ข่าว

10 อุบัติภัยการบินปริศนา

10 อุบัติภัยการบินปริศนา

15 มี.ค. 2557

เวิลด์วาไรตี้ : 10 อุบัติภัยการบินปริศนา

 
                         การสูญหายของเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งแบบปริศนา ไม่สามารถค้นพบ และการสอบสวนเบื้องต้นก็เต็มไปด้วยความสับสนและโกลาหลอย่างเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ครั้งแรก
 
                         จากการรวบรวมของบีบีซี ยังมีอุบัติภัยทางอากาศน่าฉงน 10 กรณีด้วยกัน ซึ่งมีทั้งที่ค้นพบตัวเครื่องและไขปริศนาได้ในอีกหลายสิบปีให้หลัง ทฤษฎีสมคบคิด และบางกรณีก็ยังเป็นคำถามตลอดกาล
 
 
อมิเลีย เอียร์ฮาร์ต
 
                         กรณีโด่งดังที่สุดตลอดกาลเป็นของเอมิเลีย เอียร์ฮาร์ต นักบินหญิงคนแรกของโลกที่บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้สำเร็จ หายสาบสูญไร้ร่องรอยขณะกำลังทำตามความฝันบินเดี่ยวรอบโลก เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2480 พร้อมเครื่องบินสองเครื่องยนต์ล็อกฮีด แอล-10 อี อิเล็กตรา และนายเฟรด นูนัน ต้นหนของเธอ ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เป็นปมปริศนาคาใจชาวอเมริกันมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบอย่างแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับสตรีผู้สร้างสถิติการบินอย่างน่าทึ่ง ในยุคที่ผู้หญิงยังไม่มีบทบาทมากนัก หลังความพยายามค้นหาสองปียังไร้วี่แวว จึงมีการประกาศว่าเธอเสียชีวิต แต่ยังมีหลายกลุ่มที่ไม่ยุติความพยายามไขปริศนา
 
 
แอร์ฟรานซ์ 447
 
                         เครื่องบินแอร์บัส 330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบิน 447 จากนครริโอเดอจาเนโร ไปยังกรุงปารีส ประสบเหตุตกพร้อมกับ 228 ชีวิตบนเครื่องเมื่อปี 2552  ใช้เวลา 5 วันกว่าจะพบชิ้นส่วนซากเครื่องบิน และสองปีก่อนการค้นพบกล่องดำ ณ ความลึกประมาณ 4,000 เมตร พนักงานสอบสวนชาวฝรั่งเศสพบว่า นักบินตัดระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังจากมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะท่อที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ความเร็ว เซ็นเซอร์ส่งข้อมูลที่ผิดพลาด นักบินเชิดหัวเครื่องบินขึ้นเพื่อรักษาระดับความสูงไว้แต่มุมสูงเกินไป จนอยู่ในภาวะร่วงหล่น ทั้งที่มีสัญญาณเตือนในห้องนักบินเกือบหนึ่งนาที ทำให้เครื่องบินแอร์บัสเอ 300-200 ดิ่งจากความสูง 3.6 หมื่นฟุตสู่มหามหาสมุทรแอตแลนติก แต่แอร์ฟรานซ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา
 
 
อียิปต์ แอร์ เที่ยวบิน 990
 
                         เที่ยวบินปกติจากสนามบินเจเอฟเค ในนครนิวยอร์ก ไปยังกรุงไคโร เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2542 ประสบเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติก คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ 217 คน จุดตกเกิดในน่านน้ำสากล การสอบสวนจึงเป็นหน้าที่ของทางการอียิปต์ ตอนแรก อียิปต์ร้องขอให้หน่วยงานการบินอเมริกันสอบสวนในนามของตนเอง แต่เปลี่ยนใจ หลังสหรัฐสรุปว่า นักบินร่วมชาวอียิปต์เจตนาทำเครื่องบินตก เพราะถูกสายการบินตำหนิอย่างรุนแรงฐานประพฤติไม่เหมาะสมทางเพศ แต่ทางการอียิปต์ระบุสาเหตุการตกมาจากเหตุขัดข้องทางเทคนิค
 
