
โหดเหี้ยม!ยิงครูดับก่อนราดน้ำมันเผาซ้ำ
14 มี.ค. 2557
โหดเหี้ยม!2 คนร้ายยิงครูที่ปัตตานีดับก่อนราดน้ำมันเผาซ้ำ ขณะขับรถไปโรงเรียน
เมื่อวันที่ เวลา 09.08 น. วันที่ 14 มีนาคม พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุฆ่าแล้วเผาครู โดยเหตุบริเวณรอยต่อระหว่างบ้านเจาะบาแน กับบ้านตะบิงตีง ม.3 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ถนนสาย อ.ทุ่งยางแดง-มายอ ซึ่ง 2 ข้างทางเป็นป่าสวนยาง จึงไปตรวจสอบที่เกิดแหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา, พ. ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำราญ รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด
ทั้งนี้ บริเวณจุดเกิดเหตุพบรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีขาว น้ำตาล ทะเบียน ยะลา ง 2920 ล้มคว่ำอยู่ มีรอยเลือดและรอยเผากลางถนนใกล้กับรถจยย. ส่วนคนถูกเผาเป็นผู้หญิง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ชื่อ น.ส.ศิริพร ศรีชัย อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ถนนเทศบาล 5 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา เป็นครู คศ 1 สอนภาษาอังกฤษ ที่ ร.ร.ตะบิงตีงี ม.3 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ สังกัด อบจ.ปน. สภาพศพถูกเผาไฟไหม้เกรียมทั้งตัว ทั้งยังมีรอยกระสุนถูกยิงเข้าที่ศีรษะและลำตัว ซึ่งศพเจ้าหน้าที่ได้นำไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลมายอแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ครูผู้ตายได้ขับรถจยย.มาจากบ้านพักใน จ.ยะลา เพียงลำพัง เพื่อมาสอนหนังสือที่ ร.ร.โดยใช้เส้นทางยะลา-ทุ่งยางแดง- มายอ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปลี่ยว 2 ข้างทางเป็นป่าสวนยาง ปรากฏว่า ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจยย.ตามประกบ
อย่างไรก็ตสใ หลังจากนั้นคนร้ายที่ซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนสั้นยิงทำให้รถของครูเสียหลักตกข้างทาง ก่อนที่คนร้ายจะลงไปยิงซ้ำ และใช้น้ำมันเบนซิน ผสมน้ำมันเครื่องราดครูจุดไฟเผาจนไหม้ทั้งตัว โดยที่ศีรษะยังสวมหมวกกันน๊อคอยู่ ส่วนร่างกายไหม้เกรียมทั้งตัว
สมาพันธ์ครู 3 จ.ใต้ประณามฆ่า-เผาซ้ำครูสตรีรายที่170
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงน.ส.ศิริพร เสียชีวิตก่อนจะจุดไฟเผาซ้ำ ขณะเดินทางไปโรงเรียน นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญอีกครั้งหนึ่งที่ครูต้องตกเป็นเหยื่อความรุนแรงเป็นรายที่170 ตลอด 10 ขวบปีที่เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น
ขณะเดียวกัน ประเด็นที่เป็นห่วงและถูกตั้งเป็นคำถามตามมา คือ รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งพื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตรอยต่อหรือไม่ และทำไมช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในกรอบการดูแลความปลอดภัยที่กำหนดร่วมกันคือ ตั้งแต่เวลา 07.00 น.-10.00 น. แต่กลับมีการเดินทางเพียงลำพัง ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการประสานกองกำลังทุกภาคส่วน เพื่อสรุปและวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มีความปลอดภัยและเข้มงวดมากขึ้น
"เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสะเทือนใจกับพฤติกรรมของคนร้ายที่กระทำต่อครูนั้นโหดร้ายมากทั้งที่เป็นครูสตรีแต่กลับไม่มีความปราณีจึงอยากให้สังคมร่วมประณามพฤติกรรมอันโหดร้ายนี้ ขณะเดียวกันประเด็นหนึ่งที่ต้องพูดคุยกันอย่างเร่งด่วนคือ มาตรการดูแลความปลอดภัยและแนวทางการปฏิบัติทั้งในส่วนของครูและเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องทบทวนกันให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอีก" นายบุญสม กล่าว
เผย"ครูเหยื่อฆ่า-เผา"ดูแลแม่ที่แก่เพียงลำพัง
สำหรับน.ส.ศิริพร ศรีชัย หรือครูตุ๊กตา เกิดพศ.2514 อายุ43 ปี ก่อนหน้านี้เคยสอนอยูที่ร.ร.รังสีอนุสรณ์ จ.ยะลา จากนั้นก็สามารถสอบบรรจุเป็นครูประจำที่ ร.ร.ตะปิงตีงี เมื่อช่วงปี 2549-2550 ทั้งนี้ ปัจจุบัน น.ส.ศิริพร ยังไม่มีครอบครัว โดยพักอาศัยอยู่บ้านพักหลังวิทยาลัยพละศึกษายะลา ที่สำคัญเธอมีภาระกิจสำคัญ ก็คือ ต้องคอยดูแลมารดาที่มีอายุมากเพียงลำพังมาตลอด และทุกๆ เช้าก่อนไปสอนหนังสือที่ จ.ปัตตานี ก็จะต้องทำภารกิจในการดูแลแม่ก่อนขับรถจักรยานยนต์อย่างเร่งรีบ เพื่อให้ทันการสอนแทบทุกเช้า
จากการบอกเล่าของคนใกล้ชิดทราบว่า ปกติครูรายนี้จะขับรถจักรยานยนต์จากตัวเมือง จ.ยะลา เพื่อไปสอนที่ร.ร.ใน จ.ปัตตานี เป็นประจำทุกวัน. โดยใช้เส้นทาง อ.เมืองยะลา -ทุ่งยางแดง- มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่เปลี่ยวอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะรดน้ำศำในเวลา 16.00 น. ณ วัดพุทธภูมิ อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีข้าราชการระดับสูงและเพื่อนครูเข้าร่วมจำนวนมาก
"ครู"ขวัญผวาหลังเกิดเหตุคนร้ายยิง-เผาครูวัย 42
นางกิริณี พรมจันทร์ ครูโรงเรียนชุมชนบ้านต้นสน ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายยิง น.ส.ศิริพร เสียชีวิต จากนั้นจุดไฟ ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างมาก ทำให้ความรู้สึกของครูในพื้นที่เวลานี้ เริ่มเข้าสู่ภาวะการหวาดผวาต่อเหตุการณ์ความรุนแรงอีกครั้ง ทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงใกล้ปิดเทอมเป็นทางการแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบางโรงเรียนซึ่งยังจัดการเรียนการสอนไม่แล้วเสร็จจึงได้มีการนัดหมายในการเข้าไปทำงานเป็นช่วงเวลา ตามสภาพพื้นที่เพื่อความปลอดภัย แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุขึ้น โดยหลังเหตุการณ์ได้มีการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในพื้นที่ ให้ครูทุกโรงเรียนเพิ่มความระมัดระวัง
"ความสูญเสียที่เกิดขึ้นครั้งนี้ยอมรับว่า สร้างความกลัวและทำให้ครูในพื้นที่เสียขวัญมาก เพราะพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุถือว่าโหดเหี้ยม ซึ่งขณะนี้ทุกโรงเรียนได้แจ้งประสานงานให้ครูทุกคน ระมัดระวังความปลอดภัย โดยเฉพาะครูสตรีที่ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เนื่องจากสามารถสร้างกระแสความรุนแรงได้เร็ว" นางกิริณี กล่าว