
'MH370'บินต่อ5ชม.หลังหายจอเรดาร์
13 มี.ค. 2557
'สหรัฐ' ชี้ เครื่องบินมาเลเซีย ยังบินอยู่อีก 4-5 ชั่วโมง หลังหายไปจากจอเรดาร์ ขณะที่ 'ผบ.ทร.' เผย ยังไม่พบ 'MH370' ทั้งในอ่าวไทย-อันดามัน
13 มี.ค. 57 ทีมสืบสวนของสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยว่า เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่หายจากจอเรดาร์อย่างปริศนา อาจบินอยู่ในอากาศต่อไปอีก 4-5 ชั่วโมง หลังพบปรากฏอยู่บนเรดาร์ครั้งสุดท้าย ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า เครื่องบินอาจบินไปไกลกว่าจุดสุดท้ายอีกหลายร้อยไมล์
หนังสือพิมพ์วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนอากาศยาน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งชาติสหรัฐ เชื่อว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER อาจบินอยู่ในอากาศอีกราว 5 ชั่วโมง โดยอ้างจากข้อมูลที่ส่งจากเครื่องยนต์ของเครื่องบินสู่ภาคพื้นดินของบริษัทโบอิ้งโดยอัตโนมัติ โดยระบบนี้เป็นโปรแกรมตรวจสอบและซ่อมบำรุงของบริษัทโบอิ้ง ที่ใช้สำหรับตรวจสอบเครื่องยนต์ของโบอิ้งตระกูล 777
นอกจากนี้ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ยืนยันด้วยว่า กัปตันเที่ยวบิน MH370 มีความสามารถในการปิดอุปกรณ์แจ้งตำแหน่งเครื่องบินเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากเรดาร์ หรือภัยพิบัติทางอากาศอาจเป็นตัวทำลายมันก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการก่อการร้ายของสหรัฐฯ เปิดเผยอ้างข้อมูลจากบุคคลที่ติดตามเรื่องนี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ว่านักบิน หรือบุคคลใดคนหนึ่งบนเครื่อง อาจหันหัวเครื่องไปยังทิศทางอื่นๆ หลังจากที่มีการปิดอุปกรณ์แจ้งตำแหน่งเครื่องบิน
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการบินว่า จากหลักฐานเท่าที่รวบรวมได้ขณะนี้ เครื่องบินน่าจะบินต่อไปไปทางทิศตะวันตกอีกหลายชั่วโมงจากจุดที่หายไปจากจอเรดาร์ และเครื่องบินลำนี้มีเชื้อเพลิงมากพอที่จะไปปักกิ่งตามจุดหมาย และมีน้ำมันสำรองพอที่จะไปยังสนามบินอื่นหากเปลี่ยนเส้นทาง ทำให้อาจบินไปได้ไกลอีกอย่างน้อย 2,000 ไมล์ และมีความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์แจ้งตำแหน่งเครื่องบินอาจทำงานผิดปกติ หรือนักบินอาจปิดโดยบังเอิญ แต่ก็น่าสงสัยที่อุปกรณ์ไม่ทำงานตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางกะทันหัน จึงอาจเป็นการเจตนาบินเพื่อหลบเลี่ยงเรดาร์โดยนักบิน หรือถูกจี้เครื่องบิน
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ตามมาด้วยคำถามใหม่ และความเป็นไปได้ใหม่ๆ ถึงกรณีของเครื่องบิน MH370 ที่บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน ที่หายไปจากจอเรดาร์ของศูนย์ควบคุมการบินเมื่อวันเสาร์ หลังขึ้นบินเพียง 1 ชั่วโมง ตามข้อมูลดั้งเดิม และยังทำให้ขอบเขตของการค้นหา ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
ส่วนโฆษกสำนักงานการบินพลเรือนจีนแถลงวันนี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า วัตถุ 3 ชิ้นที่ลอยในบริเวณทะเลจีนใต้ และดาวเทียมของจีนบันทึกภาพไว้ได้เมื่อสุดสัปดาห์ ไม่ใช่เศษชิ้นส่วนใดๆ จากเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซีย ทำให้ปริศนาเกี่ยวกับตำแหน่งสุดท้ายของเครื่องบินยังคงมืดมนต่อไป
ขณะที่กองทัพอากาศมาเลเซีย เปิดเผยวันนี้ว่า จะยังค้นเพิ่มการค้นหาอย่างเข้มข้นในบริเวณทะเลอันดามัน จุดใหม่ที่เพิ่งเริ่มการค้นหาเมื่อวาน แต่จากการค้นหานาน 3 ชม. 45 นาทีในวันนี้ ยังไม่พบร่องรอยใดๆ ขณะนี้มาเลเซียขยายการค้นหาไปทางทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของมาเลเซีย หลังจากมีความเป็นไปได้ว่าเครื่องบินที่จะมุ่งหน้าไปจีนอาจหันหัวกลับสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์
'ทร.' ปรับแผนค้นหาเครื่องบินมาเลย์
นาวาเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม รองโฆษกกองทัพเรือ แจ้งว่า กองทัพเรือมีแผนในการค้นหาเครื่องบินมาเลเซียตกในวันนี้ โดยฝั่งอันดามัน ทัพเรือภาคที่ 3 ส่งเครื่องบินลาดตระเวนดอร์เนียร์ ค้นหาในพื้นที่ S และ R ที่เพดานบิน 2,000-3,000 ฟุต ในเวลา 08.45 - 12.00 น. โดยได้ประสานแจ้งให้นายทหารติดต่อของ ทร.มาเลเซีย ทราบแล้ว ส่วนฝั่งอ่าวไทย ทัพเรือภาคที่ 2 ส่งเครื่องบินลาดตะเวนดอร์เนีย บินลาดตะเวนค้นหาผู้ประสบภัยในทะเล บริเวณพื้นที่ b ในเวลา 09.30-13.30 น.