 
เครื่องบินสตาร์ ดัสต์
 
                         ในเดือนสิงหาคม 2490 เครื่องบินสตาร์ ดัสต์ ของสายการบินบริทิช เซาท์ อเมริกัน แอร์เวย์ส ประสบเหตุตกแถบเทือกเขาแอนดีสของประเทศอาร์เจนตินา ระหว่างเที่ยวบินปกติจากกรุงบูเอโนสไอเรส ไปยังกรุงซานติอาโก ประเทศชิลี การค้นหาเครื่องบินคว้าน้ำเหลวและมีทฤษฎีการสูญหายต่างๆ นานา ตั้งแต่การก่อวินาศกรรม ไปจนถึงมนุษย์ต่างดาว จากการส่งรหัสสุดท้ายมายังสนามบินซานติอาโกของชิลีที่สร้างความฉงนอยู่นาน การคาดเดาได้ข้อยุติในครึ่งศตวรรษหลังจากนั้น เมื่อนักปีนเขาพบซากเครื่องบินโดยบังเอิญ และผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าสภาพอากาศเลวร้ายทำให้นักบินสับสนและตัดสินใจผิดพลาดเริ่มลดระดับเร็วเกินไปโดยไม่ตั้งใจ เป็นสาเหตุการตก
 
 
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
 
                         เรือและเครื่องบินจำนวนหนึ่งสูญหายไร้ร่องรอยในช่วงหลายสิบปี ในน่านน้ำรูปสามเหลี่ยมกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ อยู่ระหว่างเกาะเบอร์มิวดา ปลายสุดของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และเปอร์โตริโก เครื่องบินสองลำของบริทิช เซาท์ อเมริกัน แอร์เวย์ส สูญหายในพื้นที่แห่งนี้ในคริสต์ทศวรรษหลังปี 2493 แต่การวิจัยค้นคว้าของนักข่าวบีบีซีในปี 2552 พบว่ามีหนึ่งลำที่น่าจะประสบเหตุขัดข้องทางเทคนิค ขณะอีกลำน่าจะน้ำมันหมด ถึงอย่างนั้น ผู้คนยังคงเชื่อในความลี้ลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอยู่ต่อไป
 
 
เที่ยวบิน 571 ของกองทัพอากาศอุรุกวัย
 
                         เป็นเครื่องบินอีกลำที่เป็นเหยื่อของเมฆลอยต่ำและภูเขาสูง ก่อนเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีห้องนักบิน ที่มีตัวช่วยนักบินให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น เที่ยวบิน 571 กำลังบินจากอุรุกวัยไปยังกรุงซานติอาโก ประเทศชิลี และตกในเทือกเขาแอนดีส โดยสูญเสียปีกทั้งสองข้างหลังเฉี่ยวชนยอดเขา ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง มีทั้งหมด 45 คน มีครึ่งหนึ่งรอดตายจากแรงกระแทก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีชีวิตอยู่ได้อีก 72 วัน ขณะติดค้างในแถบภูเขา ในที่สุดทีมกู้ภัยเข้าถึงผู้รอดชีวิตที่เหลืออีก 16 คน ซึ่งพวกเขายอมรับว่ากินเนื้อมนุษย์ประทังชีวิต เรื่องราวของผู้รอดชีวิตเหล่านี้ถูกบอกเล่าในภาพยนตร์ปี 2536 เรื่อง Alive
 
 
เที่ยวบิน TWA800
 
                         สายการบินทรานส์ เวิลด์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 800 เกิดระเบิดและตกไม่กี่นาที หลังทะยานจากสนามบินเจเอฟเค ในนิวยอร์ก หลังเวลา 20.00 น.ของวันที่ 17 กรกฎาคม 2539 คร่าชีวิตคนบนเครื่องทั้งหมด 230 คน
 
                         นักบินของอีกเที่ยวบินได้วิทยุถึงหอควบคุมการบินบอสตัน ในวันนั้นว่า "เราเพิ่งเห็นการระเบิดอยู่ข้างหน้าเรา ประมาณ 16,000 ฟุต เพิ่งตกลงทะเล" การสอบสวนพบไฟฟ้าลัดวงจร เป็นสาเหตุให้ถังน้ำมันที่ปีกข้างหนึ่งเกิดระเบิด แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน นำมาซึ่งทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานา เนื่องจากเป็นยุคที่การใช้อินเทอร์เน็ตขยายตัวแล้ว คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้ถูกยิงตก และมีผู้เชื่อทฤษฎีนี้มากขึ้นหลังจากปิแอร์ ซาลิงเกอร์ นักข่าวที่เคยอยู่ในคณะทำงานด้านสื่อของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี อ้างว่า การทดสอบขีปนาวุธของสหรัฐในช่วงเวลานั้น เป็นสาเหตุการระเบิด แต่เอกสารที่ใช้สนับสนุนทฤษฎีนี้ถูกตีตกว่าไม่น่าเชื่อถืออย่างรวดเร็ว
 
