อุบลฯแล้งจัด!ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนน้ำ | คมชัดลึก

 

                         15 มี.ค.57 ที่บ้านป่าม่วง หมู่ที่ 7 ตำบลนาส่วง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลตำบลนาส่วง ได้นำน้ำออกแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อใช้อุปโภคและบริโภค ซึ่ง มีหลายหมู่บ้าน กำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากในระยะนี้ น้ำประปาหมู่บ้าน เริ่มไหลเบา สลับกับไม่ไหล เพราะแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาได้มีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว

 

                         ทั้งนี้ นายประจญ ชนะขันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลนาส่วง กล่าวว่า เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน ในเบื้องต้นเทศบาล ได้นำรถน้ำขนาดความจุ 15,000 ลิตร ออกแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในเขตรับผิดชอบ ที่ตำบลนาส่วง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการนำน้ำออกแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อใช้ อุปโภคและ บริโภค ซึ่งมีหลายหมู่บ้าน กำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากในระยะนี้ น้ำประปาหมู่บ้าน เริ่มไหลเบา สลับกับไม่ไหล เพราะแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา ได้มีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาของการขาดแคลนน้ำ และคลายความเดือดร้อน หลังชาวบ้านเริ่มประสบกับปัญหาของการขาดแคลนน้ำดื่ม เนื่องจากน้ำฝนที่กักเก็บไว้ในภาชนะต่างๆเริ่มหมด ไม่เพียงพอที่จะบริโภคในครัวเรือน

 

                         ส่วน นายอนิรุธิ์ ด่านศิระวานิช นอภ.นาตาล เปิดเผยว่า ปีนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเริ่มลดลงเร็ว ทำให้ หาดทราย โขดหินตลอดทั้งเกาะแก่งต่างๆในแม่น้ำโขง เริ่มโผล่ให้เห็นความสวยงามทางธรรมชาติกันตลอดแนว นักท่องเที่ยวเริ่มหลั่งไหลเข่าแวะเวียนมาพักผ่อนกันอย่างหนาตา ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว สามพันโบก หาดสลึง อ.โพธิ์ไทร หาดทรายบ้านปากแซง อ.นาตาล แก่งช้างหมอบ เขต อ.เขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ผู้คนเริ่มจะคึกครื้นสนุกสนานกันก่อนที่จะถึงเทศกาลสงกรานต์

 

                         "แต่ในขณะเดียวกัน ตามหมู่บ้านต่างๆกลับพากันขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อบริโภคในครัวเรือน ขาดในภาชนะกันทุกหมู่บ้าน และเพื่อเป็นการแก้ปัญหา  ตนได้ขอความร่วมมือไปยังทุกอบต.ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบ ให้นำรถบรรทุกน้ำออกไปช่วยเหลือแก่ทุกครัวเรือนเป็นการด่วน คู้ขนานไปกับทางอำเภอก็ได้นำรถน้ำออกช่วยเหลือเช่นเดียวกัน และคาดว่า ปีนี้ น่าจะแล้งนาน เตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการใช้น้ำในครัวเรือน เพราะกว่าจะถึงคิวของแต่ละคน ก็ต้องใช้เวลากันอยู่บ้าง และพร้อมกันนี้ ก็ได้สั่งการให้ทุก อบต.เร่งสำรวจความต้องการน้ำของแต่ละหมู่บ้านเป็นการด้าน เพื่อ จนท.จะได้รีบเข้าปัญหาให้ทันต่อเหตุ" นายอนิรุธิ์ กล่าว

 

 

ภัยแล้งหนองคายได้กระจายเป็นบริเวณกว้าง

 

 

                         ที่บ้านไทยพัฒนา ม.7 ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเป็นหมู่บ้านหนึ่งที่ตั้งอยู่เนินเขาเตี้ย ๆ ที่มีน้ำประปาใช้ 2 ระบบ คือ การสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ (น้ำบาดาล) แต่ระบบนี้ยังมีปัญหาเนื่องจากน้ำใต้ดินไม่เพียง ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ระบบนี้จะสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้เพียง 10 นาที ต้องรออีก 30 นาทีจึงจะมีน้ำให้สูบขึ้นมาได้

