ข่าว

โต๊ะจีนคาบิเนต

โต๊ะจีนคาบิเนต

21 มี.ค. 2557

โต๊ะจีนคาบิเนต : วันเว้นวันจันทร์ พุธ ศุกร์กับ ประภัสสร เสวิกุล

              ในสมัยที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลชุดนั้นได้รับฉายาว่า “บุฟเฟ่ต์คาบิเนต” เนื่องจากมีการกล่าวกันว่ารัฐมนตรีในคณะต่างคนต่างก็ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตนในทางมิชอบ ทำนองเดียวกับการรับประทานอาหารแบบบุบเฟ่ต์ที่เลือกตักอาหารตามชอบใจ และบางคนก็กินอย่างมูมมามตะกรุมตะกราม บุฟเฟ่ต์คาบิเนต จึงเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และกลายเป็นเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้างในการปฏิวัติยึดอำนาจของคณะ รสช. ซึ่งมี พล.อ.สุจินดา คราประยูร และ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล เป็นผู้นำ


              ในปัจจุบัน การ(โกง)กินแบบบุฟเฟ่ต์ได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะพรรคการเมืองใหญ่เข้ามาเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลแซมด้วยพรรคการเมืองเล็กๆ ที่เป็นพันธมิตร ดังนั้น จึงไม่ต่างคนต่างกินเหมือนสมัยก่อน หากแต่พรรคการเมืองใหญ่จะเป็นผู้จัดหาและจัดสรรผลประโยชน์ ในลักษณะของโต๊ะจีนที่เจ้าภาพจัดอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ผู้ร่วมโต๊ะก็ตักรับประทานเฉพาะอาหารที่มีอยู่บนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย ดังนั้น ถ้าจะเรียกรัฐบาลประเภทนี้ว่าเป็น “โต๊ะจีนคาบิเนต” ก็น่าจะได้

              โต๊ะจีนนั้นถ้าเป็นชนิดดีๆ ก็จะมีราคาแพง และแน่นอนว่าแพงกว่าบุฟเฟ่ต์หลายเท่า จึงไม่น่าประหลาดใจที่โครงการต่างๆ ที่ผุดขึ้นในสมัยรัฐบาลนี้ จึงเป็นประเภทอภิมหาโปรเจกท์นิรันดร์กาล โดยไม่คำนึงว่าประชาชนจะต้องแบกรับภาระหนี้สินของประเทศที่รัฐบาลก่อขึ้นไปอีกนานเพียงไร และจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และวินัยการเงินการคลัง ของประเทศอย่างไร - บุฟเฟ่ต์คาบิเนตที่ว่าร้ายแล้ว โต๊ะจีนคาบิเนตเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้น เพราะต้องระดมทรัพยากรอย่างดีมีราคาแพงจำนวนมากมาบำรุงบำเรอคนเพียงไม่กี่คน

              การที่บางคนหรือคนไม่กี่คนอิ่มหนำสำราญ ขณะที่คนครึ่งค่อนประเทศอย่างชาวไร่ชาวนาต้องอดอยากปากแห้งนั้นเป็นเรื่องที่ขาดความถูกต้อง เพราะรัฐบาลที่ดีมีหน้าที่ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน มิใช่สร้างทุกข์และทำลายความสุขของประชาชน รัฐบาลควรต้องคิดถึงปากท้องของประชาชน มากกว่าปากท้องของตนเอง ถ้าหากรัฐบาลจะเลิกเลี้ยงโต๊ะจีนหรือบุฟเฟ่ต์ และกินข้าวราดแกง หรือก๋วยเตี๋ยวชามละ 3 บาท แทน ประชาชนก็คงจะอิ่มปากอิ่มท้องมากกว่านี้ และไม่ต้องแบกหนี้สินของประเทศที่รัฐบาลทิ้งเอาไว้ รวมทั้งเป็นการสร้างวินัยทางการเงินการคลังของประเทศและประชาชนไปด้วยในตัว

              แต่ก็นั่นละครับ คนที่กำลังกินโต๊ะจีน กับคนที่ไม่มีอะไรจะกิน ย่อมจะมองในสิ่งที่แตกต่างกัน และคิดอะไรที่ไม่เหมือนกัน คนที่กินโต๊ะจีนอาจจะถือว่าการโยนก้างปลาให้แมวกินนั้นเป็นความดีความงามของตน โดยไม่เคยถามตัวเองว่าทำไมแมวถึงได้แค่ก้าง ในขณะที่ตนกินเนื้อปลาทั้งตัว

              การเลิกกินโต๊ะจีนคาบิเนตนั้น มีอยู่ 2 ทาง คือเจ้าภาพเลิกจัดโต๊ะจีน หรือมีคนอื่นมาล้มโต๊ะ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับบุฟเฟ่ต์คาบิเนตมาแล้ว - ซึ่งดูตามรูปการณ์ขณะนี้ก็น่าจะเป็น อย่างหลังเสียมากกว่าครับ