 
เที่ยวบิน B-24D กองทัพอากาศสหรัฐ
 
                         เครื่องบินทิ้งระเบิด เลดี้ บี กู้ด ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจเหนือเมืองเนเปิล ประเทศอิตาลี เมื่อเดือนเมษายน 2486 และไม่เคยบินกลับฐานทางตะวันออกของลิเบียอีกเลย ในเวลานั้น สันนิษฐานกันว่าเครื่องบินตกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และลูกเรือทั้ง 9 คนถูกประกาศเป็นบุคคลสูญหายระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงที่พบในเวลาต่อมาคือ เครื่องบินลำนี้ประสบปัญหาเทคนิค บินเลยฐานไปสองชั่วโมง ลึกเข้าไปในแอฟริกาเหนือ ลูกเรือสละเครื่องโดดร่มชูชีพ จากนั้น 8 คนที่รอดเดินทางขึ้นเหนือ เป็นระยะทางเกือบ 160 กิโลเมตรก่อนพ่ายแพ้ต่อความร้อนและขาดน้ำ ทีมสำรวจน้ำมันพบซากเครื่องบินกลางทะเลทรายในอีก 15 ปีหลังจากนั้น โดยไม่น่าเชื่อว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดลำนี้ยังคงสภาพดีและปืนกลยังทำงานอยู่
 
 
เบลลังกา ซูเปอร์ เดแคธลอน ของสตีฟ ฟอสเซต
 
                         มหาเศรษฐีนักผจญภัย สตีฟ ฟอสเซตต์ พร้อมเครื่องบินเบลลังกา ซูเปอร์ เดแคธลอน ขึ้นบินจากลานบินส่วนตัวในรัฐเนวาดาเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2550 และไม่มีใครพบเห็นอีกเลยอยู่นานหลายเดือน
 
                         การค้นหาฟอสเซต วัย 63 ปี ผู้เป็นมนุษย์คนแรกที่บินเดี่ยวรอบโลกโดยไม่แวะเติมน้ำมัน สิ้นสุดลงเมื่อมีการพบเครื่องบินเครื่องยนต์เดี่ยวลำนี้ในเดือนตุลาคม 2551 หลังการค้นหาที่มีหน่วยงานมากมาย อาสาสมัคร และตัวช่วยอย่างแผนที่ กูเกิล เอิร์ธ พนักงานสอบสวนระบุว่า กระแสลมแรงน่าจะเป็นสาเหตุการตก
 
 
เครื่องบินส่วนตัวบิ๊กวงการแฟชั่น
 
                         เครื่องบินเล็กของวิตโตริโอ มิสโซนี ผู้บริหารห้องเสื้อ “มิสโซนี” หนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลี สูญหายนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาในเดือนมกราคมปีที่แล้ว พร้อมภรรยาและอีก 4 คน บนเที่ยวบินจากหมู่เกาะลอส โรเกส ไปยังกรุงการาคัส เมืองหลวงเวเนซุเอลา เครื่องบินสูญเสียความสูงและความเร็วอย่างกะทันหันก่อนหายไปจากจอเรดาร์ อีก 6 เดือนให้หลัง นักประดาน้ำพบซากเครื่องบินและตัวอย่างจากศพ ที่ต่อมายืนยันว่า มีมิสโซนีและภรรยาของเขารวมอยู่ด้วย เป็นครั้งที่สองที่เครื่องบินสูญหายในลอส โรเกส ซึ่งกลายเป็นบริเวณที่ปัจจุบันเรียกขานว่า สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งใหม่
 
                         จากบันทึกประวัติศาสตร์เหล่านี้ แม้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ปริศนาเพิ่มขึ้นอีกหลายข้อในกรณีของเอ็มเอช 370 ด้วยหลากหลายเหตุผล
 
                         นอกจากขนาดของเครื่องบินและความทันสมัยของระบบสื่อสารระหว่างอากาศยานขนาดยักษ์กับภาคพื้น ผ่านระบบดาวเทียมและวิทยุแล้ว จุดที่เครื่องบินหายก็ไม่ใช่มหาสมุทรเวิ้งว้างไร้การสัญจรหรือป่าลึกเหมือนกับในหลายกรณีข้างต้น จนนำไปสู่การคาดการณ์ทฤษฎีการตก ที่ล้ำลึกพิศวงพอๆ กับการสูญหายของเครื่องบินระหว่างรอการไขปริศนาเลยทีเดียว แต่สำหรับนักคิดด้านการบิน การสูญหายของเครื่องบินทันสมัยปลอดภัยที่สุด คงเป็นโจทย์ใหม่ให้ขบคิดว่ายังมีขีดจำกัดเทคโนโลยีในด้านใดที่ยังสามารถขยายได้อีก