 

                         ส่วนอีกระบบเป็นการสูบน้ำจากสระขนาด 40 X 80 เมตร ลึก 4 เมตร ที่มีน้ำเหลืออยู่ประมาณ 50 เซนติเมตร ขึ้นไปเก็บในถังโดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนใด ๆ แล้วปล่อยไปตามท่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำ แต่เนื่องจากน้ำที่มีอยู่เหลือน้อย จำเป็นต้องประหยัดใช้ โดยวันหนึ่งจะปล่อยแค่ 2 เวลา คือ เช้าและเย็นเท่านั้น

 

                         นางรุ่งอโนทัย สงฆ์สนะ ผู้ใหญ่บ้านไทยพัฒนา ม. 7 บอกว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมากเพราะน้ำไม่พอใช้ เพราะสระน้ำเพื่อทำน้ำประปาเพียงแห่งเดียวที่ต้องใช้ทั้ง 150 หลังคาเรือน และน้ำในสระที่เหลืออยู่คงใช้ไม่ถึงสิ้นเดือนนี้ จึงต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน ส่วนชาวบ้านที่ต้องการปลูกพืชผักสวนครัวก็ได้ขอให้ปลูกในกระบะแทนการปลูกลงแปลง เพราะน้ำจะไม่เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน

 

 

บุรีรัมย์-แล้งกระทบนกสำนักสงฆ์ดอนใหญ่นับแสนตัวขาดแคลนอาหาร

 

 

                         สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสภาพความแห้งแล้งนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว ล่าสุดยังได้ส่งผลกกระทบกับนกประจำถิ่น และนกอพยพหลายชนิด เช่น นกยาง นกกาน้ำ นกกระสา และนกอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่เข้ามาอาศัยหากินและทำรังวางไข่อยู่บริเวณเขตป่าสำนักสงฆ์ดอนใหญ่ ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชมนกที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด นับแสนตัวเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร เนื่องจากแหล่งน้ำลำคลองต่างๆ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอด ทำให้ปลา และสัตว์น้ำที่เป็นอาหารของนกมีปริมาณลดน้อยลง

 

                         ขณะที่ต้นไม้ในเขตป่าสำนักสงฆ์บางส่วนก็มีสภาพเหี่ยวแห้งใบล่วงหล่น ไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนกับช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว จากผลกระทบดังกล่าวยังทำให้นกหลายชนิดต้องอพยพไปอาศัยหากินยังถิ่นอื่น ที่มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์มากกว่า ทำให้ช่วงนี้เหลือนกอยู่ในเขตสำนักสงฆ์ดอนใหญ่เพียงประมาณ 20,000 ตัวเท่านั้น จากปกติจะมีนกเข้ามาอาศัยทำรังวางไข่อยู่นับแสนตัว และจากสภาพความแห้งแล้งที่ทำให้นกอาศัยอยู่น้อยลง ก็ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่นิยมเที่ยวชมนกและสัมผัสธรรมชาติ ก็ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน

 

                         ทั้งนี้ พระอาจารย์ภูวนัย กตสาโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ดอนใหญ่ ต.บ้านบัว ระบุว่า จากสภาพความแห้งแล้ง แหล่งน้ำลำคลองต่างก็เหือดแห้ง ก็ทำให้ส่งผลกระทบกับนกที่เข้ามาอาศัยหากินและทำรังวางไข่ในเขตป่าสำนักสงฆ์ดอนใหญ่ ต่างทยอยอพยพไปหากินยังถิ่นอื่นที่มีแหล่งน้ำและอาหาร อุดมสมบูรณ์มากกว่า ทำให้ช่วงนี้มีนกที่ยังอาศัยอยู่ในสำนักสงฆ์ดอนใหญ่เพียงประมาณ 20,000 ตัวเท่านั้น จากปกติมีมากถึงแสนตัว อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ที่เริ่มเข้าสู่หน้าฝน ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพก็จะกลับมาอาศัยหากินและทำรังวางไข่อีกครั้ง