ้าภูเขาไฟในอากาศ ณ เวลานั้นมีมากมายเพียงใดด้วยการศึกษาสัดส่วนระหว่างสีแดงกับเขียวที่ปรากฏในภาพวาดภาพนี้อีกด้วย