'ผบ.ทร.' เผย ยังไม่พบเครื่องบินมาเลย์ทั้งในอ่าวไทย-อันดามัน
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการช่วยค้นหาเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง บี777-200 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ที่สูญหายไปว่า จากการลาดตระเวนทั้งในทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลฝั่งอันดามันของกองทัพเรือ ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งใดที่บอกเหตุว่าเครื่องบินจะตกลงบริเวณจุดใด แต่จะเดินหน้าค้นหาตามคำร้องขอของทางการมาเลเซีย และจะไม่ยกเลิกภารกิจดังกล่าว เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่เจอสิ่งใดที่เชื่อมโยงกับเครื่องบินลำที่หายไป ส่วนสาเหตุการหายไปของเครื่องบินดังกล่าวก็คงเหมือนข่าวต่างๆ ที่มีการนำเสนอในช่วงแรก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุ ก่อการร้าย หรือสาเหตุใด เนื่องจากยังไม่มีสิ่งใดบอกเหตุที่แน่ชัด ข่าวที่ออกมาในช่วงแรกก็ค่อนข้างสับสนในจุดที่ระบุว่าเครื่องบินดังกล่าวหายไปจากจอเรดาร์ ซึ่งทางการมาเลเซียก็ให้คำตอบไม่ชัดเจน อีกทั้งไม่มีการสรุปว่าแท้จริงแล้วเครื่องบินหายไปในบริเวณใด เป็นการบินวกกลับหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเรือ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจค้นหาที่คาดว่าอาจจะใช้เวลาค้นหาเครื่องบินลำดังกล่าวที่ยืดเยื้อออกไปหรือไม่ พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ทางกองทัพเรือมีการความเตรียมพร้อมอยู่แล้ว โดยจะใช้เรือที่มีดาดฟ้าจอดเฮลิคอปเตอร์เข้ามาร่วมภารกิจ เพื่อให้ปฏิบัติการลาดตระเวนค้นหาเครื่องบินของมาเลเซียมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งกองทัพเรือจะเดินหน้าค้นหาในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันต่อไปจนกว่าทางการมาเลเซียจะยกเลิก
กองทัพมาเลเซียตามรอยเครื่องบินใกล้เกาะภูเก็ตของไทย
กองทัพของมาเลเซีย กำลังติดตามร่องรอยที่อาจของเป็นเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200 ER เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเกือบ 6 วันแล้วโดยจุดที่เป็นเป้าในการค้นหาล่าสุดอยู่ทางใต้ของเกาะภูเก็ต สถานตากอากาศเลื่องชื่อของไทยที่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกของจุดที่ทราบพิกัดของเครื่องบินเป็นครั้งสุดท้ายหลายร้อยกิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศของมาเลเซีย ได้ให้ความเห็นที่ขัดแย้งกันหลายครั้งเกี่ยวกับข่าวคราวความคืบหน้าของเครื่องบิน พร้อมผู้โดยสาร 239 คน ที่ทางการยังคงไม่แน่ใจแม้กระทั่งว่าจะค้นหาที่มหาสมุทรไหน // รายงานการพบเครื่องบินบนจอเรดาร์ของพลเรือน ได้มีขึ้นในเวลาอันสั้นก่อนเวลา 01.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเมื่อวันเสาร์ หรือหลังจากทะยานขึ้นจากสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ไม่ถึงชั่วโมง และพบว่า มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ข้ามปากอ่าวไทย เพื่อบ่ายหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง ส่วนประเด็นที่ว่า เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ได้กลายเป็นปริศนาลึกลับที่สุดของประวัติศาสตร์การบินสมัยใหม่ก็ว่าได้ และข้อมูลก็ขัดแย้งกันเองจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซีย ก็ยิ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการรับมือกับวิกฤติที่เกิดขึ้น
ด้านเว็บไซต์ของสำนักงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันแห่งชาติของรัฐ ของจีน ได้เผยแพร่ข้อมูลที่ระบุว่า ดาวเทียมของจีนได้ถ่ายภาพวัตถุต้องสงสัยที่ลอยอยู่ 3 ชิ้น ในน่านน้ำทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ และทางใต้ของเวียดนาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และภาพที่ถ่ายได้ น่าจะอยู่ในพื้นที่ต้องสงสัยว่าจะเกิดอุบัติเหตุในทะเลที่ไม่ไกลจากบริเวณทราบกันว่า เครื่องบินได้มีการสื่อสารกับหอบังคับการบินเป็นครั้งสุดท้าย
ทางสำนักงานระบุว่า วัตถุต้องสงสัยมีขนาดวัดได้ประมาณ 22x24 เมตร / 14x19 เมตร และ 13x18 เมตร ซึ่งไม่แน่ชัดว่า บริเวณนี้เคยถูกค้นหาไปแล้วหรือยัง และไม่มีการชี้แจงด้วยว่า เหตุใดจึงปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป 4 วัน ถึงจะเอาภาพมาเผยแพร่ // เจ้าหน้าที่้ด้านกลาโหมคนหนึ่งของสหรัฐ ระบุว่า ดาวเทียมสหรัฐไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าเครื่องบินตก
เมื่อวันพุธ พลอากาศเอกร้อดซาลี่ ดาอุด ผู้บัญชาการกองทัพอากาศมาเลเซีย กล่าวในการแถลงข่าวว่า เรดาร์ทหารได้ตรวจจับเครื่องบินได้ เมื่อเวลา 02.15 น. ในบริเวณห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง นอกชายฝั่งทางตะวันตกของมาเลเซียราว 200 ไมล์ แต่ไม่ได้ยืนยันว่า เป็นเที่ยวบิน MH370 หรือไม่ และมาเลเซียกำลังอยู่ระหว่างการแบ่งปันข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนของนานาชาติ รวมทั้งสหรัฐด้วย
จากข้อมูลของพลอากาศเอกร้อดซาลี่ ถ้าเรดาร์ตรวจพบเครื่องบินที่สูญหายจริง เครื่องบินก็น่าจะบินอยู่ในอากาศ 45 นาที และลดระดับลงไปอยู่บนความสูงราว 5,000 ฟุต นับตั้งแต่เรดาร์พลเรือนตรวจพบขณะอยู่ในบริเวณอ่าวไทย // ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางของเครื่องบิน แต่ถ้าเป็นไปตามที่เรดาร์ตรวจพบ เครื่องบินน่าจะหันหัวไปทางตะวันตก และบินอยู่เหนือคาบสมุทรมาลายู จากอ่าวไทยไปยังทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง ทางเหนือของช่องแคบมะละกาประมาณ 200 ไมล์ หรืออยู่ห่างไปทางใต้ของเกาะภูเก็ต และทางตะวันออกของจังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซีย และเกาะนิโคบาร์ ของอินเดีย
อินโดนีเซียและไทย ระบุว่า ทางกองทัพของสองประเทศ ไม่ได้ตรวจพบสัญญาณใดๆ ที่แสดงถึงความผิดปกติในน่านฟ้า ส่วนมาเลเซียได้ขอร้องให้อินเดียช่วยตามรอยเครื่องบินด้วย ซึ่งเครื่องบินของหน่วยยามฝั่งอินเดีย ได้ร่วมปฏิบัติการค้นหาด้วย // สำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมการบินทางอากาศและเรดาร์ ที่เดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ได้ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่มาเลเซียในการค้นหาเครื่องบิน
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เห็นบันทึกเรดาร์สองชุด ซึ่งเป็นของทหารหนึ่งชุดและพลเรือนหนึ่งชุด และทั้งสองชุดก็แสดงให้เห็นเครื่องบินบ่ายหน้าไปทางตะวันตกและข้ามคาบสมุทรมาลายู // รายงานล่าสุด ระบุว่า ทางการยังคงค้นหาทั้งบริเวณคาบสมุทรมาลายูในพื้นที่กว่า 93,000 ตารางกิโลเมตร หรือขนาดเท่าพื้นที่ประเทศฮังการี หรือรัฐอินเดียน่าของสหรัฐ โดยมี 12 ประเทศเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหา ที่รวมทั้งเรือ 42 ลำ และเครื่องบิน 39 ลำ
'มาเลเซีย แอร์ไลน์ส' เปลี่ยนแปลงตัวเลขเที่ยวบิน
สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 17 ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน จาก MH370 กรุงกัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง เปลี่ยนเป็น MH 318 - Kuala Lumpur - Beijing และเที่ยวบิน MH371 เที่ยวบินจากปักกิ่ง-กรุงกัวลาลัมเปอร์ เปลี่ยนเป็น MH 319 - Beijing - Kuala Lumpur แทน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 มีนาคม คือในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดเปลี่ยนแปลงตารางการบินแต่อย่างใด ยังคงให้บริการเที่ยวบินดังไปยังกรุงปักกิ่ง 2 รอบต่อวันเช่นเคย
'เวียดนาม' เคยค้นหาบริเวณที่จีนถ่ายภาพวัตถุในทะเล แต่จะตรวจซ้ำอีกรอบ
นายฟาม กาย เทือ รัฐมนตรีช่วยคมนาคมของเวียดนามที่เป็นหัวหน้าทีมค้นหาเปิดเผยวันนี้ว่า เวียดนามเคยตรวจค้นบริเวณที่จีนพบวัตถุต้องสงสัยแล้วในช่วงสามวันที่ผ่านมา แต่วันนี้จะส่งเครื่องบินไปตรวจซ้ำในบริวเณนั้นอีก และกำลังรอตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมของจีนเพื่อให้สามารถระบุตำแหน่งที่แน่ชัดสำหรับการค้นหาต่อไป
ก่อนหน้านี้นายเทือ แถลงที่กรุงฮานอยเมื่อวันพุธภายหลังกลับจากการควบคุมภารกิจค้นหาที่เกาะฟู้ก๊วกของเวียดนามว่า มาเลเซียไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเวียดนามตั้งแต่วันแรกที่เข้าร่วมภารกิจการค้น ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเรื่องที่เป็นปริศนา
โดยในขณะที่เวียดนามเผยแพร่รายงานข่าวทุคกรั้งที่พบเศษชิ้นส่วนอะไรต้องสงสัยที่จะเกี่ยวข้องกับเครื่องบินที่หายไปเมื่อวันเสาร์ แต่มาเลเซียกลับไม่ให้ข้อมูลใหม่อะไรกับเวียดนาม นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า เครื่องบินเป็นของมาเลเซีย ดังนั้นมาเลเซียก็ควรเป็นแหล่งข้อมูลหลัก แต่เท่าที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเวียดนามเท่าที่ควร
เขาบอกด้วยว่า เวียดนามพบเที่ยวบิน MH370 หันหัวกลับไปทางตะวันตกตั้งแต่วันเสาร์ และได้แจ้งทางการมาเลเซียแล้วสองครั้งในวันเดียวกันแต่ไมได้รับการตอบกลับ
นอกจากนี้มีรายงานว่าเวียดนามลดจำนวนเที่ยวบินค้นหาเมื่อวันพุธระหว่างรอความชัดเจนว่าเครื่องบินที่จะมุ่งหน้าไปจีน ได้เปลี่ยนทิศทางเพื่อหันหัวกลับหรือไม่ หลังมาเลเซียไม่ให้คำตอบ แต่ต่อมาได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินค้นหาเต็มกำลังตามปกติในวันเดียวกัน
ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้แจ้งไปยังมาเลเซียผ่านช่องทางการทูตเพื่อขอให้มาเลเซียตรวจสอบข่าวลือโดยเร็วเกี่ยวกับการเปลี่ยนเส้นทางของเที่ยวบิน MH370 และแจ้งรายรายละเอียดให้ทราบทั้งหมด
เสียงวิจารณ์จากเวียดนามและการร้องขอจากจีนสอดคล้องกับเสียงวิจารณ์จากสื่อและชาวมาเลเซียเอง ที่เริ่มหมดความอดทนเมื่อยังไม่มีความคืบหน้าของการค้นหาและมาเลเซียให้ข้อมูลสับสนขัดแย้งกันเองหลายครั้ง โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งสุดท้ายของเครื่องบิน ก่อนหายจากจอเรดาร์ ทำให้เชื่อว่ามีการปกปิดข้อมูล
-------------------------
(หมายเหตุ : ภาพแฟ้มข่าว)